ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการสอนภาษาแบบองค์รวมผสมผสานแนวคิด Active Learning เพื่อส่งเสริมความสามารถทางการสื่อสารภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพปัญหา ข้อมูลพื้นฐาน และความต้องการต่อการพัฒนารูปแบบการสอนภาษาแบบองค์รวมผสมผสานแนวคิด Active Learning เพื่อส่งเสริมความสามารถทางการสื่อสารภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 2) พัฒนารูปแบบการสอนภาษาแบบองค์รวมผสมผสานแนวคิด Active Learning เพื่อส่งเสริมความสามารถทางการสื่อสารภาษาอังกฤษของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 3) ทดลองใช้รูปแบบการสอนภาษาแบบองค์รวมผสมผสานแนวคิด Active Learning เพื่อส่งเสริมความสามารถทางการสื่อสารภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 และ 4) ประเมิน ผลการใช้รูปแบบการสอนภาษาแบบองค์รวมผสมผสานแนวคิด Active Learning เพื่อส่งเสริมความสามารถ ทางการสื่อสารภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/9 โรงเรียนเทศบาล 4 ระบบสาธิตเทศบาลเมืองลพบุรี ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2562 นักเรียนจำนวน 30 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แบบสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญด้านหลักสูตรและการสอนภาษาอังกฤษ เพื่อศึกษาแนวทางการพัฒนาครู ในการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร 2) แบบสัมภาษณ์ครูผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่าง ประเทศถึงปัญหาของการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมความสามารถในการสื่อสารภาษาอังกฤษ 3) แบบสอบถาม ความคิดเห็นครูผู้สอนเพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐาน และความจำเป็นของการจัดการเรียนรู้ที่ส่งเสริมความสามารถ ทางการสื่อสารภาษาอังกฤษของนักเรียน 4) รูปแบบการสอนภาษาอังกฤษตามแนวการสอนภาษาแบบองค์รวมผสมผสานแนวคิด Active Learning เพื่อส่งเสริมความสามารถทางการสื่อสารภาษาอังกฤษของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 5) แผนการจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบการสอนภาษาอังกฤษตามแนวการสอนภาษาแบบองค์รวมผสมผสานแนวคิด Active Learning 6) แบบทดสอบความสามารถทางการสื่อสารภาษาอังกฤษ และ 7) แบบประเมินรูปแบบการสอนภาษาอังกฤษตามแนวการสอนภาษาแบบองค์รวมผสมผสานแนวคิด Active Learning เวลาที่ใช้ในการดำเนินการทดลอง 18 ชั่วโมง แบบแผนการทดลองเป็นแบบ One-Group Pretest-Posttest Design และสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลและทดสอบสมมติฐาน ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่า E1/E2 และการทดสอบที (t-test dependent samples)

ผลการวิจัยพบว่า

1. ผลการศึกษาสภาพปัญหา ข้อมูลพื้นฐานและความต้องการต่อการพัฒนารูปแบบการสอนภาษาแบบองค์รวมผสมผสานแนวคิด Active Learning เพื่อส่งเสริมความสามารถทางการสื่อสารภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เป็นดังนี้ 1) จากการสัมภาษณ์ความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญด้านการสอนภาษาอังกฤษและผู้เชี่ยวชาญด้านหลักสูตร พบว่า ครูควรมีการศึกษาหลักสูตร ควรใช้หลักจิตวิทยาในการวิเคราะห์ผู้เรียนเป็นรายบุคคลและแสดงศักยภาพในด้านการออกแบบการเรียนรู้ โดยมีการเตรียมการสอน มีการใช้สื่ออุปกรณ์และส่งเสริมสภาพแวดล้อมที่ดี และมีการประเมินผลอย่างเป็นระบบและสร้างเครือข่ายการพัฒนาการศึกษา 2) ครูผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ โรงเรียนเทศบาล 4 ระบบสาธิตเทศบาลเมืองลพบุรี ถึงปัญหาของการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมความสามารถในการสื่อสารภาษาอังกฤษ พบว่า นักเรียนมีความรู้พื้นฐานภาษาอังกฤษไม่เท่ากันในแต่ละทักษะ นักเรียนแต่ละห้องมีจำนวนมากเกินไปทำให้ เวลาในการฝึกภาษาแต่ละชั่วโมงเรียนไม่เพียงพอและทั่วถึง นักเรียนมีโอกาสในการฝึกในสถานการณ์จริง และนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน ขาดแรงจูงใจในการเรียน หลักสูตรที่กว้างเกินไปและต้องการ ให้บรรลุผลการเรียนรู้และตัวชี้วัดที่มากเกินไป ผู้สอนส่วนใหญ่ยังขาดทักษะในการจัดโอกาสให้นักเรียนได้ใช้กระบวนการคิด และฝึกปฏิบัติการใช้ภาษาอย่างเป็นระบบ นักเรียนขาดความใฝ่เรียนใฝ่รู้ และส่วนใหญ่ไม่มีความรับผิดชอบต่อการเรียน และสื่ออุปกรณ์ส่งเสริมการจัดการเรียนการสอนมีค่อนข้างจำกัด และ 3) จาก การศึกษาความจำเป็น ของการจัดการเรียนรู้ที่ส่งเสริมความสามารถทางการสื่อสารภาษาอังกฤษของนักเรียน พบว่า ครูผู้สอนมีความคิดเห็นว่ามีความจำเป็นในการจัดการเรียนรู้ที่ส่งเสริมความสามารถการสื่อสารภาษาอังกฤษของนักเรียนของครูผู้สอน ภาพรวมพบว่า มีความจำเป็นอยู่ในระดับมากที่สุด (x̄ = 4.61, S.D. = 0.49)

2. ผลการพัฒนารูปแบบการสอนภาษาแบบองค์รวมผสมผสานแนวคิด Active Learning เพื่อส่งเสริม ความสามารถทางการสื่อสารภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ปรากฏผลดังนี้ ได้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่มีชื่อว่า “PAAE Model” โดยมีองค์ประกอบ ดังนี้ 1) ทฤษฎี/หลักการ/ แนวคิดของรูปแบบ 2) วัตถุประสงค์ของรูปแบบ 3) กระบวนการจัดการเรียนรู้ของรูปแบบ มี 4 ขั้นตอน คือ 3.1) ขั้นนำเสนอสื่อและเนื้อหา (Presentation : P) 3.2) ขั้นปฏิบัติกิจกรรม (Active Learning : A) 3.3) ขั้นนำเสนอผลงาน (Application : A) 3.4) ขั้นวัดและประเมินผล (Evaluation : E) 4) สื่อและแหล่งเรียนรู้ และ 5) การวัดและประเมินผล ผลที่เกิดขึ้นกับผู้เรียนจากการเรียนด้วยรูปแบบการสอน มีคุณภาพเหมาะสมตามความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญ ภาพรวมมีความเหมาะสมในระดับมากที่สุด (x̄ = 4.58 , S.D. = 0.50) และแผนการจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบการสอน ตามความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญ ภาพรวมมีความเหมาะสม ในระดับมากที่สุด (x̄ = 4.59 , S.D. = 0.50) ผลการพัฒนารูปแบบการสอนก่อนนำไปทดลองใช้กับกลุ่มตัวอย่าง พบว่า การหาประสิทธิภาพรายบุคคล 67.22/65.94 การหาประสิทธิภาพกลุ่มย่อย 76.30/75.15 และการหาประสิทธิภาพภาคสนาม 80.92/80.12

3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการสอนภาษาแบบองค์รวมผสมผสานแนวคิด Active Learning เพื่อส่งเสริมความสามารถทางการสื่อสารภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 พบว่า 1) ประสิทธิภาพของรูปแบบการสอนภาษาแบบองค์รวมผสมผสานแนวคิด Active Learning เพื่อส่งเสริมความสามารถทางการสื่อสารภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เท่ากับ 83.36/81.9 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้ และ 2) ผลการเปรียบเทียบคะแนนความสามารถทางการสื่อสารภาษาอังกฤษก่อนและหลังเรียนของกลุ่มตัวอย่างภายหลังเรียนด้วยรูปแบบการสอนภาษาแบบองค์รวมผสมผสานแนวคิด Active Learning เพื่อส่งเสริมความสามารถทางการสื่อสารภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

4. ผลการประเมินการใช้รูปแบบการสอนภาษาแบบองค์รวมผสมผสานแนวคิด Active Learning เพื่อส่งเสริมความสามารถทางการสื่อสารภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยศึกษาจากการวัดความพึงพอใจของนักเรียนกลุ่มตัวอย่างที่เกิดขึ้นภายหลังการเรียนโดยใช้รูปแบบการสอนภาษาแบบองค์รวมผสมผสานแนวคิด Active Learning เพื่อส่งเสริมความสามารถทางการสื่อสารภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ในภาพรวม นักเรียนมีความพึงพอใจในระดับมาก (x̄ = 4.43, S.D. = 0.49) และเมื่อพิจารณาเป็นรายด้านนักเรียนมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากขึ้นไปทุกด้าน เรียงลำดับจากมากไปหาน้อย คือ ด้านปัจจัย ด้านกระบวนการ และด้านผลผลิต

โพสต์โดย สาว : [9 ส.ค. 2563 เวลา 06:08 น.]
อ่าน [3603] ไอพี : 125.26.218.15
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 11,395 ครั้ง
ฟังหรือยัง เพลง "จากนี้ไปจนนิพพาน"
ฟังหรือยัง เพลง "จากนี้ไปจนนิพพาน"

เปิดอ่าน 19,250 ครั้ง
(ก.ค.ศ.)ปัจจัยด้านขวัญของข้าราชการครูปฏิบัติการสอนฯ
(ก.ค.ศ.)ปัจจัยด้านขวัญของข้าราชการครูปฏิบัติการสอนฯ

เปิดอ่าน 12,186 ครั้ง
แบบตรวจสอบการเรียนผ่านเครือข่าย
แบบตรวจสอบการเรียนผ่านเครือข่าย

เปิดอ่าน 12,391 ครั้ง
เทคโนโลยีคัดกรองตัวอ่อน ความหวังใหม่ของคนอยากมีลูก (ปลอดโรคทางพันธุกรรม)
เทคโนโลยีคัดกรองตัวอ่อน ความหวังใหม่ของคนอยากมีลูก (ปลอดโรคทางพันธุกรรม)

เปิดอ่าน 9,086 ครั้ง
ฮิตทะลุโลก เผยยอดผู้ใช้เฟซบุ๊คมีจำนวนกว่าครึงพันล้านคน ใหญ่เท่ากับปท.อันดับสามของโลก
ฮิตทะลุโลก เผยยอดผู้ใช้เฟซบุ๊คมีจำนวนกว่าครึงพันล้านคน ใหญ่เท่ากับปท.อันดับสามของโลก

เปิดอ่าน 10,860 ครั้ง
ดับร้อนด้วย "เสาวรส" สุดจี๊ดจ๊าด
ดับร้อนด้วย "เสาวรส" สุดจี๊ดจ๊าด

เปิดอ่าน 43,498 ครั้ง
เผยแพร่เอกสารและคลิปสาธิตเทคนิคการคิดเลขเร็วแบบอินเดีย (เวทคณิต)
เผยแพร่เอกสารและคลิปสาธิตเทคนิคการคิดเลขเร็วแบบอินเดีย (เวทคณิต)

เปิดอ่าน 16,712 ครั้ง
คลิปโฆษณาสร้างสรรค์สังคม ชุด "พี่โน๊ตขอออออ... ก่อนลงไปมีเรื่องกับใคร สูดหายใจลึกๆ"
คลิปโฆษณาสร้างสรรค์สังคม ชุด "พี่โน๊ตขอออออ... ก่อนลงไปมีเรื่องกับใคร สูดหายใจลึกๆ"

เปิดอ่าน 10,800 ครั้ง
น้ำคั้นหัวบีทรู้ท ช่วยลดความดันได้ชัวร์
น้ำคั้นหัวบีทรู้ท ช่วยลดความดันได้ชัวร์

เปิดอ่าน 21,007 ครั้ง
ทฤษฎีสำหรับ E-Learning
ทฤษฎีสำหรับ E-Learning

เปิดอ่าน 18,800 ครั้ง
เปิดประตูบ้านทิศใด เจรจาความจะสำเร็จ
เปิดประตูบ้านทิศใด เจรจาความจะสำเร็จ

เปิดอ่าน 19,914 ครั้ง
การทดลอง LHC ของเซิร์น ที่คล้องกับพุทธศาสนา
การทดลอง LHC ของเซิร์น ที่คล้องกับพุทธศาสนา

เปิดอ่าน 14,041 ครั้ง
เปลี่ยนระบบโทรศัพท์ใหม่ แต่ใช้เบอร์เดิมได้ เริ่ม 1 ก.ย.
เปลี่ยนระบบโทรศัพท์ใหม่ แต่ใช้เบอร์เดิมได้ เริ่ม 1 ก.ย.

เปิดอ่าน 23,653 ครั้ง
เรื่องของ"เลข 9" ในวันที่ 9 เดือน 9 ปี 2009
เรื่องของ"เลข 9" ในวันที่ 9 เดือน 9 ปี 2009

เปิดอ่าน 83,366 ครั้ง
หลักการใช้ Verb to have
หลักการใช้ Verb to have

เปิดอ่าน 10,892 ครั้ง
12 สุขลักษณะ การนอนที่ดี
12 สุขลักษณะ การนอนที่ดี
เปิดอ่าน 23,497 ครั้ง
แพทย์ชี้เด็กยิ่งเล่นยิ่งฉลาด แนะพ่อแม่ส่งเสริมการเล่นอย่างอิสระ 7 ประการ
แพทย์ชี้เด็กยิ่งเล่นยิ่งฉลาด แนะพ่อแม่ส่งเสริมการเล่นอย่างอิสระ 7 ประการ
เปิดอ่าน 42,029 ครั้ง
ลักษณะสำคัญของการวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียน
ลักษณะสำคัญของการวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียน
เปิดอ่าน 32,292 ครั้ง
ข้อคิดและข้อควรระวังในการบริหารสถานศึกษา
ข้อคิดและข้อควรระวังในการบริหารสถานศึกษา
เปิดอ่าน 14,887 ครั้ง
จดหมายฉบับที่ 46 ถึงนายกรัฐมนตรี+รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
จดหมายฉบับที่ 46 ถึงนายกรัฐมนตรี+รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ