ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้การเรียนรู้ โดยใช้สมองเป็นฐานร่วมกับการสอนแบบเปิดเพื่อแก้โจทย์ปัญหาทางคณิตศาสตร์ เร

ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้การเรียนรู้

โดยใช้สมองเป็นฐานร่วมกับการสอนแบบเปิดเพื่อแก้โจทย์ปัญหาทางคณิตศาสตร์

เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวกและการลบ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1

ผู้วิจัย นางกมลวรรณ ดำรงค์พานิช

ปีการศึกษา 2561

บทคัดย่อ

การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้การเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐานร่วมกับการสอนแบบเปิดเพื่อแก้โจทย์ปัญหาทางคณิตศาสตร์ เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวกและโจทย์ปัญหาการลบ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เป็นการวิจัยและพัฒนาทางการศึกษา (Research and Development) โดยมีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาสภาพปัญหาและความต้องการในการจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ด้านกระบวนการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 2) เพื่อพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้การเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐานร่วมกับการสอนแบบเปิดเพื่อแก้โจทย์ปัญหาทางคณิตศาสตร์ เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวกและโจทย์ปัญหาการลบ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 70/70 3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้การเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐานร่วมกับการสอนแบบเปิดเพื่อแก้โจทย์ปัญหาทางคณิตศาสตร์ เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวกและโจทย์ปัญหาการลบ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 และ 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้การเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐานร่วมกับการสอนแบบเปิดเพื่อแก้โจทย์ปัญหาทางคณิตศาสตร์ เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวกและการลบ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ประชากรที่ใช้ในการวิจัย คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ในปีการศึกษา 2561 จำนวน 32 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบสัมภาษณ์ แบบวิเคราะห์รูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้การเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐานร่วมกับการสอนแบบเปิด รูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐานร่วมกับการสอนแบบเปิด แบบประเมินรูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้การเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐานร่วมกับการสอนแบบเปิดเพื่อแก้โจทย์ปัญหาทางคณิตศาสตร์ เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวกและโจทย์ปัญหาการลบ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียน วิเคราะห์ข้อมูลโดยหาค่าความถี่ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน

สรุปผลการวิจัย

การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้การเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐานร่วมกับการสอนแบบเปิดเพื่อแก้โจทย์ปัญหาทางคณิตศาสตร์ เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวกและโจทย์ปัญหาการลบ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 สามารถสรุปผลการวิจัย ได้ดังนี้

1. ผลการศึกษาสภาพปัญหาและความต้องการในการจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ด้านกระบวนการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 พบว่า ครูยังคงเน้นการบรรยายเนื้อหาเป็นหลัก ไม่มีรูปแบบ เทคนิค วิธีการสอน และกระบวนการจัดการเรียนรู้ที่แปลกใหม่ กิจกรรมไม่น่าสนใจ สื่อและเทคโนโลยีในการจัดการเรียนรู้มีการนำมาใช้น้อย สื่อ อุปกรณ์ไม่เพียงพอ เก่าและขาดคุณภาพ ครูขาดการบูรณาการการเรียนรู้โดยใช้แหล่งเรียนรู้ในชุมชน นักเรียนมีความหลากหลายและแตกต่างกัน แหล่งเรียนรู้ภายในโรงเรียนไม่เพียงพอ นักเรียนไม่ตั้งใจเรียน ขาดเรียนบ่อย ขาดความสามารถด้านกระบวนการคิด แก้ไขปัญหา ไม่กระตือรือร้น ไม่สนใจใฝ่รู้

2. ผลการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้การเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐานร่วมกับการสอนแบบเปิดเพื่อแก้โจทย์ปัญหาทางคณิตศาสตร์ เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวกและโจทย์ปัญหาการลบ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 พบว่า การจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้การเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐานร่วมกับการสอนแบบเปิด ประกอบด้วยขั้นตอนการสอน 5 ขั้นตอน ได้แก่ 1.ขั้นคลายสมอง (Loosen the brain) 2. ขั้นช่ำชองประสบการณ์ (Linking the experiences) 3. ขั้นสานต่อเนื้อหา (Learn the contents) 4. ขั้นนำพาปฏิบัติ (Lead practice) และ 5. ขั้นยืนหยัดความคงทนในการเรียนรู้ (Lifelong the knowledge practice) และมีค่าประสิทธิภาพ (E1/E2) เท่ากับ 74.80/71.93 สูงกว่าเกณฑ์ 70/70 ที่กำหนดไว้

3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้การเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐานร่วมกับการสอนแบบเปิดเพื่อแก้โจทย์ปัญหาทางคณิตศาสตร์ เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวกและโจทย์ปัญหาการลบ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 พบว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน (คิดเป็นร้อยละของการพัฒนา 28.01)

4. นักเรียนมีความพึงพอใจระดับพอใจมาก ทุกรายการ โดยนักเรียนมีความพึงพอใจเฉลี่ย 4.84 คะแนน โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.86 และมีค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.618

โพสต์โดย ครูกมลวรรณ : [21 ส.ค. 2563 เวลา 07:46 น.]
อ่าน [2989] ไอพี : 159.192.185.176
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 17,454 ครั้ง
กฏ ก.ค.ศ. ว่าด้วยการสั่งให้ข้าราชการครูฯออกจากราชการกรณีไม่สามารถปฏิบัติราชการให้มีประสิทธิภาพ
กฏ ก.ค.ศ. ว่าด้วยการสั่งให้ข้าราชการครูฯออกจากราชการกรณีไม่สามารถปฏิบัติราชการให้มีประสิทธิภาพ

เปิดอ่าน 11,945 ครั้ง
9 อันดับโน้ตบุ๊กเริ่ม"เอ๋อ"ภายใน 3 ปี
9 อันดับโน้ตบุ๊กเริ่ม"เอ๋อ"ภายใน 3 ปี

เปิดอ่าน 8,484 ครั้ง
ผู้นำซูเปอร์บอร์ดการศึกษา?
ผู้นำซูเปอร์บอร์ดการศึกษา?

เปิดอ่าน 863 ครั้ง
ยืมเงินไม่คืน แจ้งความได้หรือไม่ ?
ยืมเงินไม่คืน แจ้งความได้หรือไม่ ?

เปิดอ่าน 11,403 ครั้ง
พบวิธีการใหม่ ทำ "คนอัมพาต" เดินได้อีกครั้ง
พบวิธีการใหม่ ทำ "คนอัมพาต" เดินได้อีกครั้ง

เปิดอ่าน 254,029 ครั้ง
การกำหนดภาระการสอนขั้นต่ำของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สายงานการสอน
การกำหนดภาระการสอนขั้นต่ำของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สายงานการสอน

เปิดอ่าน 13,504 ครั้ง
"แพลงกิ้ง" ยิ่งเล่น ยิ่งหน้าแก่!
"แพลงกิ้ง" ยิ่งเล่น ยิ่งหน้าแก่!

เปิดอ่าน 18,822 ครั้ง
ฝรั่งสายพันธุ์ใหม่ "พิจิตร3" ทรงผลยาวคล้ายลูกแพร์
ฝรั่งสายพันธุ์ใหม่ "พิจิตร3" ทรงผลยาวคล้ายลูกแพร์

เปิดอ่าน 22,913 ครั้ง
เปิดชื่อ 11 จังหวัด หนาวยะเยือกที่สุดในประเทศ
เปิดชื่อ 11 จังหวัด หนาวยะเยือกที่สุดในประเทศ

เปิดอ่าน 12,204 ครั้ง
เรียนต่ออังกฤษต้องเตรียมค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง มาเจาะลึกกัน
เรียนต่ออังกฤษต้องเตรียมค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง มาเจาะลึกกัน

เปิดอ่าน 14,097 ครั้ง
เฉลยข้อสอบอัตนัยด้วย FACEBOOKLIVE
เฉลยข้อสอบอัตนัยด้วย FACEBOOKLIVE

เปิดอ่าน 29,764 ครั้ง
12 เรื่องน่ารู้ การถ่ายภาพ ด้วยกล้องดิจิตอล
12 เรื่องน่ารู้ การถ่ายภาพ ด้วยกล้องดิจิตอล

เปิดอ่าน 12,026 ครั้ง
"เมตา" แนะ 5 เคล็ดลับป้องกันตัวเองจากมิจฉาชีพทางออนไลน์
"เมตา" แนะ 5 เคล็ดลับป้องกันตัวเองจากมิจฉาชีพทางออนไลน์

เปิดอ่าน 15,524 ครั้ง
ต้นกำเนิด "ร่ม"
ต้นกำเนิด "ร่ม"

เปิดอ่าน 17,876 ครั้ง
การบริหารกล้ามเนื้อตา
การบริหารกล้ามเนื้อตา

เปิดอ่าน 17,296 ครั้ง
ชมพูภูคาพันธุ์ไม้หายากของโลก
ชมพูภูคาพันธุ์ไม้หายากของโลก
เปิดอ่าน 15,070 ครั้ง
รังนก
รังนก
เปิดอ่าน 10,867 ครั้ง
การพัฒนาทักษะ EF ให้กับเด็ก
การพัฒนาทักษะ EF ให้กับเด็ก
เปิดอ่าน 2,674 ครั้ง
การเป็นพลเมืองที่ดี
การเป็นพลเมืองที่ดี
เปิดอ่าน 8,009 ครั้ง
ผักตำลึง ผักข้างรั้วอินทรีย์ที่แท้จริง
ผักตำลึง ผักข้างรั้วอินทรีย์ที่แท้จริง

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ