ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะที่ขับเคลื่อนโดยกลวิธีโต้แย้ง เพื่อพัฒนาการคิดวิพากษ์ทางวิทยาศาสตร์ เรื่องการเคลื่อนที่แบบสั่น วิชาวิทยาศาสตร

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพการจัดการเรียนรู้ในรายวิชาวิทยาศาสตร์กายภาพ (ฟิสิกส์) โรงเรียนพุทไธสง 2) พัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะที่ขับเคลื่อนโดยกลวิธีโต้แย้งทางวิทยาศาสตร์ เรื่องการเคลื่อนที่แบบสั่น วิชาวิทยาศาสตร์กายภาพ (ฟิสิกส์) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 3) พัฒนาการคิดวิพากษ์ทางวิทยาศาสตร์ โดยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะที่ขับเคลื่อนด้วยกลวิธีโต้แย้งทางวิทยาศาสตร์ เรื่องการเคลื่อนที่แบบสั่น วิชาวิทยาศาสตร์กายภาพ (ฟิสิกส์) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 กลุ่มเป้าหมายเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/12 โรงเรียนพุทไธสง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 32 จำนวน 36 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรมข้อมูล ประกอบด้วย 1.) แผนการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะที่ขับเคลื่อนโดยกลวิธีโต้แย้งทางวิทยาศาสตร์ เรื่องการเคลื่อนที่แบบสั่น ตามกรอบแนวคิดของ Sampson et al (2017) ได้แก่ ข้อกล่าวอ้าง หลักฐานที่ใช้สนับสนุนข้อกล่าวอ้าง และคำชี้แจงเหตุผลของหลักฐาน 2.) แบบประเมินความพึงพอใจของรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะที่ขับเคลื่อนโดยกลวิธีโต้แย้งทางวิทยาศาสตร์ เรื่องการเคลื่อนที่แบบสั่น สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 3.) อนุทินของนักเรียน 4.) อนุทินของครู สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบน-มาตรฐาน และการบรรยาย

ผลการวิจัย พบว่า

1. สภาพการจัดการเรียนรู้ในรายวิชาฟิสิกส์ โรงเรียนพุทไธสง มีปัญหาในด้านต่าง ๆ ดังนี้ 1.) ความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนเกี่ยวกับมโนมติทางวิทยาศาสตร์ 2.) การแก้โจทย์ปัญหาของนักเรียน 3.) ด้านการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ และ 4.) ด้านสื่อการเรียนรู้

2. รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะที่ขับเคลื่อนโดยกลวิธีโต้แย้งทางวิทยาศาสตร์ เรื่องการ-เคลื่อนที่แบบสั่น วิชาฟิสิกส์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ตามกรอบแนวคิดของ Sampson et al (2017) ประกอบด้วย 3 องค์ประกอบ ได้แก่ 1.) ข้อกล่าวอ้าง 2.) หลักฐานที่ใช้สนับสนุนข้อกล่าวอ้าง และ 3.) คำชี้แจงเหตุผลของหลักฐาน ผลการประเมินความเหมาะสมของรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะที่ขับเคลื่อนโดยกลวิธีโต้แย้งทางวิทยาศาสตร์ เรื่องการเคลื่อนที่แบบสั่น วิชาฟิสิกส์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 มีความเหมาะสมในระดับมากที่สุด

3. การจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะที่ขับเคลื่อนโดยกลวิธีโต้แย้งทางวิทยาศาสตร์ เรื่องการเคลื่อนที่แบบสั่น วิชาฟิสิกส์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ตามกรอบแนวคิดของ Sampson et al (2017) สามารถพัฒนาการคิดวิพากษ์ของนักเรียนได้

คำสำคัญ : รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะที่ขับเคลื่อนโดยกลวิธีโต้แย้งทางวิทยาศาสตร์ การคิดวิพากษ์ทางวิทยาศาสตร์

โพสต์โดย tukkatik_phy : [15 ก.ย. 2563 เวลา 01:39 น.]
อ่าน [3690] ไอพี : 223.205.247.74
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 23,436 ครั้ง
10 นวัตกรรมออกแบบ แปลกใหม่-ไฮเทคแห่งปี 52
10 นวัตกรรมออกแบบ แปลกใหม่-ไฮเทคแห่งปี 52

เปิดอ่าน 38,091 ครั้ง
โอลิมปิก : ประวัติกีฬาโอลิมปิก
โอลิมปิก : ประวัติกีฬาโอลิมปิก

เปิดอ่าน 12,229 ครั้ง
มาดูกัน 5 วิธีปรับโฉมระบบเผาผลาญ
มาดูกัน 5 วิธีปรับโฉมระบบเผาผลาญ

เปิดอ่าน 15,766 ครั้ง
5 ทางเลือกเรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเองแบบ New-Normal
5 ทางเลือกเรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเองแบบ New-Normal

เปิดอ่าน 9,761 ครั้ง
เผยโฉม เครื่องบินพลังแสงอาทิตย์
เผยโฉม เครื่องบินพลังแสงอาทิตย์

เปิดอ่าน 54,573 ครั้ง
มารยาทในการพูดโทรศัพท์ (Phone Manners)
มารยาทในการพูดโทรศัพท์ (Phone Manners)

เปิดอ่าน 206,245 ครั้ง
สรุปสูตรการคำนวณของสารละลาย : เคมี
สรุปสูตรการคำนวณของสารละลาย : เคมี

เปิดอ่าน 11,041 ครั้ง
ทายนิสัยจากการเล่นเกมส์
ทายนิสัยจากการเล่นเกมส์

เปิดอ่าน 20,827 ครั้ง
ปัญหาการศึกษาไทย...อยู่ตรงไหน?
ปัญหาการศึกษาไทย...อยู่ตรงไหน?

เปิดอ่าน 24,965 ครั้ง
รายงานการวิจัยและพัฒนา เรื่อง รูปแบบการบริหารจัดการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน
รายงานการวิจัยและพัฒนา เรื่อง รูปแบบการบริหารจัดการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน

เปิดอ่าน 10,522 ครั้ง
รายงานการวิจัยพัฒนาการจัดค่ายอย่างสร้างสรรค์
รายงานการวิจัยพัฒนาการจัดค่ายอย่างสร้างสรรค์

เปิดอ่าน 24,892 ครั้ง
แก๊สน้ำตา คืออะไร
แก๊สน้ำตา คืออะไร

เปิดอ่าน 19,189 ครั้ง
เรื่องจริงของสังคมโลก "สังคมก้มหน้า" ดูกันเลยว่าจริงไหม?
เรื่องจริงของสังคมโลก "สังคมก้มหน้า" ดูกันเลยว่าจริงไหม?

เปิดอ่าน 25,078 ครั้ง
ศาลปกครองคืออะไร
ศาลปกครองคืออะไร

เปิดอ่าน 24,138 ครั้ง
Minions Banana Song ที่กำลังฮิตกันทั่วโลก
Minions Banana Song ที่กำลังฮิตกันทั่วโลก

เปิดอ่าน 91,373 ครั้ง
การใช้ปุ๋ยไนโตรเจนอย่างพอเหมาะกับพืช
การใช้ปุ๋ยไนโตรเจนอย่างพอเหมาะกับพืช
เปิดอ่าน 7,793 ครั้ง
เล่นหมากล้อม สามารถพัฒนาผลการเรียนคณิตศาสตร์ได้!
เล่นหมากล้อม สามารถพัฒนาผลการเรียนคณิตศาสตร์ได้!
เปิดอ่าน 16,043 ครั้ง
ข่าวดีของคนอ้วน รูปร่างอวบตอนหลังกลับยืดอายุให้ยืน
ข่าวดีของคนอ้วน รูปร่างอวบตอนหลังกลับยืดอายุให้ยืน
เปิดอ่าน 10,395 ครั้ง
ระวังเชื้อก่อโรคในน้ำแข็ง
ระวังเชื้อก่อโรคในน้ำแข็ง
เปิดอ่าน 18,217 ครั้ง
เอกสารประกอบการสอนเสริมเพื่อเตรียมสอบ O-NET
เอกสารประกอบการสอนเสริมเพื่อเตรียมสอบ O-NET

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ