ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รายงานการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุกโดยใช้ปัญหาเป็นฐานร่วมกับวัฏจักรการเรียนรู้ 7 ข้นตอนเพื่อความเข้าใจหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง กลุ่มสาระส

หัวข้อเรื่องที่ศึกษา รูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุก โดยใช้ปัญหาเป็นฐานร่วมกับวัฎจักรการเรียนรู้ 7 ขั้นตอน เพื่อความเข้าใจหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5

ชื่อผู้ศึกษา นางวิจิตรา สมทรัพย์ ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ

หน่วยงานที่สังกัด เทศบาลนครหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา

สถานที่ทำงาน โรงเรียนเทศบาล ๑ (เอ็งเสียงสามัคคี)

ปีที่วิจัย 2562

บทคัดย่อ

การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุก โดยใช้ปัญหาเป็นฐานร่วมกับวัฎจักรการเรียนรู้ 7 ขั้นตอน เพื่อความเข้าใจหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1. ศึกษาข้อมูลพื้นฐานเพื่อพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุก โดยใช้ปัญหาเป็นฐานร่วมกับวัฎจักรการเรียนรู้ 7 ขั้นตอน เพื่อความเข้าใจหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 2. สร้างรูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุก โดยใช้ปัญหาเป็นฐานร่วมกับวัฎจักรการเรียนรู้ 7 ขั้นตอน เพื่อความเข้าใจหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 3. ทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุก โดยใช้ปัญหาเป็นฐานร่วมกับวัฎจักรการเรียนรู้ 7 ขั้นตอน เพื่อความเข้าใจหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 4. ประเมินและปรับปรุงรูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุก โดยใช้ปัญหาเป็นฐานร่วมกับวัฎจักรการเรียนรู้ 7 ขั้นตอน เพื่อความเข้าใจหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 การวิจัยครั้งนี้ใช้รูปแบบกระบวนการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) และใช้แบบแผนการทดลองแบบกลุ่มตัวอย่างเดียว มีการทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน The One-Group Pretest-Posttest Design กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/1 โรงเรียนเทศบาล ๑ (เอ็งเสียงสามัคคี) เทศบาลอำเภอหาดใหญ่ ที่กำลังศึกษาอยู่ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2562 จำนวน 30 คน ที่ได้มาจากการสุ่มห้องเรียนด้วยวิธีการสุ่มอย่างง่าย (Simple Random sampling) โดยมีห้องเรียนเป็นหน่วยการสุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) เครื่องมือที่ใช้ในการทดลอง ได้แก่ รูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุก โดยใช้ปัญหาเป็นฐานร่วมกับวัฎจักรการเรียนรู้ 7 ขั้นตอน เพื่อความเข้าใจหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 16 แผน ใช้เวลาสอนรวม 16 ชั่วโมง 2) เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 เป็นแบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น จำนวน 40 ข้อ ซึ่งมีความยากง่าย (P) อยู่ระหว่าง 0.33–0.73 ค่าอำนาจจำแนก (r) อยู่ระหว่าง 0.21–0.94 และมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.97 แบบทดสอบวัดความสามารถในการเข้าใจหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 เป็นข้อสอบอัตนัยแบบเขียนตอบ จำนวน 4 ชุด ซึ่งมีค่าอำนาจจำแนกตั้งแต่ 0.49–0.76 และมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.95 และแบบวัดความคิดเห็นของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่มีต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุก เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ จำนวน 22 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน

ผลการศึกษาพบว่า

1. รูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุก โดยใช้ปัญหาเป็นฐานร่วมกับวัฎจักรการเรียนรู้ 7 ขั้นตอน เพื่อความเข้าใจหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีชื่อว่า “EFACE Model” มีองค์ประกอบคือ 1) หลักการ 2) วัตถุประสงค์ 3) ขั้นตอนการสอน (Syntax) 4) การวัดและประเมินผล 5) ระบบสนับสนุน (Support System) โดยมีขั้นตอนการสอนดังนี้ 1) ขั้นที่ 1 ขั้นตรวจสอบความรู้เดิมเพิ่มความพร้อมน้อมสู่ปัญหา (E: Elicitation and Trouble) 2) ขั้นที่ 2 ขั้นรวมเพื่อนนำพาค้นหาสำรวจเพื่อตรวจตั้งสมมติฐาน (F: From a group and hypothesize) 3) ขั้นที่ 3 ขั้นรวบรวมจัดวิเคราะห์พาประยุกต์มุ่งคำตอบ (A: Aggregate to analyze) 4) ขั้นที่ 4 ขั้นเทียบสมมติฐานผลักดันสะท้อนย้อนอธิบายขยายความ (C: Check hypothesis) และ 5) ขั้นที่ 5 ขั้นประเมินผลและผ่อนคลายขยายกิจกรรม (E: Evaluation and relax)

2. ประสิทธิภาพของการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุก โดยใช้ปัญหาเป็นฐานร่วมกับวัฎจักรการเรียนรู้ 7 ขั้นตอน เพื่อความเข้าใจหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีค่า E1 /E2 เท่ากับ 81.60/81.17 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้

3. คะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่เรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุก โดยใช้ปัญหาเป็นฐานร่วมกับวัฎจักรการเรียนรู้ 7 ขั้นตอน เพื่อความเข้าใจหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ของกลุ่มทดลอง หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

4. ความสามารถในการเข้าใจหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ของนักเรียนก่อนและหลังการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุก โดยใช้ปัญหาเป็นฐานร่วมกับวัฎจักรการเรียนรู้ 7 ขั้นตอน เพื่อความเข้าใจหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ในภาพรวม ความสามารถในการเข้าใจหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่ได้รับการจัดการเรียนการสอนด้วยการพัฒนาความสามารถในการเข้าใจหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้ EFACE Model หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

5. ความคิดเห็นของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่มีต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุก โดยใช้ปัญหาเป็นฐานร่วมกับวัฎจักรการเรียนรู้ 7 ขั้นตอน เพื่อความเข้าใจหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีค่าเฉลี่ยโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (M = 4.68, SD = 0.12)

โพสต์โดย วิ : [8 ธ.ค. 2563 เวลา 06:58 น.]
อ่าน [3700] ไอพี : 134.236.248.147
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 12,311 ครั้ง
หลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกข้าราชการครูฯ เพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งศึกษานิเทศก์
หลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกข้าราชการครูฯ เพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งศึกษานิเทศก์

เปิดอ่าน 61,275 ครั้ง
การเบิกค่าเช่าบ้าน
การเบิกค่าเช่าบ้าน

เปิดอ่าน 34,533 ครั้ง
ฝนดาวตกเจมินิดส์
ฝนดาวตกเจมินิดส์

เปิดอ่าน 352,750 ครั้ง
ครุ ลหุ เอก โท
ครุ ลหุ เอก โท

เปิดอ่าน 31,619 ครั้ง
เจาะลึกนาซา องค์การด้านอวกาศเพื่อมวลมนุษยชาติ
เจาะลึกนาซา องค์การด้านอวกาศเพื่อมวลมนุษยชาติ

เปิดอ่าน 11,502 ครั้ง
ดื่มนม วิธีเสริมแคลเซียมอย่างประหยัด
ดื่มนม วิธีเสริมแคลเซียมอย่างประหยัด

เปิดอ่าน 65,464 ครั้ง
จำนวนข้าราชการครูจำแนกตามระดับวิทยฐานะ
จำนวนข้าราชการครูจำแนกตามระดับวิทยฐานะ

เปิดอ่าน 10,307 ครั้ง
ตูนส์ศึกษา : หลักฐานยอดฮิต ที่แสดงว่าเด็กไทยคิดเป็น
ตูนส์ศึกษา : หลักฐานยอดฮิต ที่แสดงว่าเด็กไทยคิดเป็น

เปิดอ่าน 11,496 ครั้ง
ดูวิวัฒนาการใบหน้าบรรพบุรุษสู่มนุษย์ยุคใหม่ - 6 ล้านปีใน 1 นาที
ดูวิวัฒนาการใบหน้าบรรพบุรุษสู่มนุษย์ยุคใหม่ - 6 ล้านปีใน 1 นาที

เปิดอ่าน 15,256 ครั้ง
การได้สารพิษ สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 8
การได้สารพิษ สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 8

เปิดอ่าน 10,502 ครั้ง
สิ่งที่ทำให้ผู้หญิงสวยน้อยลง
สิ่งที่ทำให้ผู้หญิงสวยน้อยลง

เปิดอ่าน 15,967 ครั้ง
ตามไปดูต้นแบบความสำเร็จ การปฏิรูปการศึกษา 5 ประเทศ
ตามไปดูต้นแบบความสำเร็จ การปฏิรูปการศึกษา 5 ประเทศ

เปิดอ่าน 11,591 ครั้ง
เทคนิคบริหารหน้าท้องให้เพรียวสวย
เทคนิคบริหารหน้าท้องให้เพรียวสวย

เปิดอ่าน 29,074 ครั้ง
ICT2020 Conceptual Framework
ICT2020 Conceptual Framework

เปิดอ่าน 184,219 ครั้ง
คำเรียกตัวเลขทั้งสิบในภาษาไทย
คำเรียกตัวเลขทั้งสิบในภาษาไทย

เปิดอ่าน 20,622 ครั้ง
เกมส์ลูกตุ้มแดนมังกร
เกมส์ลูกตุ้มแดนมังกร
เปิดอ่าน 812 ครั้ง
ไขมันในร่างกาย
ไขมันในร่างกาย
เปิดอ่าน 23,462 ครั้ง
"ของเล่นบ้านๆ" สื่อพัฒนาทักษะเด็กปฐมวัยในยุคดิจิทัล
"ของเล่นบ้านๆ" สื่อพัฒนาทักษะเด็กปฐมวัยในยุคดิจิทัล
เปิดอ่าน 12,837 ครั้ง
10 เหตุผลที่ทำให้รู้สึกอ่อนเพลียอยู่ตลอดเวลา
10 เหตุผลที่ทำให้รู้สึกอ่อนเพลียอยู่ตลอดเวลา
เปิดอ่าน 31,440 ครั้ง
กราฟิกไฟล์สำหรับอินเทอร์เน็ต
กราฟิกไฟล์สำหรับอินเทอร์เน็ต

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ