ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนาทักษะการอ่านจับใจความสำคัญคำประพันธ์ไทยของนักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีที่ ๕ โดยใช้แบบฝึก

สภาพและความเป็นมาของปัญหา

จากการจัดการเรียนการสอนกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ พบว่านักเรียนส่วนใหญ่ยังขาดทักษะการอ่านจับใจความสำคัญ จึงส่งผลให้นักเรียนอ่านไม่รู้เรื่อง ไม่ได้เนื้อหาสาระจากการอ่าน ซึ่งในการอ่านจับใจความสำคัญนั้น นอกจากจะอ่านจับใจความเนื้อความที่เป็นร้อยแก้วแล้ว การอ่านจับใจความเนื้อความที่เป็นร้อยกรองก็สำคัญ เนื่องจาก บทร้อยกรองเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งที่ระบบการศึกษาไทยได้ปลูกฝังให้แก่เยาวชน จึงมีการศึกษาเรื่องการแต่งและการอ่านคำประพันธ์ตามหลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ.๒๕๒๑ นอกจากนั้นลักษณะของภาษาไทยนั้นส่วนมากจะเป็นร้อยกรองมากกว่าร้อยแก้ว เพราะคนไทยตั้งแต่ในอดีตแล้วจะมีลักษณะนิสัยเจ้าบทเจ้ากลอนจะพูดอะไรก็มักจะมีสัมผัสสำนวนอยู่เสมอ

ในการจัดการเรียนการสอนการแต่งคำประพันธ์นั้น หากนักเรียนสามารถแต่งคำประพันธ์ที่

ไพเราะ แต่นักเรียนไม่สามารถที่จะอ่านหรือเข้าใจในคำประพันธ์นั้นๆ ก็หามีประโยชน์ไม่ ดังนั้นใน

การจัดการเรียนการสอนจึงจำเป็นต้องให้นักเรียนอ่านจับใจความเนื้อเรื่องที่เป็นคำประพันธ์ด้วยเพราะหากนักเรียนได้ฝึกหัดบ่อยครั้ง ก็จะคุ้นเคยและสามารถที่จะทำได้ดียิ่งขึ้น

ดังที่ได้กล่าวมาข้างต้น ผู้วิจัยเกิดความคิดที่จะพัฒนาทักษะการอ่านจับใจความคำประพันธ์

ไทย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ จึงจัดทำแบบฝึกขึ้นเพื่อใช้เป็นเครื่องมือหรือแนวในการจัดทำเครื่องมือเพื่อพัฒนาทักษะในการอ่านจับใจคำประพันธ์ไทยของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ ให้ดีขึ้น และหวังว่าการใช้แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความคำประพันธ์ไทยนี้จะสามารถพัฒนาทักษะการอ่านจับใจความของนักเรียนให้มีพัฒนาการที่ดีขึ้น

วัตถุประสงค์ของการวิจัย

๑. เพื่อสร้างแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความคำประพันธ์ไทยสำหรับนักเรียนช่วงชั้นที่ ๔ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ โรงเรียนปรางค์กู่

๒. เพื่อเปรียบเทียบความสามารถในการอ่านจับใจความคำประพันธ์ไทย สำหรับนักเรียน

ช่วงชั้นที่ ๔ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ ก่อนใช้แบบฝึกและหลังใช้แบบฝึก

ขอบเขตของการวิจัย

ขอบเขตด้านประชากรและกลุ่มตัวอย่าง

๑. ประชากรที่ใช้ในการวิจัยเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ โรงเรียนปรางค์กู่

ภาคเรียนที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๓ จำนวน ๑ ห้องเรียน จำนวน ๘ คน

๒. กลุ่มตัวอย่าง ที่ใช้ในการวิจัยเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ โรงเรียนปรางค์กู่

ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๓ จำนวน ๓ ห้องเรียน จำนวน ๑๐๕ คน

ขอบเขตด้านเนื้อหา

๑. เนื้อหาที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้า ได้แก่ แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความคำประพันธ์

ไทยจำนวน ๖ ชุด

๒. แบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนเป็นแบบทดสอบชุดเดียวกัน

ตัวแปรที่จะศึกษา

ตัวอิสระ ได้แก่ แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความคำประพันธ์ไทยจำนวน ๖ ชุด

ตัวแปรตาม ได้แก่ ผลสัมฤทธิ์ด้านการอ่านจับใจความคำประพันธ์ไทย

ขอบเขตด้านระยะเวลา

๑. ระยะเวลาในการพัฒนาทักษะการอ่านจับใจความ คือในชั่วโมงเรียนภาษาไทยในภาค

เรียนที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๓ จำนวน ๓ สัปดาห์ สัปดาห์ละ ๒ คาบ รวม ๖ คาบ

เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย

เครื่องมือที่ใช้ในการดำเนินการวิจัย มีดังต่อไปนี้

๑. แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความคำประพันธ์ไทย จำนวน ๖ ชุด ซึ่งมีรายละเอียด

ดังต่อไปนี้

แบบฝึกชุดที่ ๑ เรื่อง การถอดความคำประพันธ์ไทยที่ละวรรคแล้วสรุปความ

แบบฝึกชุดที่ ๒ เรื่อง การจับใจความที่เป็นปริศนาแล้วหาคำตอบจากรูปภาพ

แบบฝึกชุดที่ ๓ เรื่อง การหาคำศัพท์ที่เป็นอักษรโยงแล้วสรุปใจความสำคัญ

แบบฝึกชุดที่ ๔ เรื่อง การหาคำศัพท์ที่เป็นอักษรไขว้แล้วสรุปใจความสำคัญ

แบบฝึกชุดที่ ๕ เรื่อง การจับใจความที่เป็นปริศนาเกมผะหมีแล้วหาคำตอบ

แบบฝึกชุดที่ ๖ เรื่อง การร่วมแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคำประพันธ์

๒. แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ด้านทักษะการอ่านจับใจความคำประพันธ์ แบบ ๔ ตัวเลือก

จำนวน ๒๕ ข้อ

วิธีดำเนินการ

การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงทดลอง กลุ่มเดียว ทดสอบก่อนเรียน – หลังเรียน ( One Group Pretest – posttest Sample ) ระยะเวลาในการพัฒนาทักษะการอ่านจับใจความ คือในชั่วโมงเรียนภาษาไทยในภาคเรียนที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๓ จำนวน ๓ สัปดาห์ สัปดาห์ละ ๒ คาบ รวม ๖ คาบ

ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ

๑. ได้พัฒนาทักษะด้านการอ่านจับใจความคำประพันธ์ไทยของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่

๕ โรงเรียนปรางค์กู่

๒. ได้แบบฝึกหรือแนวทางในการพัฒนาทักษะด้านการอ่านจับใจความคำประพันธ์ไทย

๓. ได้แนวทางในการพัฒนาทักษะด้านการอ่านจับใจความ

๔. เป็นแนวทางในการพัฒนาการเรียนการสอนรายวิชาภาษาไทยต่อไป

๕. เป็นแนวทางในการพัฒนาการเรียนการสอนรายวิชาอื่นๆ ต่อไป

โพสต์โดย ครูไทย : [24 ก.พ. 2564 เวลา 09:33 น.]
อ่าน [3345] ไอพี : 1.1.241.60
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 1,394 ครั้ง
ส่อง 10 เทรนด์เทคโนโลยีด้านเฮลท์แคร์ ปี 2023
ส่อง 10 เทรนด์เทคโนโลยีด้านเฮลท์แคร์ ปี 2023

เปิดอ่าน 11,466 ครั้ง
การศึกษาของเด็กไทยยุค Digital Society
การศึกษาของเด็กไทยยุค Digital Society

เปิดอ่าน 42,053 ครั้ง
อารยธรรมกรีกโบราณ
อารยธรรมกรีกโบราณ

เปิดอ่าน 12,518 ครั้ง
8 วิธีคลายเครียดทันใจ
8 วิธีคลายเครียดทันใจ

เปิดอ่าน 38,145 ครั้ง
การเรียนการสอนแบบ Montessori
การเรียนการสอนแบบ Montessori

เปิดอ่าน 5,448 ครั้ง
วิธีเลือกสกินแคร์ให้เหมาะกับผิว
วิธีเลือกสกินแคร์ให้เหมาะกับผิว

เปิดอ่าน 15,584 ครั้ง
ไม่อยากเป็นโรคกระดูกพรุน น้ำมะเขือเทศช่วยได้
ไม่อยากเป็นโรคกระดูกพรุน น้ำมะเขือเทศช่วยได้

เปิดอ่าน 30,306 ครั้ง
ลายมือผู้มีบารมี
ลายมือผู้มีบารมี

เปิดอ่าน 14,834 ครั้ง
ไฟล์ภาพ"GIF" อ่านว่า "จิฟ" ไม่ใช่"กิฟ!"
ไฟล์ภาพ"GIF" อ่านว่า "จิฟ" ไม่ใช่"กิฟ!"

เปิดอ่าน 39,909 ครั้ง
ตำนาน ดอกกุหลาบ กับความหมายดี ๆ
ตำนาน ดอกกุหลาบ กับความหมายดี ๆ

เปิดอ่าน 17,759 ครั้ง
อาหารต้องเลี่ยง ภาชนะต้องห้าม อย่านำเข้าไมโครเวฟ
อาหารต้องเลี่ยง ภาชนะต้องห้าม อย่านำเข้าไมโครเวฟ

เปิดอ่าน 798 ครั้ง
ไลเซนต์ Open Source ต่างกับไลเซนต์อื่นอย่างไร?
ไลเซนต์ Open Source ต่างกับไลเซนต์อื่นอย่างไร?

เปิดอ่าน 21,959 ครั้ง
"ว่านผู้เฒ่าเฝ้าบ้าน" กับความเชื่อทางสังคม
"ว่านผู้เฒ่าเฝ้าบ้าน" กับความเชื่อทางสังคม

เปิดอ่าน 53,828 ครั้ง
มารยาทของการจับมือ (shaking Hands)
มารยาทของการจับมือ (shaking Hands)

เปิดอ่าน 10,293 ครั้ง
“งานขาย-บริการ-อาหาร” อาชีพที่นายจ้างต้องการคนร่วมงาน
“งานขาย-บริการ-อาหาร” อาชีพที่นายจ้างต้องการคนร่วมงาน

เปิดอ่าน 9,754 ครั้ง
ล้างมืออย่างไร ให้สะอาดสูงสุด
ล้างมืออย่างไร ให้สะอาดสูงสุด
เปิดอ่าน 19,970 ครั้ง
จังหวัดไหนมีความสุขมากที่สุดในประเทศไทย ปี 2557?
จังหวัดไหนมีความสุขมากที่สุดในประเทศไทย ปี 2557?
เปิดอ่าน 16,741 ครั้ง
ร่างพระราชบัญญัติการรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
ร่างพระราชบัญญัติการรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
เปิดอ่าน 12,261 ครั้ง
แนะปรับกระจก-ท่านั่งเหมาะสม ลดเสี่ยงอุบัติเหตุ
แนะปรับกระจก-ท่านั่งเหมาะสม ลดเสี่ยงอุบัติเหตุ
เปิดอ่าน 13,560 ครั้ง
ข่า...ยาดีคู่ครัวไทย
ข่า...ยาดีคู่ครัวไทย

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ