ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือสำหรับเสริมสร้างมโนทัศน์ทางวิทยาศาสตร์และทักษะการทำงานกลุ่มเรื่องร่างกายมนุษย์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่2

ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ สำหรับเสริมสร้างมโนทัศน์ ทางวิทยาศาสตร์และทักษะการทำงานกลุ่ม เรื่อง ร่างกายมนุษย์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2

ผู้วิจัย นางสาวภูษณิศา บัวหลาย

ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ

หน่วยงาน โรงเรียนกุดเสลาวิทยาคม อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ

ปีที่พิมพ์ 2562

บทคัดย่อ

การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานสภาพปัญหาความต้องการจำเป็นในการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ 2) เพื่อสร้างและพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ แบบร่วมมือ สำหรับเสริมสร้างมโนทัศน์ทางวิทยาศาสตร์และทักษะการทำงานกลุ่ม เรื่อง ร่างกายมนุษย์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 3) ทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ สำหรับเสริมสร้างมโนทัศน์ ทางวิทยาศาสตร์และทักษะการทำงานกลุ่ม เรื่อง ร่างกายมนุษย์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 4) เพื่อประเมินความพึงพอใจของนักเรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ สำหรับเสริมสร้างมโนทัศน์ ทางวิทยาศาสตร์และทักษะการทำงานกลุ่ม เรื่อง ร่างกายมนุษย์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2

การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงทดลอง ประชากรที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ผู้บริหาร จำนวน 2 คน ครูกลุ่มสาระวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จำนวน 8 คน นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/1 จำนวน 30 คน ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/2 จำนวน 25 คน และระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/3 จำนวน 28 คน ที่กำลังเรียนในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2562 รวมประชากรที่ใช้ในการวิจัย จำนวน 83 คน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ เป็นผู้บริหาร จำนวน 2 คน ครูกลุ่มสาระวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จำนวน 8 คน ได้มาจากการเลือกแบบเจาะจง และนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/2 โรงเรียนกุดเสลาวิทยาคม ที่กำลังศึกษาอยู่ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2562 สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ จำนวน 25 คน ได้มาจากการเลือกสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) โดยใช้ห้องเรียน เป็นฐานในการสุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยในครั้งนี้ คือ 1) แบบสัมภาษณ์และวิเคราะห์เอกสาร ข้อมูลพื้นฐานสภาพปัญหาความต้องการจำเป็นของโรงเรียน ในการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ 2) รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ สำหรับเสริมสร้างมโนทัศน์ทางวิทยาศาสตร์และทักษะ การทำงานกลุ่ม เรื่อง ร่างกายมนุษย์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 3 ) แผนการจัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบ การจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ สำหรับเสริมสร้างมโนทัศน์ทางวิทยาศาสตร์และทักษะการทำงานกลุ่ม เรื่อง ร่างกายมนุษย์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 7 แผน 4) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ รายวิชาวิทยาศาสตร์ จำนวน 30 ข้อ หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง ร่างกายมนุษย์ 5) แบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่มีต่อการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ สำหรับเสริมสร้างมโนทัศน์ทางวิทยาศาสตร์และทักษะการทำงานกลุ่ม เรื่อง ร่างกายมนุษย์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 สถิติที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (Arithmetic Mean) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) การทดสอบค่าที (t-test Dependent) ประสิทธิภาพของกระบวนการ/ประสิทธิภาพของผลลัพธ์ (E1/E2) ค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC) ค่าอำนาจจำแนก ค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบ ผลการวิจัยพบว่า 1) ความพร้อมด้านสภาพปัญหา ความต้องการจำเป็นของโรงเรียนในการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ สำหรับเสริมสร้างมโนทัศน์ทางวิทยาศาสตร์และทักษะ การทำงานกลุ่ม เรื่อง ร่างกายมนุษย์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 อยู่ในระดับมากที่สุด โดยค่าเฉลี่ยสูงที่ 4.55 เท่ากัน 2) สร้างและพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ สำหรับเสริมสร้างมโนทัศน์ ทางวิทยาศาสตร์และทักษะการทำงานกลุ่ม เรื่อง ร่างกายมนุษย์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยใช้แผนการจัด การเรียนรู้ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ สำหรับเสริมสร้างมโนทัศน์ทางวิทยาศาสตร์ และทักษะการทำงานกลุ่ม เรื่อง ร่างกายมนุษย์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุดโดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.70 3) ประสิทธิภาพของรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ สำหรับเสริมสร้างมโนทัศน์ทางวิทยาศาสตร์และทักษะการทำงานกลุ่ม เรื่อง ร่างกายมนุษย์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 (E1/E2) มีค่าเท่ากับ 85.24/86.80 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ คือ 80/80 4) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนด้วยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ แบบร่วมมือ สำหรับเสริมสร้างมโนทัศน์ทางวิทยาศาสตร์และทักษะการทำงานกลุ่ม เรื่อง ร่างกายมนุษย์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 4) ความพึงพอใจ ของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ สำหรับเสริมสร้างมโนทัศน์ ทางวิทยาศาสตร์และทักษะการทำงานกลุ่ม เรื่อง ร่างกายมนุษย์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียน กุดเสลาวิทยาคม มีค่าเฉลี่ยโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.59

โพสต์โดย nid : [26 ก.พ. 2564 เวลา 20:16 น.]
อ่าน [2967] ไอพี : 1.2.228.174
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 10,238 ครั้ง
ความลับ ทำไมคนญี่ปุ่นถึงอายุยืนที่สุดในโลก
ความลับ ทำไมคนญี่ปุ่นถึงอายุยืนที่สุดในโลก

เปิดอ่าน 15,707 ครั้ง
1 กันยายน วันรำลึกถึง สืบ นาคะเสถียร
1 กันยายน วันรำลึกถึง สืบ นาคะเสถียร

เปิดอ่าน 108,556 ครั้ง
แบบจำลองการคำนวนการเลื่อนขั้นเงินเดือน
แบบจำลองการคำนวนการเลื่อนขั้นเงินเดือน

เปิดอ่าน 18,387 ครั้ง
แอร์รถมีกลิ่นตอนเปิด เกิดจากอะไร แก้ไขอย่างไร
แอร์รถมีกลิ่นตอนเปิด เกิดจากอะไร แก้ไขอย่างไร

เปิดอ่าน 9,177 ครั้ง
ทำอย่างไรการเรียนรู้จึงเกิดขึ้นกับคนทั้งประเทศ โดย นพ.ประเวศ วะสี
ทำอย่างไรการเรียนรู้จึงเกิดขึ้นกับคนทั้งประเทศ โดย นพ.ประเวศ วะสี

เปิดอ่าน 17,997 ครั้ง
อาหารที่เคยคิดว่าดี แท้จริงคือตัวการทำร้ายสุขภาพ
อาหารที่เคยคิดว่าดี แท้จริงคือตัวการทำร้ายสุขภาพ

เปิดอ่าน 3,886 ครั้ง
ประวัติลูกเสือไทย
ประวัติลูกเสือไทย

เปิดอ่าน 7,369 ครั้ง
กรมอนามัยเตือนตรุษจีนเลี่ยงควันธูปเสี่ยงมะเร็ง แนะจุดธูปเผากระดาษในที่โล่ง
กรมอนามัยเตือนตรุษจีนเลี่ยงควันธูปเสี่ยงมะเร็ง แนะจุดธูปเผากระดาษในที่โล่ง

เปิดอ่าน 18,291 ครั้ง
อหิวาตกโรค (Cholera)
อหิวาตกโรค (Cholera)

เปิดอ่าน 11,121 ครั้ง
คู่มือสำหรับประชาชน [ทุกกระทรวง]
คู่มือสำหรับประชาชน [ทุกกระทรวง]

เปิดอ่าน 10,908 ครั้ง
ดูทีวี-เล่นมือถือในที่มืด ระวังต้อหินคุกคามจนตาบอด
ดูทีวี-เล่นมือถือในที่มืด ระวังต้อหินคุกคามจนตาบอด

เปิดอ่าน 11,749 ครั้ง
เยือน "ศูนย์จราจรอัจฉริยะไทย" ที่ บก.02
เยือน "ศูนย์จราจรอัจฉริยะไทย" ที่ บก.02

เปิดอ่าน 17,365 ครั้ง
ฤกษ์ดี ฤกษ์มงคล เดือนธันวาคม 2551
ฤกษ์ดี ฤกษ์มงคล เดือนธันวาคม 2551

เปิดอ่าน 14,163 ครั้ง
คลิปผู้โดยสารโวยเมล์ 156 รอนาน ปะทะ "กระเป๋าฮาเฮ"
คลิปผู้โดยสารโวยเมล์ 156 รอนาน ปะทะ "กระเป๋าฮาเฮ"

เปิดอ่าน 51,082 ครั้ง
วิธีนี้ดีนะ..คณิตฯ ประถม ลบเลขไม่ต้องยืม
วิธีนี้ดีนะ..คณิตฯ ประถม ลบเลขไม่ต้องยืม

เปิดอ่าน 21,432 ครั้ง
ประวัติศาสตร์จังหวัดสกลนคร
ประวัติศาสตร์จังหวัดสกลนคร
เปิดอ่าน 7,876 ครั้ง
เหลียวหลัง แลหน้า ปฏิรูปการศึกษาพื้นฐานไทย
เหลียวหลัง แลหน้า ปฏิรูปการศึกษาพื้นฐานไทย
เปิดอ่าน 88,050 ครั้ง
มช.เจ๋งพบสารเซซมิน"งาดำ" รักษามะเร็งครั้งแรกของโลก
มช.เจ๋งพบสารเซซมิน"งาดำ" รักษามะเร็งครั้งแรกของโลก
เปิดอ่าน 11,278 ครั้ง
โยคะดีกับผิว เหมาะกับวัย
โยคะดีกับผิว เหมาะกับวัย
เปิดอ่าน 6,648 ครั้ง
ประโยชน์ของ มะละกอสุก หวานอร่อย ช่วยต้านมะเร็งหลายชนิด
ประโยชน์ของ มะละกอสุก หวานอร่อย ช่วยต้านมะเร็งหลายชนิด

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ