9 สายงานไทย เทรนด์ใหม่มาแรง

#showpic

วันที่ 1 พ.ค. เป็นวันแรงงานแห่งชาติ BLT หนังสือพิมพ์แจกฟรีรายสัปดาห์ สื่อในเครือสปริง กรุ๊ป ประมวล 9 สายงานไทย เทรนด์ใหม่มาแรง มาให้ทุกท่านลองพิจารณา หากต้องการจะเปลี่ยนอาชีพและเพิ่มรายได้ให้ตัวเอง คุณสมบัติมีอะไรบ้างนั้นติดตามได้เลย


1.การวางแผนด้านการเงินและการลงทุนสำหรับวัยเกษียณ

ข้อมูลจากมูลนิธิสถาบันวิจัยนโยบายเศรษฐกิจการคลัง ระบุว่าคนไทย 14 ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 25.8 ของประชากรที่มีอายุมากกว่า 18 ปี มีปัญหาขาดความรู้และวินัยทางการเงินและการออม จนมีจำนวนหนี้สินรวดเร็ว ซึ่งในปัจจุบันเริ่มมีการตระหนักถึงความสำคัญของการบริหารจัดการเงินและทรัพย์สินเพื่อให้ใช้ชีวิตได้อย่างไม่ลำบากในวัยเกษียณกันมากขึ้น อีกทั้งมีความต้องการเกษียณอายุงานเร็วขึ้น เพราะเบื่อหน่ายการเป็นมนุษย์เงินเดือน คิดเป็นเจ้าของกิจการ หรือต้องการเลี้ยงชีพด้วยการเล่นหุ้นเพื่อให้เงินทำงานแทน ดังนั้นผู้ที่จะมาช่วยบริหารจัดการเงินจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง


2.การดูแลผู้สูงอายุ

ในปี 2563 ไทยเตรียมก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ (Aging Society) อย่างเป็นทางการ โดยคาดว่าจะมีจำนวนผู้สูงอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป เพิ่มขึ้นถึงกว่า 12 ล้านคน ทำให้มีความต้องการผู้ที่ประกอบอาชีพเกี่ยวกับการพยาบาลและดูแลผู้สูงอายุมากขึ้น เนื่องจากคนยุคมิลเลนเนียมยังคงทำงานนอกบ้าน อาจจะไม่มีเวลาในการดูแลผุ้สูงอายุในบ้าน หรือผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัวต้องการการดูแลเอาใจใส่มากเป็นพิเศษ จำเป็นต้องอาศัยพยาบาลที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางมาดูแล ซึ่งค่าจ้างในปัจจุบันค่าแรงขั้นต่ำเทียบเท่ากับระดับปริญญาตรีหรืออาจะมากกว่า รวมถึงการค้นหานวัตกรรมใหม่ๆ มาช่วยดูแลผู้สูงวัยเหล่านี้


3.เทรนเนอร์ออกกำลังกายส่วนตัว

ในช่วง 2-3 ปีนี้ เทรนด์การรักสุขภาพของคนไทยยังคงเป็นที่นิยมอยู่มาก อีกทั้งสังคมเริ่มตระหนักถึงโรคภัยใหม่ๆ ที่เป็นอันตรายถึงชีวิต จึงมีการสร้างค่านิยมด้านนี้กันอย่างแพร่หลาย ทำให้ต้องมองหาผู้ช่วยในการดูแลทั้งโภชนาการและการออกกำลังกายที่ถูกต้องและได้ผลดี ซึ่งไลฟ์สไตล์ของคนยุคปัจจุบันเอง ก็ต้องการการยอมรับสูง ทั้งภาพลักษณ์ทางสังคมและภาพลักษณ์ของแต่ละบุคคล มีการสร้าง Personal Branding ส่วนตัวผ่านออนไลน์ อีกทั้งมีผู้นำเทรนด์ เช่น เซเลบริตี้และดาราที่เน้นการรักษาความงาม และการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ จึงทำให้อาชีพด้านนี้กำลังมาแรงอย่างยิ่ง


4.การแนะแนวการประกอบอาชีพเสริม

ในยุคนี้คนทำงานต่างมีอาชีพสำรอง เช่น ขายของออนไลน์ ขายอาหารเพื่อสุขภาพ จัดเก็บรายได้จากอพาร์ทเมนต์ให้เช่า โฮมสเตย์ที่เน้นวิถีชีวิตเชิงอนุรักษ์ ดังนั้น อาชีพด้านการสอนเพื่อพัฒนาทักษะด้านวิชาชีพได้รับความนิยมมาก ทั้งการจัดคอร์สอบรม สัมมนา Workshop ต่างๆ เพียงมั่นใจว่าทักษะความสามารถของคุณและสิ่งที่เรียนมา สามารถนำมาใช้การันตีความสามารถของผู้อื่นได้หลังจากที่พวกเขาผ่านการอบรมจากคุณแล้ว


5.โค้ช

เมื่อพูดถึง โค้ช ทุกคนอาจจะนึกถึงโค้ชกีฬา แต่อย่าลืมว่า โค้ช มีหลากหลายประเภท เช่น โค้ชผู้บริหาร โค้ชชีวิต โค้ชพัฒนาบุคลิกภาพ โค้ชพัฒนาจิต เป็นต้น ทำหน้าที่ให้คำปรึกษา ชี้แนะ ซึ่งนอกจากให้คำแนะนำในเรื่องต่างๆ ตามความเชี่ยวชาญแล้ว ยังช่วยรื่องการพัฒนาและดึงศักยภาพในตัวผู้ได้รับการฝึกสอนให้ออกมาใช้ในสถานการณ์ต่างๆ ได้อย่างเหมาะสม มีบทบาทสำคัญในการช่วยเป็นคู่คิด ให้มุมมองใหม่ๆ ไปจากที่เราคุ้นเคย และเป็นกระจกสะท้อนให้ผู้รับการฝึกเห็นตัวเองได้ชัดขึ้น ซึ่งอาจจะเป็นปัจจัยหนึ่งที่ผลักดันให้ผู้รับการฝึกประสบความสำเร็จในสิ่งที่ต้องการได้


6.นักวิทยาศาสตร์ข้อมูล

กำลังเป็นที่ต้องการอย่างมากในหลายองค์กรที่เล็งเห็นความสำคัญของการใช้ข้อมูล โดยเฉพาะอย่างยิ่งองค์กรที่มุ่งเน้นการใช้ Big Data ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เนื่องจากเป็นอาชีพที่ใหม่และใช้ทักษะความรู้หลายอย่าง อาทิ ด้านคอมพิวเตอร์ คณิตศาสตร์ สถิติ เป็นต้น ในการนำข้อมูลทั้งหมดมาวิเคราะห์ เพื่อนำเสนอสิ่งที่พบจากข้อมูลเข้าด้วยกัน ทำให้อาชีพนี้ได้รับค่าตอบแทนมากเป็นอันดับต้นๆ ซึ่งที่อเมริกาอาชีพนี้มีรายได้เฉลี่ยต่อปีละกว่า 5 ล้านบาทเลยทีเดียว


7.นักการตลาดดิจิทัล

การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตของไทยในปี 2559 สูงถึง 56% มีอัตราการใช้อินเตอร์เน็ตในมือถือสูงกว่า Laptop 65% การใช้บริการอินเตอร์เน็ตผ่านมือถือ 8.8 ชั่วโมงต่อวัน เมื่อตลาดเปลี่ยนจากตลาด Traditional เป็น Digital สร้างความขาดแคลนบุคคลากรด้านนี้ถึง 85% รวมทั้งเงินเดือนสูงกว่าอาชีพดั้งเดิมถึง 61% ซึ่งในบ้านเรามีสถาบันการศึกษาเพียงไม่กี่แห่งที่มีหลักสูตรที่เกี่ยวข้องสอนอยู่ และอาชีพนี้ไม่ต้องจบตรงสายแต่ถ้ามีพรแสวง ความรัก ความเป็นเลิศด้านภาษาอังกฤษเพื่อใช้ท่องโลกอินเตอร์เน็ต และเข้าใจถึงแก่นลึกของการเสพโซเชียลว่ากระแสไหนที่กำลัง in หรือ out อาชีพนี้จึงน่าสนใจไม่น้อย


8.นักพัฒนาแอพพลิเคชั่น

อาชีพนักพัฒนาแอพพลิเคชั่นเป็นอาชีพที่เหมาะกับคนรุ่นใหม่ที่มีความคุ้นเคยกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ จึงนับเป็นอาชีพแห่งอนาคตของคนรุ่นใหม่ ที่ลงทุนน้อย โดยใช้เพียงแค่คอมพิวเตอร์เครื่องเดียว บวกกับทักษะด้านดิจิทัลและความคิดสร้างสรรค์ ก็สามารถเป็นนักพัฒนาแอพพลิเคชั่นได้แล้ว และหากมีทักษะด้านธุรกิจก็สามารถต่อยอดกลายเป็นผู้ประกอบการเองได้อีกด้วย ซึ่งการสร้างแอพพลิเคชั่นใหม่ๆ ในทางธุรกิจ ตีราคาได้ตั้งแต่หลักหมื่นจนถึงหลักล้านเลยทีเดียว


9.กลุ่มแพทย์ทางเลือก

เนื่องจากการพัฒนาของเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมก่อให้เกิดมลภาวะ ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของการเจ็บป่วยเรื้อรัง ยากที่จะรักษาด้วยยาแผนปัจจุบัน ความเครียดจากการทำงานและการใช้ชีวิต ทำให้เกิดอาการต่างๆ ที่แพทย์แผนปัจจุบันทั่วไป ไม่สามารถรักษาได้ การแพทย์ทางเลือกหรือเข้าใจอย่างง่ายๆ คือ ผู้ที่มีความสามารถแนะแนวทางการรักษาจากการใช้ธรรมชาติบำบัด การดูแลรักษาสุขภาพด้วยธรรมชาติ เช่น การรับประทานอาหารคลีน ใช้สมาธิรักษาโรค โยคะบำบัด ดนตรีบำบัด ฯลฯจึงกำลังเป็นอาชีพที่นิยมมากขึ้นโดยเฉพาะในกลุ่มคนที่รักสวยรักงามและสุขภาพ

 

ขอบคุณที่มาภาพและเนื้อหาจาก Spring News วันอาทิตย์ 30 เมษายน 2017

 

โพสต์เมื่อ 1 พ.ค. 2560 อ่าน 37,947 ครั้ง

จัดทำเว็บไซต์โดย นายอดิศร ก้อนคำ (ครูโจ้)

ดูในหน้าเว็บปกติ