อยากเตือน...ป.ตรีอื่น ที่อยากเรียน ป.บัณฑิต



ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ค

Mask No Real Somkamol
อยากเตือน...ป.ตรีอื่น ที่อยากเรียน ป.บัณฑิต

ระยะนี้เห็นหลายท่านโพสการรับสมัครเรียน ป.บัณฑิต หลายสถาบันเลยทีเดียว ให้นึกสงสัยว่า ประกาศรับได้อย่างไร และเป็นห่วงผู้ที่ไม่รับข้อมูลข่าวสารอื่นใด เห็นป้ายรับสมัคร แล้วพากันไปสมัคร อันตรายอย่างยิ่ง

และชวนให้นึกโกรธว่า ท่านคะ ท่านอยากเป็นครู แต่ตัวท่านเองยังไม่คิดตามข้อมูลข่าวสารใดเลย ไม่ตรวจสอบสิ่งใด แล้วท่านสอนเด็กนะคะ น่าคิดนะคะ

ย้ำนะคะ 

1 วันนี้ คุรุสภายังไม่ได้รับรองหลักสูตร ป.บัณฑิตของสถาบันใด 

2 ผู้จะเรียน ป.บัณฑิตวิชาชีพครู ได้ ต้อง
- มีหนังสืออนุญาตให้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา โดยไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทางการศึกษาอยู่ก่อน 19 กันยายน 2556 และไม่หมดอายุ 
- มีรายชื่อในโครงการพัฒนาครูด้วยการเรียน ป.บัณฑิตฯ ของต้นสังกัดตนเอง 

3 การเทียบโอนความรู้ฯ ยุติแล้วนะคะ เรียนแบบไม่รับรองเอามาเทียบโอนไม่ได้แล้วนะคะ

4 รอประกาศทั้งรายชื่อ และ หลักสูตรที่หน้าเว็บไซต์คุรุสภา เพราะแต่ละสังกัด อาจจะไม่สามารถสมัครได้ทุกที่เหมือนกัน ต้องรอดูประกาศรายชื่อก่อนนะคะ 

มีอะไรที่ตกหล่นยังไม่หายสงสัยถามต่อได้ค่ะ

โพสต์เมื่อ 22 ก.พ. 2557 อ่าน 47036 | 11 ความเห็น

ความคิดเห็นที่ 1 | โดย คุณkooyo (โพสต์เมื่อ 23 ก.พ. 2557 เวลา 08:15 น.)
อย่าพึ่งไปตัดสินใจคนอื่นโดยหมายรวมนะครับ เราต้องนึกถึงความเป็นจริงนะครับ
ว่าสถาบันที่ผลิตครู จริง ๆ แล้วมักจะมีไม่ครบทุกวิชาเอก หรือพูดง่าย ๆ คือมี แต่ก็ไม่ได้เข้มข้นในแก่นสารของวิชาเอกนั้น ๆ เช่น
เคมี ฟิสิกส์ ชีวะ วิทยาการคอมพิวเตอร์ วิศวะคอมพิวเตอร์ ซึ่งวิชาเอกเหล่านี้ถ้าจะให้เข้าถึงแก่นสารแล้ว ต้องมักจะอยู่ในคณะวิทยาศาสตร์ หรือ วิศวะ ซึ่งมันไม่ได้อยู่ในคณะศึกษาศาสตร์ หรือครุศาสตร์ และที่เห็น ๆ กันก็จะมี การบัญชี การเงิน บริหารการจัดการ แล้ววิชาพวกนี้หระครับ ก็ไม่ได้อยู่ในศึกษาศาสตร์ ครุศาสตร์
แล้วถ้าไม่ได้เปิด ป.บัณฑิต ครูในสายวิชานี้ จะเอามาจากไหนครับ
คิดในทางที่ดี คือ ให้กลุ่มครูเหล่านั้นได้เรียนวิชาครู แล้วค่อยมาเป็นครู มันย่อมดีกว่า ไม่ได้เรียนรู้วิชาครู แต่ได้มาเป็นครู
ฝากท่าน ๆ ลองคิดตามผม และคิดให้ดีนะครับ
ความคิดเห็นที่ 2 | โดย คุณเหลิม (โพสต์เมื่อ 23 ก.พ. 2557 เวลา 09:26 น.)
ความคิดเห็นที่1 คุณอย่าไปตัดสินคนที่ไม่จบครูโดยตรงสิครับ วิชาจิตวิทยาเขาก็เรียนมาเหมือนกัน แต่วิชาการที่ได้มาและสามารถปฏิบัติได้จริงมีเยอะครับ มาวัดกันที่ตัวเด็กสิครับอย่าไปวัดว่าครูจบครูหรือไม่ ทฤษฏีใครก็พูดได้ เปิดกว้างทางความคิดหน่อยนะครับ
ความคิดเห็นที่ 3 | โดย คุณครูนอกระบบ (โพสต์เมื่อ 23 ก.พ. 2557 เวลา 09:35 น.)
ถึง คห.1 ในทางกลับกันคนเรียนครู 5 ปีแต่ไม่มีจิตสำนึก ไม่เข้าสอนเด็ก ทิ้งเด็กไปทำธุรส่วนตัวอยู่ประจำก็มีค่ะ อย่าเหมารวม เราเป็นครูเหมือนกันอย่ามาเหยียบย่ำกันเลย ทำดีไปเถอะค่ะผลบุญจะส่งผลให้ลูกหลานดี มีความเจริญก้าวหน้า ส่วนคนทำไม่ดีก็ปล่อยให้เวรกรรมลงโทษไป
ความคิดเห็นที่ 4 | โดย คุณClosingkroo (โพสต์เมื่อ 23 ก.พ. 2557 เวลา 14:42 น.)
น่าเห็นใจนะครับ บางคนยอมไปสอนฟรี เพื่อแลกกับโอกาสที่โรงเรียนจะส่งชื่อให้ไปเรียนป.บัณฑิต กันเลยทีเดียว นี่แหละ บางทีการเลือกดำเนินการอะไรบางอย่างไปแล้ว มันอาจสายที่จะย้อนกลับมาเดินทางเดิม หรือหากจะเดินทางลัด อุปสรรคก็อาจจะมีมากกว่าทางเดิมก็ได้
ความคิดเห็นที่ 5 | โดย คุณปี้ (โพสต์เมื่อ 24 ก.พ. 2557 เวลา 11:53 น.)
" ท่านคะ ท่านอยากเป็นครู แต่ตัวท่านเองยังไม่คิดตามข้อมูลข่าวสารใดเลย ไม่ตรวจสอบสิ่งใด แล้วท่านสอนเด็กนะคะ น่าคิดนะคะ "
ท่านพูดถูกแล้วครับ ขนาดอยากไปสอนคนอื่น ตนเองไม่ศึกษาข้อมูลแล้วโดนคนอื่นหลอก

คุรุสภา เค้าเป็นห่วง ว่า พวกท่านจะโดนหลอก เพราะมหาลัยสร้างปัญหาแล้ว มักไม่รับผิดชอบ โยนให้เด็กไปแก้ปัญหาเอง สุดท้ายก็จะแห่กันมาหารัฐมนตรีเพื่อขอให้ช่วย เพราะเรียนแล้วคุรุสภาไม่รับรอง ดังข่าวที่ปรากฎให้เห็นกันอยู่
ความคิดเห็นที่ 6 | โดย คุณครูหยวก (โพสต์เมื่อ 25 ก.พ. 2557 เวลา 08:59 น.)
การที่จะเป็นครูมันต้องมาจากข้างในครับ ไม่ใช่มาหัดหรือฝึกกันแค่แปบๆการที่เราไปสอนนักเรียนมันต้องใช้อะไรหลายๆอย่างซึ่งสิ่งเหล่านั้นมันมาจากข้างในตัวของครูเอง ที่เราเรียกกันว่าศิลปการสอนมันจะมีอยู่ในตัวของผู้สอนเองโดยไม่ต้องฝึกคือพรสรรค์ นั้นเอง คนที่มีสิ่งเหล่านี้เค้ามักอยากเป็นครูตั้งแต่ต้น ลองกลับไปมองตัวเองว่าพร้อมจะมาเป็นครูเพื่อเด็ก หรือมาเป็นเพราะเค้าเปิดสอบกันบ่อยหรือตกงานในสายอาชีพที่รัก ฝากหากคุณฟังเพลงพระคุณที่สาม แล้วขนไม่ลุกหรือไม่มีความศรัทธา ผมว่าเป็นครูคงยากหรือเป็นแค่เพียงกายส่วนใจคงไม่ใช่
ความคิดเห็นที่ 7 | โดย คุณบอย (โพสต์เมื่อ 25 ก.พ. 2557 เวลา 09:11 น.)
ถ้าการที่คุณคิดว่า เป็นครูจำเป็นต้องเรียนครูแต่ต้น ถึงเป็นครูที่ดีได้นั้น ผมว่าคุณคิดผิดนะ และคิดแคบมากเลยหละ ครูป.บัณฑิต เค้าก็ถนัดสายวิชาที่เค้าเรียนมาเฉพาะทางกว่าคุณๆ 4 ปีนะครับคิดในข้อนี้ด้วย การเบนสายงานมันเป็นธรรมดาของโลกคุณเปิดใจให้กว้างนิดนึงไม่ใช่อะไรก็ ฉันนี่หละอยากเป็นครูเรียนมา 5 ปีนะไอ้คนอื่นที่มันเสร่อมาเรียนเพิ่ม มันไม่มีจิตวิญญาณความเป็นครู?
คนเป็นครูคิดได้แค่เนี้ยหรอครับ คุณนึกถึงครูเก่าๆของคุณบ้างก็ไม่ได้เรียนครูมาทุกคนนะ บางคนเรียนเกษตร เรียนอย่างอื่นมาด้วยซ้ำแต่ท่านก็สอนคุณมาได้และได้ดีด้วยสำหรับผม เพราะอย่างนั้นอย่าใจแคบ ผมเป็นคนนึง ป.บัณฑิต ตั้งแต่บรรจุมาผลคะแนน
o-net ผมก็ติด 1 ใน 10 ตลอด แข่งขันวิชาการผมก็ได้เป็นตัวแทนแข่งระดับประเทศ งานผมก็ทำเต็มที่ไม่น้อยไปกว่า ครูบางคนที่เค้ามาโพสด้วยความคิดแคบๆหรอกครับ เปิดใจหน่อย
ความคิดเห็นที่ 8 | โดย คุณTARnoi (โพสต์เมื่อ 30 พ.ค. 2557 เวลา 15:16 น.)
" ท่านคะ ท่านอยากเป็นครู แต่ตัวท่านเองยังไม่คิดตามข้อมูลข่าวสารใดเลย ไม่ตรวจสอบสิ่งใด แล้วท่านสอนเด็กนะคะ น่าคิดนะคะ "
มันก็จริงอย่างท่านว่าครับ แต่ คนเราไม่ได้ว่างทั้งวันนะครับ ต้องทำมาหากินครับ ไม่ได้อยู่หน้าคอมหรือหน้าสมาร์ทโฟนทั้งวันนะครับ
ความคิดเห็นที่ 9 | โดย คุณTARnoi (โพสต์เมื่อ 30 พ.ค. 2557 เวลา 15:21 น.)
ความคิดเห็นที่ 4 โดยคุณ : Closingkroo Nathapongw@hotmail.com

ผมเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งครับ ส่วนมากคนที่ได้อะไรมาง่ายๆมักจะไม่เหนคุณค่าของมันครับ

·····

เรื่องอื่นๆ


อำนาจในการอนุมัติจ่ายเงินเพื่อประโยชน์การศึกษา [อ่าน 107]
สพฐ.ประกาศผลสอบบรรจุ ตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค (2) พ.ศ.2567 [อ่าน 6156]
ครม.ต่ออายุโครงการศูนย์การเรียนสำหรับเด็กในโรงพยาบาล [อ่าน 469]
ประกาศคณะกรรมการอาหารนมเพื่อเด็กและเยาวชน เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการดำเนินงานโครงการอาหารเสริม (นม) ประจำโรงเรียน ประจำปีการศึกษา 2567 [อ่าน 1238]
กมว.อนุมัติตั๋วครูชั่วคราว 8 สาขาขาดแคลนที่ไม่ได้จบสายครูโดยตรง [อ่าน 19199]

·····

จัดทำเว็บไซต์โดย นายอดิศร ก้อนคำ (ครูโจ้)