13 พฤติกรรมลบในการใช้สื่อของเยาวชนไทย จริงหรือไม่? มีอะไรบ้าง อ่านเลย!



นักวิชาการเผย 13 พฤติกรรมลบในการใช้สื่อของเยาวชนไทย

นักวิชาการสถาบันการสื่อสารสาธารณะชี้เด็กไทยยุคปัจจุบันไร้ความสามารถในการจัดการข้อมูล เสพสื่ออย่างไร้ความรับผิดชอบ ฉะสื่อเป็นตัวกระตุ้นเร่งเด็กเข้าถึงเรื่องเพศเร็วขึ้น

นายธาม เชื้อสถาปนศิริ นักวิชาการสถาบันการสื่อสารสาธารณะ (สวส.) กล่าวเวทีระดับชาติว่าด้วยการอภิบาลอินเทอร์เน็ตของไทยที่ร่วมจัดกับภาคีเครือข่าย 16 องค์กร มีการเสวนาในหัวข้อ “การเฝ้าระวังเนื้อหาที่เป็นอันตรายต่อเด็กและเยาวชน” ณ ห้อง 409 คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อเร็วๆ นี้ ถึงคนที่เกิดตั้งแต่ปี ค.ศ.2000 เป็นต้นมา หรือที่เราเรียกันว่า เจเนอรัลชันซี หรือ Gen C เป็นรุ่นที่มีปัญหามาก คือ เป็นกลุ่มที่หลงตัวเอง ขี้เกียจ ชอบพิทักษ์สิทธิ เป็นกลุ่มที่เกิดมาในยุคโซเชียลเลิร์นนิ่งสามารถเรียนรู้ทุกอย่างได้จากอินเทอร์เน็ต ไม่มีใครมาผูกขาดทางความคิด เป็นยุคที่เด็กเลือกคัดลอกเนื้อหาจากอินเทอร์เน็ตแล้วส่งงาน ทำให้ปัจจุบันเด็กไทยมีปัญหาในการใช้ข้อมูล เรียกง่ายๆ ว่า เด็กบ้านเราใช้ข้อมูลไม่เป็น เวลาค้นหาข้อมูลในกูเกิลมีร้อยล้านข้อมูลแสดงขึ้นมา แต่สิ่งที่เด็กยุคนี้ทำคือคลิกเลือกข้อมูลลำดับที่ 1 2 3 แล้วคัดลอกมาวางเพื่อส่งนั้นแสดงให้เห็นถึงการไม่มีความสามารถในการจัดการความรู้

นายธาม กล่าวว่า ในปี 2015 เป็นยุคที่ผู้คนหยิบโทรศัพท์มือถือเพื่ออัพเดทข้อมูลข่าวสาร แต่ไม่ใช่การอัพเดทข้อมูลข่าวสารเว็บหลัก สิ่งที่เกิดขึ้นคือการเสพข่าวตามเพื่อนที่อยู่ในโลกโซเชียล เช่น โพสต์ข่าวแบบไหน แชร์แบบไหน คบใครก็ได้ข่าวแบบนั้น แชร์ข่าวจากใครก็ได้โลกทัศน์แบบนั้น ธุรกิจข้อมูลกับธุรกิจโทรคมนาคมกลายเป็นธุรกิจเดียวกัน เกิดการเสพสื่อ แชร์สื่ออย่างไม่มีความรับผิดชอบ

"เราจึงเห็นข่าวนักเรียนไทยไปนาซาร์ที่ดาวพลูโต เพราะเยาวชนในปัจจุบันนี้ชอบการสร้างอัตลักษณ์ตัวตน ชอบการสื่อสารในทันที สื่อสารข้ามวัฒนธรรม ชอบความมีปฏิสัมพันธ์ ปัจเจกชนนิยม และชอบแยกตัวโดดเดี่ยวจากสังคม"

นักวิชาการสถาบันการสื่อสารสาธารณะ กล่าวถึงพฤติกรรมการเลียนแบบของเด็กว่า ในอดีตเด็กจะเลียนแบบดาราจากโทรทัศน์ แต่ในยุคโซเชียลเด็กเลียนแบบพฤติกรรมจากเน็ตไอดอล พริตตี้ อยากสวยอยากได้ยอดไลค์มากๆ ต้องถ่ายรูปแบบไหน ถ่ายแบบเห็นหน้าอก โชว์สัดส่วน มาจากการเลียนแบบจากบุคคลในโลกออนไลน์ ฉะนั้นสื่อออนไลน์จึงเปรียบเสมือนปุ๋ยชั้นดีที่เร่งให้เด็กเข้าถึงในเรื่องเพศมากขึ้น เด็กในต่างจังหวัดไปโรงเรียนถ่ายรูปแต่งตัวในห้องน้ำ เอามาโพสต์ลงโซเชียลเพื่อเรียกยอดไลค์ สื่อจึงทำให้เด็กสนใจแต่เรื่องความงาม เนื่องจากตลาดของความงามค่อนข้างจำกัดตลาด เด็กเสพติดการเซลฟี่ โพสต์รูปเพื่อรอจำนวนไลค์ ยอดแชร์ ส่งผลให้ความถนัดในคุณค่าเนื้อหาที่แท้จริงของเด็กไทยหายไป

นอกจากนี้ นายธามยัง กล่าวถึง 13 พฤติกรรมลบของการใช้สื่ออินเทอร์เน็ตของเยาวชนไทยด้วยว่า

1.ใช้สื่อมากเกินไปในแต่ละวัน เสพติดอินเทอร์เน็ต ขาดปฏิสัมพันธ์กับสังคม

2.ใช้สื่อเปิดเผยอัตลักษณ์ส่วนบุคคลและข้อมูลที่อยู่บนเครือข่ายสาธารณะ

3.ใช้สื่อเข้าถึงเนื้อหาอันตราย สื่อลามก อนาจาร ยาเสพติด การพนัน

4.ใช้สื่อในธุรกรรมการเงิน ค้าขาย การสมัครสมาชิกกลุ่มที่ไม่เหมาะสม

5.ใช้สื่อเลียนแบบพฤติกรรมรุนแรงและการต่อต้านสังคม

6.ใช้สื่อบนเครือข่ายสนทนาออนไลน์และนำไปสู่การล่อลวงทางออนไลน์

7.ใช้สื่อออนไลน์ที่ไร้สาระ มุ่งเน้นเสพความบันเทิงมากเกินไป

8.ใช้สื่อสร้างสถานะภาพทางสังคม สร้างตัวตนเสมือน ติดกับดักการมีชื่อเสียง

9.ใช้สื่อในการรังแก กลั่นแกล้ง ล้อเลียน ประณามเพื่อนออนไลน์

10.ใช้สื่อสร้างความเกลียดชัง อคติ และไล่ล่าแม่มด

11.ใช้สื่อที่ขาดทักษะในการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล

12.ใช้สื่อเพื่อลอกการบ้าน ทำรายงานวิชาการ คัดลอกขโมยข้อมูล

13.ใช้สื่อเพื่อการสร้างกระแสอารมณ์ดร่ามา

 

ที่มา สำนักข่าวอิศรา วันที่ 31 กรกฎาคม 2558

 

โพสต์เมื่อ 1 ส.ค. 2558 อ่าน 11432 | 0 ความเห็น

·····

เรื่องอื่นๆ


ก.ค.ศ. อนุมัติให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีและเลื่อนเป็นวิทยฐานะเชี่ยวชาญ จำนวน 19 ราย เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2567 [อ่าน 4429]
รายละเอียดการสอบแข่งขันฯ ตำแหน่งครูผู้ช่วย สังกัด สพฐ. ปี พ.ศ. 2567 [อ่าน 673]
สพฐ.แจ้งการสอบแข่งขันฯ ตำแหน่งครูผู้ช่วย สังกัด สพฐ. ปี พ.ศ. 2567 สมัครสอบทางออนไลน์เพียงรูปแบบเดียว [อ่าน 1335]
ประกาศผลการพิจารณาคัดเลือกโครงงานคุณธรรมเฉลิมพระเกียรติ "เยาวชนไทย ทำดี ถวายในหลวง" ปีที่ 18 ปีการศึกษา 2566 (ระดับประเทศ) [อ่าน 700]
การปรับหลักเกณฑ์การเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรม การจัดงาน และการจัดประชุมราชการ [อ่าน 1528]

·····

จัดทำเว็บไซต์โดย นายอดิศร ก้อนคำ (ครูโจ้)