สั่งเลื่อนประกาศเกณฑ์ประเมินรอบสี่ "ดาวพงษ์"ตั้งคณะทำงานเฟ้นหาจุดลงตัว ย้ำต้องไม่สร้างภาระให้กับครู

พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังการหารือร่วมกับ ศ.ดร.มณฑล สงวนเสริมศรี ประธานกรรมการบริหารสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) พร้อมด้วย ศ.ดร.ชาญณรงค์ พรรุ่งโรจน์ ผู้อำนวยการ สมศ. และผู้บริหารของ สมศ. เกี่ยวกับการประเมินคุณภาพภายนอกรอบสี่ (ปีงบประมาณ 2559-2563) ว่า สมศ. ได้รายงานผลการประเมินในรอบที่ผ่านมา รวมถึงรูปแบบ เกณฑ์ และตัวชี้วัดในทุกระดับที่จะใช้ในการประเมินรอบสี่ ซึ่งที่ประชุมได้มีการรับฟัง และมีข้อท้วงติงในบางเรื่อง โดยเฉพาะตัวชี้วัดบางตัวที่ยังไม่แน่ใจว่าจะดำเนินการได้หรือไม่ ดังนั้น จึงให้ตั้งคณะทำงานขึ้นประกอบด้วยผู้แทนจากองค์กรหลักของกระทรวงศึกษาธิการ และผู้แทน สมศ. เพื่อนำเกณฑ์ และตัวชี้วัดทุกระดับมาหารือร่วมกัน ทั้งพื้นฐาน อาชีวศึกษา และอุดมศึกษา เพื่อให้มีความเหมาะสมสอดคล้องกับบริบทของสถานศึกษา ที่สำคัญต้องไม่สร้างภาระให้แก่ครูมากเกินไป

รมว.ศึกษาธิการกล่าวอีกว่า ตามกำหนดการเดิม สมศ.จะประกาศเกณฑ์ และตัวชี้วัดที่จะใช้ในการประเมินรอบสี่ ให้สถานศึกษาทุกแห่งทราบในวันที่ 14 ต.ค.นี้ แต่เพื่อให้คณะทำงานที่ตนให้ตั้งขึ้นได้นำเกณฑ์และตัวชี้วัดมาพิจารณาก่อน ดังนั้น การประกาศเกณฑ์ดังกล่าวคงต้องเลื่อนออกไปก่อน และทันทีที่มีการพิจารณาเกณฑ์ที่ลงตัวและได้ตัวชี้วัดที่เหมาะสมแล้วจึงประกาศใช้ต่อไป ทั้งนี้ในสัปดาห์หน้าคงจะได้คณะทำงาน และเริ่มประชุมร่วมกัน ซึ่งคาดว่าปลายเดือน ต.ค.นี้น่าจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจนว่าตัวชี้วัดจะเป็นอย่างไร และหากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงก็จะเริ่มประเมินรอบสี่ในเดือน ม.ค.2559 ด้าน รศ.นพ.กำจร ตติยกวี ปลัด ศธ. กล่าวว่า หลังจากนี้หน่วยงานต้นสังกัดของสถานศึกษาทุกระดับ เช่น สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) และสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ต้องไปจัดหาผู้แทน เพื่อมาเป็นตัวเชื่อมในการทำงานร่วมกันระหว่างสถานศึกษา และ สมศ. ในการปรับปรุงตัวชี้วัด และเกณฑ์การประเมิน แต่จะมีการปรับในส่วนใดบ้างนั้น ขณะนี้ยังตอบไม่ได้ ต้องให้ทั้งสองฝ่ายมาศึกษารายละเอียดแต่ละตัวชี้วัดก่อน เพราะขณะนี้ สมศ. ยังไม่ได้นำตัวชี้วัดที่จะใช้ในการประเมินรอบสี่มาให้ดูทั้งหมด.

ที่มา ไทยรัฐ ฉบับวันที่ 10 ต.ค. 2558 (กรอบบ่าย) 

โพสต์เมื่อ 10 ต.ค. 2558 อ่าน 3679 | 0 ความเห็น