เตรียมให้เด็กป.1-3เรียนภาษาอังกฤษทุกวัน



"ดาว์พงษ์" ปลื้ม Boot Camp ภาษาอังกฤษ เดินหน้าขยายเพิ่มครูแกนนำ 3 พันคน พร้อมเพิ่มชั่วโมงเรียนภาษาอังกฤษ เด็ก ป.1-3 เรียนภาษาทุกวัน จากสัปดาห์ละ 1 ชั่วโมง หรือคิดเป็น 200 ชั่วโมง/ต่อปีการศึกษาสัปดาห์ เริ่มเทอม 2 ปีนี้

#showpic

พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ตนพร้อมด้วย นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมช.ศธ.) ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมการประชุมเชิงปฏิบัติการพัฒนาครูและแกนนำด้านการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ (Boot Camp) พบว่าครูทุกคนมีความตั้งใจในการร่วมกิจกรรมดีมาก และวิทยากรทุกคนก็เป็นคนเก่ง มีคุณภาพ ทำให้ตนมั่นใจได้ว่าครูที่เข้าโครงการทั้ง 350 คน จะมีความสามารถที่เพิ่มขึ้น รวมถึงมีความมั่นใจที่จะถ่ายทอดความรู้ให้แก่เด็กได้ดีขึ้นอย่างผิดหูผิดตา และจากการตรวจเยี่ยมสิ่งหนึ่งที่ตนได้รับทราบจากครูก็คือ เรื่องวิธีการสอนที่ได้รับการฝึกจากการเข้าอบรม มีความแตกต่างจากการสอนในปัจจุบันเป็นอย่างมาก และการเข้าอบรมในครั้งนี้จะช่วยให้ครูรู้จักวิธีการสอนที่จะให้นักเรียนเป็นศูนย์กลางและรู้สึกสนุกกับกิจกรรมการเรียนการสอน

รมว.ศธ.กล่าวอีกว่า ตนได้มอบหมายให้ รมช.ศธ.ขยายการอบรมครูภาษาอังกฤษในลักษณะนี้เพิ่มขึ้นอีก โดยตั้งเป้าหมายที่ 3,000 คน ภายในปี พ.ศ.2559 โดยอาจจะมีการจัดแยกไปตามภูมิภาค และพูดคุยในเรื่องกระบวนการดำเนินการ เพื่อให้เป็นการอบรมที่ได้คุณภาพ ซึ่งจะสอดคล้องกับสิ่งที่ ศธ.กำลังเดินหน้าขับเคลื่อน คือการปรับหลักสูตรการเรียนการสอน ซึ่งได้ตั้งตุ๊กตาไว้แล้วว่า ศธ.จะเพิ่มชั่วโมงการเรียนการสอนวิชาภาษาอังกฤษให้กับเด็กในชั้นประถมศึกษาตอนต้น ป.1-3 จากเดิมที่เรียนภาษาอังกฤษปีการศึกษาละ 40 ชั่วโมง หรือสัปดาห์ละ 1 ชั่วโมง จะปรับเป็น 200 ชั่วโมงต่อปีการศึกษา จะจัดให้มีการเรียนการสอนทุกวัน คิดว่าน่าจะเริ่มใช้ได้ทัน ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 นี้

"เพราะผมเชื่อว่าเมื่อไรที่เราทำให้เด็กเล็กๆ ไม่กลัวที่จะพูดหรือใช้ภาษาอังกฤษ เมื่อนั้นเราจะประสบความสำเร็จ เด็กจะกล้าเรียน กล้าพูด กล้าตอบโต้ และจะเป็นฐานในการพัฒนาเมื่อเรียนในระดับที่สูงขึ้น" รมว.ศธ.กล่าว

ด้าน นพ.ธีระเกียรติกล่าวว่า สิ่งที่ทำให้โครงการนี้ประสบความสำเร็จคือการที่ครูทุกคนเสียสละเวลาเพื่อมาอบรมอย่างเข้มข้นร่วมกันเป็นเวลาถึง 6 สัปดาห์ และตนเชื่อว่าตอนนี้ครูที่เข้าอบรมมีความพร้อมทั้งความรู้ เทคนิคการสอน ที่จะถ่ายทอดให้แก่เด็กอย่างเต็มที่แล้ว อย่างไรก็ตาม การอบรมในครั้งนี้จะเป็นกำลังสำคัญในการวางรากฐานภาษาอังกฤษของประเทศอย่างแน่นอน. 

 

ที่มา ไทยโพสต์ วันที่ 1 เมษายน 2559

 


ศธ.ปรับเพิ่มชั่วโมงเรียนภาษาอังกฤษประถมต้น

พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยว่า จากการตรวจเยี่ยมการประชุมเชิงปฏิบัติ การพัฒนาครูและแกนนำด้านการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ (Boot Camp) พบว่า ครูทุกคนมีความตั้งใจในการร่วมกิจกรรมดีมาก และวิทยากรทุกคนก็เป็นคนเก่ง มีคุณภาพ ทำให้ตนมั่นใจได้ว่าครูที่เข้าโครงการทั้ง 350 คน จะมีความสามารถที่เพิ่มขึ้น รวมถึงมีความมั่นใจที่จะถ่ายทอดความรู้ให้แก่เด็กได้ดีขึ้นอย่างผิดหูผิดตา และจากการตรวจเยี่ยมสิ่งหนึ่งที่ตนได้รับทราบจากครูก็คือ เรื่องวิธีการสอนที่ได้รับการฝึกจากการเข้าอบรม มีความแตกต่างจากการสอนในปัจจุบันเป็นอย่างมากและการเข้าอบรมในครั้งนี้ จะช่วยให้ครูรู้จักวิธีการสอนที่จะให้นักเรียนเป็น ศูนย์กลางและรู้สึกสนุกกับกิจกรรมการเรียนการสอน จึงได้มอบหมายให้ รมช.ศธ. ขยายการอบรมครูภาษาอังกฤษในลักษณะนี้เพิ่มขึ้นอีก โดยตั้งเป้าหมายที่ 3,000 คนภายในปี พ.ศ.2559โดยอาจจะมีการจัดแยกไปตามภูมิภาค

รมว.ศึกษาธิการกล่าวอีกว่า ได้ตั้งตุ๊กตาไว้แล้วว่า ศธ.จะเพิ่มชั่วโมงการเรียนการสอนวิชาภาษาอังกฤษให้เด็กชั้นประถมศึกษาตอนต้น ป.1-3 จากเดิมที่เรียนภาษาอังกฤษปีการศึกษาละ 40 ชั่วโมง หรือสัปดาห์ละ 1 ชั่วโมง ปรับเป็น 200 ชั่วโมงต่อปีการศึกษา จะจัดให้มีการเรียนการสอนทุกวัน คิดว่าน่าจะเริ่มใช้ได้ทัน ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 นี้ เชื่อว่าเมื่อใดที่เราทำให้เด็กเล็กๆไม่กลัวที่จะพูดหรือใช้ภาษาอังกฤษ เมื่อนั้นเราจะประสบความสำเร็จ.

 

ที่มา: http://www.thairath.co.th

โพสต์เมื่อ 1 เม.ย. 2559 อ่าน 24231 | 0 ความเห็น

·····

เรื่องอื่นๆ


อำนาจในการอนุมัติจ่ายเงินเพื่อประโยชน์การศึกษา [อ่าน 79]
สพฐ.ประกาศผลสอบบรรจุ ตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค (2) พ.ศ.2567 [อ่าน 6111]
ครม.ต่ออายุโครงการศูนย์การเรียนสำหรับเด็กในโรงพยาบาล [อ่าน 466]
ประกาศคณะกรรมการอาหารนมเพื่อเด็กและเยาวชน เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการดำเนินงานโครงการอาหารเสริม (นม) ประจำโรงเรียน ประจำปีการศึกษา 2567 [อ่าน 1233]
กมว.อนุมัติตั๋วครูชั่วคราว 8 สาขาขาดแคลนที่ไม่ได้จบสายครูโดยตรง [อ่าน 19189]

·····

จัดทำเว็บไซต์โดย นายอดิศร ก้อนคำ (ครูโจ้)