#showpic

คกก.อิสระฯ พิจารณา ร่างแผนปฏิรูปประเทศ ด้านการศึกษา"หมอจิรุตม์” เผยต้องร่างกม. 30ฉบับรองรับ ไม่นับกม.ลูก ส่วนผลทำประชาพิจารณ์มีผู้สนใจ กว่า 900 คน แสดงความคิดเห็นน้อยแค่ 20 กว่าคน เตรียมเสนอ ครม.พิจารณา 4 ก.ย.นี้ ชี้โครงสร้าง ศธ. สกศ.เปลี่ยนแน่ ส่วนอื่นๆ มีบทเฉพาะกาลให้จัดทำรายละเอียดเพิ่มเติม โดยนำเอาระบบ กลไก และโครงสร้างต่างๆ ตามที่กำหนดไว้

นพ.จิรุตม์ ศรีรัตนบัลล์ ประธานอนุกรรมการเฉพาะกิจจัดทำร่างแผนการปฏิรูปประเทศด้านการศึกษา กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษาว่า ที่ประชุมได้มีการพิจารณาร่างแผนปฏิบัติประเทศ ด้านการศึกษา ที่มีการเผยแพร่ทางhttp://www.thaiedreform.org และมีผู้ที่สนใจเข้าชมกว่า 900 คน และมีผู้แสดงความคิดเห็นประมาณ 24-25 คน โดยกระบวนการรับฟังความคิดเห็นจะสิ้นสุดเดือนสิงหาคม 2561 นี้ ก่อนเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาภายในวันที่ 4 กันยายน 2561 โดยที่ประชุมได้ทบทวนเกี่ยวกับสาระสำคัญของแผนการปฏิรูปประเทศด้านการศึกษา 6 ประเด็น ได้แก่ 1.การบริหารจัดการเด็กเล็กก่อนวัยเรียน 2.การลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา 3.การสร้างระบบผลิต คัดกรอง และพัฒนาครู 4.การปรับปรุงการเรียนการสอน 5.การปรับปรุงโครงสร้างกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เพื่อรองรับกลไกการปฎิรูปการเรียนการสอน การให้อิสระสถานศึกษาบริหารจัดการ การจัดทำฐานข้อมูลระบบบิ๊กดาต้า และ 6.การจัดทำร่าง พ.ร.บ.การศึกษาชาติ พ.ศ.... และจากนี้จะต้องมีการยกร่างกฎหมายขึ้นมารองรับกว่าอีก 30 ฉบับ และจัดทำกฎหมายลูกรองรับ พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวนั้น ซึ่งมีความคิดเห็นจากกรรมการหลายท่าน

“ที่ประชุมได้หารือถึงแนวทางในการเร่งมาตรการระยะสั้น ที่จะต้องทำให้สำเร็จเป็นรูปธรรมภายในกลางปี 2562 ให้ได้ เช่น ดิจิตอลแพลตฟอร์ม ระบบสารสนเทศจัดการศึกษา เป็นต้น อีกทั้งการผลิตคัดกรองครู การจัดทำหลักสูตรฐานสมรรถนะ ที่จะต้องจัดทำข้อเสนอ กฎบัญญัติ ระเบียบต่างๆ ของร่างพ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ....ฉบับใหม่ เพื่อให้กรรมการทำงานได้ทันที"

อย่างไรก็ตาม สำหรับเรื่องการปฏิรูปโครงสร้าง ศธ. ที่มีการเปลี่ยนแปลงนั้น หน่วยงานแรกที่จะปรับเปลี่ยน คือ สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) ที่จะทำหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการนโยบายการศึกษาแห่งชาติ เนื่องจากมีโครงสร้างของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา มีความใกล้เคียง และดูเรื่องแผนการศึกษาแห่งชาติอยู่แล้ว ซึ่งเห็นว่าไม่ควรมีการตั้งหน่วยงานใหม่ที่ไม่จำเป็น แต่จะมีการปรับบทบาทหน้าที่ให้สามารถทำงานใหม่ได้ดีขึ้น ส่วนโครงสร้างที่เหลือ มีบทเฉพาะกาลให้จัดทำรายละเอียดเพิ่มเติม เพื่อปรับโครงสร้าง ศธ.ให้สอดคล้องกับแผนปฏิรูป โดยนำเอาระบบ กลไก และโครงสร้างต่างๆ ตามที่กำหนดไว้”นพ.จิรุตม์ กล่าว

ด้านนายชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ เลขาธิการสภาการศึกษา (เลขาฯ สกศ.) กล่าวว่า แผนปฏิรูปประเทศด้านการศึกษาได้วางเป็น 3 ระยะ คือ ช่วงระยะเวลาที่ทำงานของคณะกรรมการอิสระฯ ถึงวันที่ 30 พฤษภาคม 2562 ระยะเวลา 5 ปี และระยะเวลา 10 ปี ดังนั้น การปฏิรูปประเทศด้านการศึกษา จะสมบูรณ์ทั้งหมดได้ภายใน 10 ปี ซึ่งใน 6 ประเด็นสำคัญตามแผนดังกล่าว ที่ประชุมได้มีการตั้งข้อสังเกต และต้องดำเนินการตรวจสอบให้มั่นใจในหลายเรื่อง เช่น การให้ครูได้รับค่าตอบแทนที่เหมาะสม กลไกสร้างระบบคุณธรรมการบริหารงานบุคคล อนุบาล 3 ขวบได้เรียนฟรีจริง เด็กเรียนม.ปลาย และปวช.หรือผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ต้องได้เรียนอย่างมีคุณภาพตามความถนัดของตนเอง ทั้งนี้ โครงสร้างมี 4 กลุ่ม กลุ่มดูแลเรื่องนโยบาย หน่วยงานทำหน้าที่กำกับดูแล หน่วยงานทำหน้าที่สนับสนุน และหน่วยงานทำหน้าที่ปฎิบัติ ซึ่งขณะนี้หน่วยงานนโยบาย อย่างสำนักงานคณะกรรมการนโยบายการศึกษาแห่งชาติ และหน่วยงานปฎิบัติ คือโรงเรียน มีความชัดเจนมากกว่า ร้อยละ 90 ส่วนหน่วยงานอื่นๆ กำลังเร่งดำเนินการให้มีความชัดเจนมากขึ้น

ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวจาก ไทยโพสต์ วันที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2561

โพสต์เมื่อ 22 ส.ค. 2561 อ่าน 13650 | 0 ความเห็น