แจงก.ค.ศ.ไม่ได้ให้ครูทำ 13 แฟ้มผลงาน



#showpic
เลขาธิการ ก.ค.ศ.แจงไม่ได้ให้ครูทำ 13 แฟ้มผลงานขอเลื่อนเงินเดือน ผู้บังคับบัญชาต้องประเมินตามสิ่งที่ครูปฏิบัติงานปกติ มีหลักฐานร่องรอยอยู่แล้ว คาดครูกังวลใจ-เข้าใจคลาดเคลื่อน เพราะเพิ่งเริ่มใช้กฎก.ค.ศ.ฉบับใหม่
 
วันนี้ (4 มี.ค.) ดร.อุษณีย์ ธโนศวรรย์ เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) กล่าวถึงกรณีที่มีการส่งต่อข้อมูลในกลุ่มไลน์ข้าราชการครู ว่า ก.ค.ศ.ได้กำหนดแบบประเมินความดีความชอบปี 2562 เป็น 3 ด้าน 13 แฟ้ม ซึ่งเป็นการสร้างภาระ และความยุ่งยากให้แก่ครูผู้รับการประเมิน นั้น ตนขอชี้แจงว่าเรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริงเท่าที่ตรวจสอบพบว่าน่าจะเป็นความกังวลใจของครูและทำให้เกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน ทั้งนี้ ที่ผ่านมาสำนักงาน ก.ค.ศ.ได้มีการส่งหนังสือ ว 20/2561 หลักเกณฑ์และวิธีการประเมินผลการปฏิบัติงานของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา แจ้งไปยังต้นสังกัดของครู โดยแจ้งหลักเกณฑ์ตามมติก.ค.ศ. ที่ให้มีการปรับปรุงวิธีการประเมินผลการปฏิบัติงานเพื่อเลื่อนขั้นเงินเดือน ตามกฎ ก.ค.ศ.ฉบับใหม่ จากการเลื่อนเงินเดือนเป็นขั้น เปลี่ยนเป็นเลื่อนเงินเดือนเป็นเปอร์เซ็นต์ เช่นเดียวกับข้าราชการพลเรือน และต้องมีการประเมินให้สอดคล้องกับมาตรฐานตำแหน่งและระดับคุณภาพ

“ก.ค.ศ.มีการกำหนดมาตรฐานตำแหน่งของครูอยู่แล้วว่าต้องทำอะไรบ้าง และการประเมินต้องประเมินตามมาตรฐานตำแหน่ง เพียงแต่ ก.ค.ศ. นำมากำหนดเป็นหัวข้อ หรือ 13 ตัวชี้วัด เพื่อให้ประเมินตามมาตรฐานตำแหน่งของครู และสอดคล้องกับระดับคุณภาพ 5 ระดับ ไม่ได้บอกว่าครูจะต้องไปทำ 13 แฟ้มผลงาน ครูไม่ต้องทำอะไรเพิ่มเติม เพราะเป็นสิ่งที่ครูปฏิบัติงานปกติ มีหลักฐาน ร่องรอยอยู่แล้ว เช่น เอกสารหลักสูตรสถานศึกษา รายวิชาที่สอน เทคนิคการสอนและแผนการสอน เป็นต้น เพื่อให้ผู้บังคับบัญชาประเมิน ซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นเอกสารทั้งหมด เพราะผู้บังคับบัญชาก็ต้องรู้อยู่แล้วว่าได้มอบหมายงานให้ใครทำอะไร และใครปฏิบัติงานอย่างไร ซึ่งการประเมินผลการปฏิบัติงานให้ดำเนินการประเมินปีละ 2 ครั้งตามปีงบประมาณ ครั้งที่ 1 ประเมินระหว่างวันที่ 1 ต.ค.-31 มี.ค.ของปีถัดไป และครั้งที่ 2 ประเมินผลการปฏิบัติงานระหว่างวันที่ 1 เม.ย.- 30 ก.ย.ของปีเดียวกัน และที่มีข่าวออกมาในช่วงนี้ อาจเนื่องมาจากครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรก ที่มีการเลื่อนเงินเดือนแบบใหม่ โดยให้ผู้บังคับบัญชาประเมินผลการปฏิบัติงาน ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2561-31 มี.ค.2562และเมื่อพิจารณาแล้วไปเลื่อนเงื่อนเดือนในวันที่ 1 เม.ย.2562 ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการส่งเอกสาร หลักฐาน หรือร่องรอยที่จะให้ผู้บังคับบัญชาประเมิน จึงเกิดความกังวลใจขึ้น” ดร.อุษณีย์ กล่าว  

ดร.บุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวว่า สพฐ. ได้แจ้งไปยัง ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา(สพท. ) ผอ.โรงเรียน ข้าราชการครูและผู้เกี่ยวข้องทราบว่า ให้ยกเลิกการจัดทำแฟ้มแบบประเมินความดีความชอบปี 2562 จำนวน 13 แฟ้ม ตามตัวชี้วัดของ ก.ค.ศ. อย่างไรก็ตาม ก.ค.ศ.ไม่ได้บอกว่าให้ทำ 13 แฟ้ม แต่ครูเข้าใจว่าต้องจะทำผลงานให้ได้ครบตาม 13 ตัวชี้วัด ที่ก.ค.ศ.กำหนด จึงเป็นที่มาของการจัดทำแฟ้ม 13 แฟ้ม และเป็นการสร้างภาระให้แก่ครู ซึ่งเมื่อเร็วๆนี้ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ ได้สั่งการให้ ก.ค.ศ.มีการปรับการประเมินใหม่ เช่น ให้ครูเขียนรายงานการประเมินตนเอง แค่ 2 หน้ากระดาษก็พอ เป็นต้น ซึ่งเรื่องนี้สำนักงาน ก.ค.ศ. จะต้องไปปรับวิธีการประเมิน และแจ้งให้ สพฐ. เพื่อเร่งแจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบต่อไป.

 

 ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวจาก เดลินิวส์ วันจันทร์ที่ 4 มีนาคม 2562 

โพสต์เมื่อ 5 มี.ค. 2562 อ่าน 12206 | 0 ความเห็น

·····

เรื่องอื่นๆ


สพฐ.ประกาศผลสอบบรรจุ ตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค (2) พ.ศ.2567 [อ่าน 454]
ครม.ต่ออายุโครงการศูนย์การเรียนสำหรับเด็กในโรงพยาบาล [อ่าน 298]
ประกาศคณะกรรมการอาหารนมเพื่อเด็กและเยาวชน เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการดำเนินงานโครงการอาหารเสริม (นม) ประจำโรงเรียน ประจำปีการศึกษา 2567 [อ่าน 844]
กมว.อนุมัติตั๋วครูชั่วคราว 8 สาขาขาดแคลนที่ไม่ได้จบสายครูโดยตรง [อ่าน 12115]
ว 12/2567 วิธีการบริหารอัตรากำลังข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในสถานศึกษา ผ่านระบบการบริหารอัตรากำลังข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (SCS) สังกัด สพฐ. [อ่าน 754]

·····

จัดทำเว็บไซต์โดย นายอดิศร ก้อนคำ (ครูโจ้)