ศธ.งัดแผนปฏิรูปประเทศด้านการศึกษา7เรื่องหลัก ผสมกับแนวทางที่ทำอยู่



#showpic

เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2563 นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมสภาการศึกษา เมื่อเร็วๆ นี้ ว่า ที่ประชุมได้มีการพิจารณาแผนการปฏิรูปประเทศด้านการศึกษา ที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ให้ความเห็นชอบไว้ก่อนหน้านี้ โดยที่ประชุมได้นำประเด็นหลักทั้ง 7 เรื่อง ในแผนปฏิรูปดังกล่าวมาวางเพื่อเป็นหลักในการทำงาน

ประกอบด้วย

1.การปฏิรูประบบการศึกษาและการเรียนรู้โดยรวมของประเทศ โดยพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การศึกษาแห่งชาติฉบับใหม่และกฎหมายรอง

2.การปฏิรูปการพัฒนาเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน

3.การปฏิรูปเพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา

4.การปฏิรูปกลไกและระบบการผลิต คัดกรอง การพัฒนาผู้ประกอบวิชาชีพครูและอาจารย์

5.การปฏิรูปการจัดการเรียนการสอนเพื่อตอบสนองการเปลี่ยนแปลงในศตวรรษ ที่ 21

6.การปรับโครงสร้างของหน่วยงานในระบบการศึกษา เพื่อบรรลุเป้าหมายในการปรับปรุงการจัดการเรียนการสอน และยกระดับคุณภาพของการจัดการศึกษา

7.การปฏิรูปการศึกษาและการเรียนรู้โดยการพลิกโฉมด้วยระบบดิจิทัล

ทั้งนี้ ที่ผ่านมากระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้ขับเคลื่อนการดำเนินงานตามแผนปฏิรูปดังกล่าวอยู่แล้ว เพียงแต่ในการประชุมครั้งนี้ ได้มีการขอความร่วมมือจากกรรมการสภาการศึกษา ให้ตั้งคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนงานทั้ง 7 ด้าน ตามความถนัดของแต่ละบุคคล และระดมความคิดจากประชาชน นักวิชาการ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในด้านต่างๆ ซึ่งเมื่อดำเนินการในลักษณะนี้แล้ว ศธ.ก็จะจัดสรรงบประมาณ เพื่อให้จัดเวทีแสดงความคิดเห็นอย่างกว้างขวาง

"การระดมความคิดเพิ่มเติมตรงนี้จะนำมาผสมผสานกับแนวทางการดำเนินงานของกระทรวงศึกษาฯที่ทำอยู่ให้มีความเห็นที่หลากหลายมากขึ้น โดยคำนึงถึงประโยชน์ของเด็กและเยาวชนเป็นหลัก ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวเป็นการวางเป้าหมายในการปฏิรูป และหลายเรื่อง ศธ.ดำเนินการอยู่แล้ว เพียงแต่เราต้องการให้ผู้ที่มีความรู้ความสามารถ ผู้ทรงคุณวุฒิในแต่ละภาคส่วน รวมถึงเจ้าที่ของรัฐ ประชาชน ได้เปิดวงแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมจากแนวทางเดิมๆ ที่ ศธ.เคยกำหนดไว้" รมว.ศธ.กล่าว

นอกจากนี้ ในที่ประชุมยังได้มีการพิจารณาเรื่องการแก้กฏกระทรวง เพื่อรองรับเรื่องหลักสูตรเตรียมอาชีวศึกษา เนื่องจาก ศธ.หวังเน้นว่าอาชีวศึกษาจะเป็นกำลังหลักในการขับเคลื่อนประเทศ และและขณะนี้ ศธ.กำลังจะเพิ่มสัดส่วนผู้เรียนสายอาชีวะในสัดส่วน 50 : 50 กับสายสามัญ โดยสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) พยายามผลักดันให้เด็กและเยาวชนสนใจมาเรียนสายอาชีพมากขึ้น ขณะนี้ทุกภาคส่วน และเขตพื้นที่ฯก็เข้าใจนโยบายนี้แล้ว เหลือเพียงการนำไปปฏิบัติ ซึ่งตนคาดหวังว่าจะเกิดผลภายในเดือนพฤษภาคมนี้

อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้อาจจะเป็นเรื่องยาก เพราะผู้ปกครองยังมีความไม่เข้าใจ หรือผูกพันธ์กับการเรียนสายสามัญ แต่ตนเชื่อว่าในช่วงนี้หากสอศ.แสดงให้เห็นถึงแนวทางและผลดีของการเรียนสายอาชีพ อาจจะทำให้ผู้ปกครองเห็นถึงความสำคัญของการเรียนอาชีวะและประโยชน์ที่ผู้เข้าเรียนจะได้เข้าสู่การทำงานเพื่อเป็นกำลังสำคัญของครอบครัว

ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวและอ่านเพิ่มเติมได้จาก แนวหน้า วันที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2563

 

 

โพสต์เมื่อ 27 ม.ค. 2563 อ่าน 6541 | 0 ความเห็น

·····

เรื่องอื่นๆ


สพฐ.ประกาศผลสอบบรรจุ ตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค (2) พ.ศ.2567 [อ่าน 154]
ครม.ต่ออายุโครงการศูนย์การเรียนสำหรับเด็กในโรงพยาบาล [อ่าน 276]
ประกาศคณะกรรมการอาหารนมเพื่อเด็กและเยาวชน เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการดำเนินงานโครงการอาหารเสริม (นม) ประจำโรงเรียน ประจำปีการศึกษา 2567 [อ่าน 801]
กมว.อนุมัติตั๋วครูชั่วคราว 8 สาขาขาดแคลนที่ไม่ได้จบสายครูโดยตรง [อ่าน 8884]
ว 12/2567 วิธีการบริหารอัตรากำลังข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในสถานศึกษา ผ่านระบบการบริหารอัตรากำลังข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (SCS) สังกัด สพฐ. [อ่าน 710]

·····

จัดทำเว็บไซต์โดย นายอดิศร ก้อนคำ (ครูโจ้)