"ตรีนุช" เดินหน้า 4 นโยบายเร่งด่วนศธ.



รมว.ศึกษาธิการ ป้ายแดง เข้าศธ.ทำงานวันแรก เดินหน้า 4 นโยบายเร่งด่วน มั่นใจทำงานกับรมช.ศธ.ทั้งสองคนไร้ปัญหา รับ ศธ.เป็นกระทรวงใหญ่เป็นความท้าทายให้พิสูจน์การทำงาน

เมื่อวันที่ 29 มี.ค. น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ เดินทางเข้ากระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ซึ่งเป็นการเข้าทำงานในตำแหน่งรมว.ศธ. วันแรก โดยน.ส.ตรีนุช กล่าวว่า ตนมีวาระเร่งด่วน 4 เรื่องหลัก ได้แก่

1.การผลักดันโรงเรียนคุณภาพของชุมชนและการพัฒนาเด็กปฐมวัย ซึ่งเป็นการสานต่อนโยบายเดิมของศธ.ที่ต้องการขับเคลื่อนให้แต่ละชุมชนได้มีโรงเรียนที่มีคุณภาพอย่างน้อย 1 โรงเรียนขึ้นไป ซึ่งจะช่วยลดความเหลื่อมล้ำของโอกาสในการศึกษา

2.ความปลอดภัยของสถานศึกษา โรงเรียนทุกแห่งในประเทศไทยถือเป็น พื้นที่ปลอดภัย จากการบูลลี่และการทารุณกรรมเด็ก

3.ความรู้เรื่องดิจิทัลและทักษะที่จําเป็นในศตวรรษที่ 21 โดยจะประสานความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เพื่อพัฒนาแพลตฟอร์มการเรียนรู้ด้วยดิจิทัลแห่งชาติ และระบบฐานข้อมูลการศึกษา หรือบิ๊กดาต้า

4.การขับเคลื่อนภาพลักษณ์ที่ดีของการอาชีวศึกษา โดยจะมุ่งเน้นการประชาสัมพันธ์สถาบันอาชีวศึกษาที่มีมาตรฐานชั้นนําในระดับประเทศให้เป็นที่รับรู้ในวงกว้าง

รมว.ศธ. กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ตนมีนโยบายการทำงานในรูปแบบของ TRUS คือความไว้วางใจที่จะทำให้ครูและบุคลากรทางการศึกษา ผู้ปกครอง ผู้เรียน และประชาชน กลับมาให้ความไว้วางใจการทํางานของศธ.อีกครั้งด้วยการสร้างความรับผิดชอบ มีความโปร่งใสในการทำงาน และเกิดการทำงานเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน และยึดผู้เรียนเป็นเป้าหมายแห่งการพัฒนา ซึ่งผ่านความพร้อมด้วยการมีเทคโนโลยีทางการศึกษาที่ทันสมัย

“ยืนยันว่าจะมีการสานต่อแผนการศึกษาจังหวัดซึ่งเป็นนโยบายเดิมของนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ อดีต รมว.ศธ. เพราะเป็นนโยบายที่ดีและสร้างโรงเรียนให้มีคุณภาพอย่างเท่าเทียม ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ส่งกำลังใจและฝากให้มีการสานต่อโครงการของศธ.ที่ทำไว้เดิมให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม โดยนโยบายต่างๆ ดิฉันคงไม่สามารถกำหนดได้ว่าจะวางระยะเวลาว่าจะดำเนินการให้จับต้องได้ภายในกี่เดือน แต่จะทำงานด้านการศึกษาให้ดีที่สุด ซึ่งต้องขอประชุมร่วมกับผู้บริหาร ศธ. ก่อน ส่วนการทำงานร่วมกับ รมช.ศธ.ทั้งสองคนนั้นดิฉันไม่มีปัญหาหรือข้อกังวลอะไร และพร้อมร่วมทำงานกับข้าราชการทุกคน ซึ่งจะเปิดรับฟังทุกข้อเสนอแนะจากทุกฝ่าย” น.ส.ตรีนุช กล่าวและว่า สำหรับประเด็นที่สังคมมองว่าตนได้รับตำแหน่งในกระทรวงที่ใหญ่และเป็นรัฐมนตรีฝึกหัดนั้น ตนไม่หนักใจและมองว่า ศธ.เป็นกระทรวงที่มีความท้าทาย และมีปัญหาหลากหลาย ซึ่งเรื่องใดที่ต้องการให้แก้ไขอย่างเร่งด่วนคงทำไม่ได้ในทันที แต่จะมีวิธีบริหารจัดการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบแน่นอน

ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวและอ่านเพิ่มเติมได้จาก เดลินิวส์ วันจันทร์ที่ 29 มีนาคม 2564 

โพสต์เมื่อ 1 เม.ย. 2564 อ่าน 6156 | 0 ความเห็น

·····

เรื่องอื่นๆ


สพฐ.ประกาศผลสอบบรรจุ ตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค (2) พ.ศ.2567 [อ่าน 3366]
ครม.ต่ออายุโครงการศูนย์การเรียนสำหรับเด็กในโรงพยาบาล [อ่าน 403]
ประกาศคณะกรรมการอาหารนมเพื่อเด็กและเยาวชน เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการดำเนินงานโครงการอาหารเสริม (นม) ประจำโรงเรียน ประจำปีการศึกษา 2567 [อ่าน 999]
กมว.อนุมัติตั๋วครูชั่วคราว 8 สาขาขาดแคลนที่ไม่ได้จบสายครูโดยตรง [อ่าน 17922]
ว 12/2567 วิธีการบริหารอัตรากำลังข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในสถานศึกษา ผ่านระบบการบริหารอัตรากำลังข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (SCS) สังกัด สพฐ. [อ่าน 901]

·····

จัดทำเว็บไซต์โดย นายอดิศร ก้อนคำ (ครูโจ้)