ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมข่าวจากกระทรวงศึกษาธิการ  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

ข่าวสำนักงานรัฐมนตรี 192/2557


ข่าวจากกระทรวงศึกษาธิการ 2 ก.ย. 2557 เวลา 16:25 น. เปิดอ่าน : 7,927 ครั้ง
ข่าวสำนักงานรัฐมนตรี  192/2557

Advertisement

ผลการประชุมผู้บริหารองค์กรหลัก 27/2557 - ดร.สุทธศรี วงษ์สมาน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ แถลงข่าวผลการประชุมผู้บริหารองค์กรหลัก ครั้งที่ 27/2557 เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2557 โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้

● การจัดเตรียมข้อมูลด้านการศึกษา เสนอต่อรัฐมนตรีใหม่

ปลัด ศธ. กล่าวว่า ได้จัดเตรียมสรุปผลการดำเนินงานในภาพรวมของ ศธ. ตลอดช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ตามข้อสั่งการของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และหัวหน้าฝ่ายสังคมจิตวิทยา เพื่อเสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในวันเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการใน 2 ส่วน ดังนี้


1) ผลการดำเนินงานที่ผ่านมา

◦ การสร้างความสมานฉันท์ ปรองดอง เช่น จัดตั้งศูนย์ส่งเสริมประชาธิปไตยและการเลือกตั้งตำบล ปลุกจิตสำนึกสร้างความรัก ความสามัคคี สร้างความสุข ความรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ จัดงานชุมนุมยุวกาชาด และเยาวสตรีภาคใต้ เป็นต้น


◦ การปลูกฝังค่านิยมหลัก 12 ประการ เช่น แต่งตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนนโยบายการสร้างค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการสู่การปฏิบัติ จัดนำร่องสถานศึกษาค่านิยม 12 ประการในสถานศึกษา จัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการจัดการเรียนการสอนธรรมศึกษาในสถานศึกษา เป็นต้น


◦ การปรับหลักสูตรการเรียนการสอน เช่น แต่งตั้งคณะอนุกรรมการวิชาการและพัฒนาหลักสูตรของคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ปรับหลักสูตรและการเรียนการสอนวิชาประวัติศาสตร์ หน้าที่พลเมือง การลดเวลาเรียนให้เด็กอยู่กับครอบครัวมากขึ้น การแก้ไขปัญหาการกวดวิชา เป็นต้น


◦ อาชีวศึกษา เช่น ปรับภาพลักษณ์อาชีวศึกษา สุภาพชนคนอาชีวะ แก้ปัญหาการทะเลาะวิวาท เป็นต้น


◦ อุดมศึกษา เช่น มหาวิทยาลัยออกนอกระบบ ค่าตอบแทนอาจารย์และพนักงานมหาวิทยาลัย เป็นต้น


◦ การศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม เช่น แต่งตั้งคณะกรรมการการศึกษาทางไกล จัดสรรงบประมาณสำหรับโครงการขยายผลการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม เป็นต้น


◦ การจัดทำข้อเสนอและ Roadmap ปฏิรูปการศึกษาเพื่อพัฒนาคนอย่างยั่งยืน (พ.ศ.2558-2569) เช่น แต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการเพื่อการปฏิรูปการศึกษาเพื่อพัฒนาคนอย่างยั่งยืน และคณะทำงานฝ่ายเลขานุการจัดทำ Roadmap ปฏิรูปการศึกษาเพื่อพัฒนาคนอย่างยั่งยืน จัดประชุมกลุ่มและประชุมรับฟังความคิดเห็น เปิดช่องทางเพื่อรับฟังข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะ เปิดเวทีสาธารณะรับฟังความคิดเห็น เป็นต้น


◦ การแก้ไขปัญหาครูขาดแคลนและเปิดโอกาสให้คนเก่งคนดีมาเป็นครู เช่น จัดประชุมผู้ทรงคุณวุฒิ การออกใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ เป็นต้น


◦ การศึกษาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เช่น จัดประชุมเพื่อขับเคลื่อนและติดตามการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นประจำทุกเดือน จัดหลักสูตรการเรียนรู้ประชาธิปไตยในสถานศึกษา พัฒนาหลักสูตรประวัติศาสตร์ท้องถิ่นและพหุวัฒนธรรม


◦ ICT เพื่อการศึกษา เช่น โครงการส่งเสริมการเรียนรู้ในชุมชน (Community) ผ่านเครือข่ายเทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นต้น


◦ กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) และกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาที่ผูกกับรายได้ในอนาคต (กรอ.) เช่น คสช.เห็นชอบให้เพิ่มวงเงินกู้ยืม กยศ. และการขยายเวลาดำเนินโครงการ กรอ.

2) ประเด็นเร่งด่วน 9 ประเด็นที่จะดำเนินการในปี 2558

◦ การปรับหลักสูตรการเรียนการสอน


◦ ปรับภาพลักษณ์อาชีวศึกษา


◦ ส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาในระดับอุดมศึกษา


◦ ปรับโครงสร้างของกระทรวงศึกษาธิการ และระบบการบริหารจัดการศึกษาใหม่


◦ ให้คนดี คนเก่งมาเป็นครู


◦ การได้มาซึ่งผู้แทนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา


◦ การส่งเสริมการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม เพื่อกระจายโอกาสในการเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพ


◦ การปรับระบบเงินอุดหนุนรายหัว


◦ แผนแม่บทการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) เพื่อการศึกษา


ทั้งนี้ ได้มอบให้สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (สนย.สป.) จัดเตรียมข้อมูลที่จะใช้ในการนำเสนอ และให้สำนักงานรัฐมนตรี (สร.) จัดเตรียมห้องทำงานสำหรับรัฐมนตรีทั้ง 3 ท่านให้เรียบร้อย พร้อมทั้งเร่งประสานเรื่องวันเวลาที่รัฐมนตรีจะเดินทางเข้า ศธ.อย่างเป็นทางการ และประสานเชิญผู้บริหาร ศธ.เข้าร่วมงานวันเวลาดังกล่าวด้วย

ปลัด ศธ.กล่าวถึง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการคนใหม่ (พลเรือเอก ณรงค์ พิพัฒนาศัย) ว่า เป็นผู้ที่มีวิสัยทัศน์และแนวคิดด้านการศึกษาที่ชัดเจน มองการณ์ไกล และให้ความสนใจกับครูและคุณภาพการศึกษาของเด็กไทย ส่วนรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการทั้งสองท่านนั้น นายกฤษณพงศ์ กีรติกร เป็นผู้อยู่ในวงการการศึกษามาก่อน ทำให้มีความเข้าใจงานด้านการศึกษาเป็นอย่างดี ส่วนพลโท สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ เป็นรองหัวหน้าฝ่ายสังคมจิตวิทยา ซึ่งได้ให้ความสำคัญกับการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม โรงเรียนขนาดเล็ก และการใช้เทคโนโลยีเพื่อการศึกษา จึงเชื่อว่าทั้ง 3 ท่าน จะสามารถบริหารงานด้านการศึกษาให้มีความก้าวหน้าต่อไปได้

● การดำเนินการตามข้อสั่งการของที่ประชุม คสช. เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2557

ที่ประชุมรับทราบการดำเนินการตามข้อสั่งการของที่ประชุม คสช. เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2557 ใน 2 ประเด็นคือ

◦ ให้ฝ่ายสังคมจิตวิทยา โดยกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงสาธารณสุข ร่วมกันพิจารณาหาแนวทางการส่งเสริมพัฒนาการของเยาวชนไทยให้มีความเหมาะสมในแต่ละช่วงวัย ทั้งด้านร่างกาย ด้านสติปัญญา ด้านอารมณ์ และด้านสังคม โดยเฉพาะการส่งเสริมด้านโภชนาการให้เยาวชนบริโภคอาหารที่มีคุณค่าและเป็นประโยชน์ต่อการเจริญเติบโตและลดความเสี่ยงจากการเป็นโรคอ้วน


◦ ให้ฝ่ายสังคมจิตวิทยา โดยกระทรวงศึกษาธิการ พิจารณาปรับโครงสร้างทางการศึกษา วิธีการจัดการศึกษาให้มีมาตรฐานและให้เด็กไทยสามารถแข่งขันกับนานาประเทศได้ รวมทั้งพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพ เน้นการศึกษาในห้องเรียน ปรับหลักสูตรให้ครอบคลุมวิชาพื้นฐาน เช่น ประวัติศาสตร์ชาติไทย หน้าที่พลเมือง สิทธิและหน้าที่ เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนไทยมีความภาคภูมิใจในความเป็นชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ไทย ทั้งนี้ ให้ปรับปรุงเนื้อหาของหนังสือชุด “พระมหากษัตริย์ไทย 9 รัชกาล” จาก 9 เล่มให้เหลือเพียงเล่มเดียว เพื่อให้มีเนื้อหาที่กระชับและน่าสนใจ สำหรับใช้เป็นหนังสือพื้นฐานในการศึกษาของเยาวชนด้วย

ที่ประชุมได้มอบให้สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) รายงานผลการดำเนินการพัฒนาเยาวชนไทยให้มีความเหมาะสมในแต่ละช่วงวัย เพราะ สกศ.มีแผนการพัฒนาคนแต่ละช่วงวัยและแผนยุทธศาสตร์ชาติด้านเด็กปฐมวัย ซึ่งระบุเรื่องเหล่านี้ไว้แล้ว

นอกจากนี้ ขอให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) รายงานเกี่ยวกับผลการดำเนินงานโครงการอาหารกลางวันมาด้วย ว่าได้ดำเนินการส่งเสริมภาวะโภชนาการที่สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดภาวะทุพโภชนาการอย่างไร และในส่วนของการปรับปรุงหลักสูตรวิชาประวัติศาสตร์ ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินงานของ สพฐ. นั้น ขอให้นำข้อสั่งการเรื่องการปรับปรุงเนื้อหาของหนังสือชุด “พระมหากษัตริย์ไทย 9 รัชกาล” ไปดำเนินการต่อไปด้วย

ทั้งนี้ ได้ขอให้ สร. เป็นผู้ประสานรวบรวมรายงานความก้าวหน้าจากทุกหน่วยงาน ส่งไปยังหัวหน้าฝ่ายสังคมจิตวิทยา เพื่อนำเสนอต่อหัวหน้า คสช.ต่อไป

● การบูรณาการเทคโนโลยีเพื่อการศึกษารูปแบบใหม่

สกศ.ได้รายงานให้ที่ประชุมรับทราบ เกี่ยวกับข้อเสนอเชิงนโยบายของที่ประชุมอนุกรรมการสภาการศึกษาด้านการสื่อสารและใช้เทคโนโลยีพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้ ครั้งที่ 1/2557 เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2557 เรื่องการใช้เทคโนโลยีห้องเรียนอัจฉริยะ Smart Classroom เพื่อจัดการเรียนรูปแบบใหม่ ดังนี้

ปัจจัยความสำเร็จของโครงการ Smart Classroom

◦ การกำหนดวัตถุประสงค์ของโครงการ Smart Classroom อย่างชัดเจน


◦ เร่งดำเนินการพัฒนาครูให้มีทักษะด้านเทคโนโลยีและการใช้เครื่องมือ


◦ เนื้อหาสาระวิชา (Content) ศธ.พัฒนาเนื้อหาสาระเอง และนำสื่อการเรียนการสอนที่มีอยู่ในท้องตลาดทั้งในและต่างประเทศมาใช้งาน รวมทั้งนำเนื้อหาสาระที่ถูกลิขสิทธิ์บรรจุลงในฐานข้อมูลของคอมพิวเตอร์แม่ข่ายด้านเนื้อหา (Content Server) เพื่อให้บริการในรูปแบบ Cloud และดำเนินการลิขสิทธิ์สื่อในรูปแบบของ Country License


◦ สำรวจความต้องการและความแตกต่างด้านศักยภาพของโรงเรียนให้ชัดเจน ก่อนที่จะมีการกำหนดคุณลักษณะอุปกรณ์ (Hardware Specification)


◦ การใช้เทคโนโลยีเพื่อพัฒนาการเรียนการสอน ควรเป็นไปในรูปแบบของการบูรณาการเทคโนโลยีเพื่อการศึกษารูปแบบใหม่ เช่น การใช้ TV Digital, Social Media ร่วมกับการดำเนินงานของ Smart Classroom เนื่องจากโรงเรียนมีศักยภาพที่แตกต่างกัน


◦ ควรมีการศึกษาวิจัยรองรับการดำเนินงานโครงการ Smart Classroom โดยในระยะสั้นอาจศึกษาผลการประเมินโครงการ Smart Classroom ที่มีอยู่แล้วทั้งในและต่างประเทศ

แนวทางการดำเนินงาน ได้กำหนดจัดประชุมระดมความคิดเห็นผู้เชี่ยวชาญและผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อให้ได้กรอบความคิดในการบูรณาการเทคโนโลยีเพื่อการศึกษารูปแบบใหม่ รวมทั้งนำคณะอนุกรรมการสภาการศึกษาด้านการสื่อสารและใช้เทคโนโลยีพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้ เยี่ยมชมโรงเรียนที่มีเป็น Best Practice ด้าน Smart Classroom เพื่อศึกษาสภาพจริงของการดำเนินงานในปัจจุบัน

● สอศ. ตั้งกรรมการสอบกรณีนักศึกษาเสียชีวิตระหว่างการรับน้อง

สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ได้รายงานให้ที่ประชุมรับทราบ กรณีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนเพื่อหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการเสียชีวิตของนักศึกษาชั้น ปวช. ปีที่ 1 วิทยาลัยเทคนิคปทุมธานี ในระหว่างการรับน้อง ที่อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2557 ซึ่งคาดว่าจะทราบผลสรุปในเร็วๆ นี้

อย่างไรก็ตาม ในเรื่องของการรับน้อง เป็นข้อห่วงใยของหัวหน้า คสช. ที่ต้องการให้ ศธ.ดูแลเรื่องการรับน้องและไม่ให้เกิดเหตุที่ไม่พึงประสงค์ ที่ผ่านมา ศธ.ได้มีการประชุมในเรื่องนี้หลายครั้ง ได้มีการออกมาตรการเพื่อป้องกัน และหน่วยงานที่มีสถานศึกษา ไม่ว่าจะเป็นสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) และ สอศ. ก็ได้จัดทำแนวปฏิบัติพร้อมทั้งแจ้งไปยังสถานศึกษาในสังกัดมาโดยตลอด ซึ่งในส่วนของ สกอ.ได้รายงานว่าได้ออกแนวปฏิบัติและแจ้งไปยังมหาวิทยาลัยต่างๆ ตั้งแต่ก่อนเปิดเทอมแล้วถึง 2 ครั้ง และส่วนของ สอศ. และ สช. ก็ได้ร่วมดำเนินการในเรื่องนี้มาอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม ได้ย้ำและกำชับในที่ประชุมอีกครั้งว่า ขอให้ทุกหน่วยงานที่มีสถานศึกษาในสังกัด ดูแล เข้มงวดและตรวจตราในเรื่องนี้อย่างจริงจัง โดยเฉพาะการติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการออกไปรับน้องกันเองข้างนอก เพราะแม้ว่าเด็กจะออกไปกันเอง หากเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นผู้อำนวยการสถานศึกษาก็ต้องรับผิดชอบ ฉะนั้น จะต้องมีหน่วยที่จะคอยเสาะหาข้อมูล ติดตามความเคลื่อนไหวของนักเรียนนักศึกษาได้อย่างรวดเร็ว เพื่อจะได้ป้องกันป้องปรามเหตุการณ์ต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงที


● การแก้ปัญหารับจ้างทำการบ้าน เอกสารงานวิจัยต่างๆ

นายอนันต์ ระงับทุกข์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ ได้รายงานต่อที่ประชุม เกี่ยวกับการแก้ปัญหารับจ้างทำการบ้านผ่านเว็บไซต์ว่า จากการค้นหาคำที่เกี่ยวข้องกับการรับทำการบ้าน พบว่ามี Facebook Twitter Instagram Line Blog และเว็บไซต์เกี่ยวข้องกับการรับจ้างทำการบ้าน เอกสารงานวิจัย วิทยานิพนธ์ จำนวนถึง 1.5 ล้านรายการ ซึ่งมีรายละเอียดในส่วนต่างๆ ดังนี้

วิธีการซื้อหรือรับจ้าง เช่น ลูกค้าส่งต้นฉบับและแจ้งรายละเอียดงาน เช่น ตัวอักษร (Font) ข้อจำกัดต่างๆ พร้อมหมายเลขโทรศัพท์ ให้ผู้รับจ้างผ่านทาง e-Mail Facebook Line หรือ Twitter, รอการยืนยันจากผู้รับจ้าง พร้อมแจ้งราคาและวิธีการชำระเงิน หลังจากลูกค้าชำระเงิน ผู้รับจ้างจะทำงานทันที หรือเมื่องานเสร็จเรียบร้อย ผู้รับจ้างก็จะจัดส่งงานให้แก่ลูกค้า

อัตราค่าบริการ เขียนการบ้าน/รายงาน หน้าละ 15 บาท, เขียนการบ้านพร้อมหาคำตอบ หน้าละ 30 บาท, พิมพ์งานหน้าละ 15 บาท, Powerpoint พร้อมหาข้อมูลหน้าละ 10 บาท, ทำรายงานรูปเล่มพร้อมหาข้อมูล จะขึ้นอยู่กับปริมาณตามที่ตกลงกัน

ความผิดตามกฎหมาย

1) กรณีผู้กระทำผิดเป็นบุคคลทั่วไป

◦ ความผิดฐานฉ้อโกง ตามมาตรา 341 แห่งประมวลกฎหมายอาญา หากผู้กระทำลงข้อความทางเว็บไซต์ดังกล่าวโดยมีเจตนาทุจริต หลอกลวงนักเรียน ด้วยการลงข้อความที่ไม่เป็นความจริงและทำให้ได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากนักเรียนหรือผู้ปกครอง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ


◦ ความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 ตามมาตรา 14 (1) หากผู้กระทำความผิดนำข้อมูลดังกล่าวเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ด้วยข้อมูลปลอมหรือเป็นเท็จ ไม่ว่าจะทั้งหมดหรือบางส่วน และผลลัพธ์นั้น น่าจะเกิดความเสียหายแก่นักเรียน ผู้ปกครอง สถานศึกษา หรือส่วนราชการ และมาตรา 14 (3) กรณีการนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร เนื่องจากความผิดดังกล่าวอาจมีผลกระทบกับความมั่นคงทางด้านการศึกษาของประเทศได้

2) กรณีผู้กระทำผิดเป็นข้าราชการครู นอกจากจะมีความผิดทางอาญาเหมือนบุคคลทั่วไปแล้ว ยังมีความผิดทางวินัยและจรรยาบรรณ ดังนี้

◦ ความผิดตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2547 มาตรา 90 วรรคหนึ่ง “ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาต้องไม่กระทำการหรือยอมให้ผู้อื่นกระทำการหาประโยชน์อันอาจทำให้เสื่อมเสียความเที่ยงธรรม หรือเสื่อมเสียเกียรติศักดิ์ในตำแหน่งหน้าที่ราชการของตน” และมาตรา 94 วรรคหนึ่ง “ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาต้องรักษาชื่อเสียงของตนและรักษาเกียรติศักดิ์ของตำแหน่งหน้าที่ราชการของตนมิให้เสื่อมเสีย โดยไม่กระทำการใดๆ อันได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่ว”


◦ ความผิดข้อบังคับคุรุสภาว่าด้วยแบบแผนพฤติกรรมตามจรรยาบรรณของวิชาชีพ พ.ศ.2550 ตามข้อ 7 (ข) (7) กรณีเรียกร้องผลตอบแทนจากศิษย์ หรือผู้รับบริการในงานตามหน้าที่ที่ต้องให้บริการ และข้อ 11 (ข) (8) กรณีใช้ความรู้ทางวิชาการ วิชาชีพ หรืออาศัยองค์กรวิชาชีพแสวงหาผลประโยชน์เพื่อตนหรือผู้อื่นโดยมิชอบ หากผู้กระทำเป็นข้าราชการประเภทอื่นก็อาจเป็นความผิดวินัยตามที่กฎหมายเกี่ยวกับข้าราชการประเภทนั้นๆ กำหนดไว้

ข้อเสนอเพื่อดำเนินการ

◦ แจ้งกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) เพื่อพิจารณาดำเนินการปิดเว็บไซต์ และดำเนินการทางกฎหมาย


◦ แจ้งหน่วยงานในสังกัดที่มีหน้าที่จัดการศึกษา เพื่อให้กำชับผู้บริหาร โดยเฉพาะครู อาจารย์ ที่ทำหน้าที่สอนและทราบถึงความรู้ความสามารถของเด็กแต่ละคนเป็นอย่างดี ได้พิจารณาอย่างพิถีพิถันในการตรวจการบ้านหรือรายงานของนักเรียนนักศึกษาอย่างจริงจังและรอบคอบ ว่าเป็นงานที่เกิดจากความรู้ความสามารถของผู้เรียนจริงหรือไม่ ทั้งนี้ อาจให้ใช้การเขียนด้วยลายมือแทนการพิมพ์ หากครูอาจารย์เอาจริงเอาจังกับเรื่องนี้ รวมทั้งมีปริมาณงาน/การบ้านที่พอเหมาะ และบูรณาการระหว่างครู อาจารย์ด้วยกัน ปัญหาเหล่านี้ย่อมลดน้อยลง


◦ ศธ.ควรเร่งรัดการประชาสัมพันธ์และขอความร่วมมือให้หน่วยงานในสังกัดและผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย รวมทั้งประชาชนและผู้ปกครอง ได้ทราบถึงผลเสียของการกระทำดังกล่าว อันส่งผลกระทบต่อนักเรียนนักศึกษา ครอบครัว สังคม และประเทศชาติในอนาคต ตลอดจนสร้างความตระหนักและสำคัญของการทำการบ้านว่า การได้เรียนรู้ด้วยตนเอง ก่อให้เกิดผลดีอย่างไร

ปลัด ศธ. กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ได้ประสานไปที่กระทรวง ICT เพื่อขอให้ปิดเว็บไซต์เหล่านี้ เพราะอาจจะกระทบกับความมั่นคงของประเทศตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 กล่าวคือ การที่เด็กไม่ได้ทำการบ้านเอง เด็กก็จะไม่เกิดการเรียนรู้ ทำให้ทรัพยากรมนุษย์เกิดความอ่อนแอ ซึ่งก็จะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศชาติในที่สุด นอกจากนี้ ศธ.จะจัดทำแนวปฏิบัติในภาพรวมและแจ้งไปยังหน่วยงานต่างๆ อีกครั้ง

 

 

ที่มา ข่าวสำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงศึกษาธิการ


ข่าวสำนักงานรัฐมนตรี 192/2557ข่าวสำนักงานรัฐมนตรี1922557

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

:: เรื่องปักหมุด ::

ผลการประชุมกระทรวงศึกษาธิการ ครั้งที่ 5/2556

ผลการประชุมกระทรวงศึกษาธิการ ครั้งที่ 5/2556

เปิดอ่าน 13,968 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
มติครม.ที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงศึกษาธิการ
มติครม.ที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงศึกษาธิการ
เปิดอ่าน 12,600 ☕ คลิกอ่านเลย

ศธ.เปิดโครงการ "ครูคืนถิ่น"
ศธ.เปิดโครงการ "ครูคืนถิ่น"
เปิดอ่าน 11,542 ☕ คลิกอ่านเลย

ประชุมสัมมนาโครงการสืบสานตามแนวพระราชดำริในสถานศึกษา
ประชุมสัมมนาโครงการสืบสานตามแนวพระราชดำริในสถานศึกษา
เปิดอ่าน 6,184 ☕ คลิกอ่านเลย

ผลการประชุมสัมมนาปฏิรูปการเรียนรู้ทั้งระบบ
ผลการประชุมสัมมนาปฏิรูปการเรียนรู้ทั้งระบบ
เปิดอ่าน 6,782 ☕ คลิกอ่านเลย

ผลการประชุม ก.ค.ศ.ครั้งที่ 12/2555 (28 พ.ย.2555)
ผลการประชุม ก.ค.ศ.ครั้งที่ 12/2555 (28 พ.ย.2555)
เปิดอ่าน 13,635 ☕ คลิกอ่านเลย

การประชุมเพื่อยกระดับผลการทดสอบ PISA
การประชุมเพื่อยกระดับผลการทดสอบ PISA
เปิดอ่าน 8,031 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

ทำไม "บาแก็ตต์" หรือ "ขนมปังฝรั่งเศส" จึงทำเป็นแท่งยาว?
ทำไม "บาแก็ตต์" หรือ "ขนมปังฝรั่งเศส" จึงทำเป็นแท่งยาว?
เปิดอ่าน 41,321 ครั้ง

ภัยร้ายความเค็มสะสมจากพริกน้ำปลา
ภัยร้ายความเค็มสะสมจากพริกน้ำปลา
เปิดอ่าน 17,276 ครั้ง

กว่าจะเป็น เวียงจันทน์เกมส์
กว่าจะเป็น เวียงจันทน์เกมส์
เปิดอ่าน 12,524 ครั้ง

8 ตัวอย่างภาษาอังกฤษแบบผิดๆ ที่ฮิตติดปากคนไทย
8 ตัวอย่างภาษาอังกฤษแบบผิดๆ ที่ฮิตติดปากคนไทย
เปิดอ่าน 29,385 ครั้ง

ดาวน์โหลดคลิป "Youtube" โดยไม่ต้องใช้โปรแกรม
ดาวน์โหลดคลิป "Youtube" โดยไม่ต้องใช้โปรแกรม
เปิดอ่าน 17,167 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย


เว็บไซต์ที่น่าสนใจ

  • IELTS Test
  • SAT Test
  • สอบ IELTS
  • สอบ TOEIC
  • สอบ SAT
  • เว็บไซต์พันธมิตร

  • IELTS
  • TOEIC Online
  • chulatutor
  • เพลงเด็กอนุบาล
  •  
    หมวดหมู่เนื้อหา
    เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


    · Technology
    · บทความเทคโนโลยีการศึกษา
    · e-Learning
    · Graphics & Multimedia
    · OpenSource & Freeware
    · ซอฟต์แวร์แนะนำ
    · การถ่ายภาพ
    · Hot Issue
    · Research Library
    · Questions in ETC
    · แวดวงนักเทคโนฯ

    · ความรู้ทั่วไป
    · คณิตศาสตร์
    · วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
    · ภาษาต่างประเทศ
    · ภาษาไทย
    · สุขศึกษาและพลศึกษา
    · สังคมศึกษา ศาสนาฯ
    · ศิลปศึกษาและดนตรี
    · การงานอาชีพ

    · ข่าวการศึกษา
    · ข่าวตามกระแสสังคม
    · งาน/บริการสังคม
    · คลิปวิดีโอยอดนิยม
    · เกมส์
    · เกมส์ฝึกสมอง

    · ทฤษฎีทางการศึกษา
    · บทความการศึกษา
    · การวิจัยทางการศึกษา
    · คุณครูควรรู้ไว้
    · เตรียมประเมินวิทยฐานะ
    · ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
    · เครื่องมือสำหรับครู

    ครูบ้านนอกดอทคอม

    เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

          kroobannok.com

    © 2000-2020 Kroobannok.com  
    All rights reserved.


    Design by : kroobannok.com


    ครูบ้านนอกดอทคอม
    การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

    วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
     

    ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

    เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

    Email : kornkham@hotmail.com
    Tel : 096-7158383

    สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
    คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ