ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมบทความการศึกษา  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

อภิปัญหาหนี้ครู...ปมที่แก้ไม่ตก 11 ปีลุกลาม 1.2 ล้านล้าน


บทความการศึกษา 27 พ.ย. 2558 เวลา 12:02 น. เปิดอ่าน : 10,810 ครั้ง
อภิปัญหาหนี้ครู...ปมที่แก้ไม่ตก 11 ปีลุกลาม 1.2 ล้านล้าน

Advertisement

โดย...ธเนศน์ นุ่นมัน

หลังจากกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ออกมาระบุว่า ครูและบุคลากรทางการศึกษามีหนี้ทั้งในระบบประมาณ 1.2 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นหนี้ที่กู้กับสหกรณ์ออมทรัพย์ครูและแหล่งกู้อื่น 7 แสนกว่าล้านบาท และหนี้ที่กู้กับธนาคารออมสินผ่านทางโครงการสวัสดิการเงินกู้กองทุนการฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.) ของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) จำนวน 4.7 แสนล้านบาท จำนวนกว่า 6.5 หมื่นคน

ยังไม่นับถึงหนี้นอกระบบซึ่งเป็นตัวเลขที่ยังไม่มีหน่วยงานไหนรวบรวมจากครูประมาณ 4.5 แสนคน ได้อย่างเป็นรูปธรรม ยังไม่มีการจำแนกว่ามีครูผู้สอนจริงๆ เป็นหนี้จำนวนเท่าไร และเป็นบุคลากรทางการศึกษาเท่าไร แต่มีการคาดการณ์กันว่า ทั้งหมดรวมกันจะเป็นตัวเลขที่สูงกว่าครึ่งหนึ่งของงบประมาณแผ่นดินทั้งหมด หรือสูงกว่า 2 ล้านล้านบาท

ทุกครั้งที่มีการพูดถึงปัญหาหนี้ครู สิ่งที่จะได้ยินตามมาก็คือ แนวทางในการแก้ไข แต่แนวคิดมากมายก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหานี้อย่างยั่งยืนได้ เช่น ความพยายามจัดตั้ง “ธนาคารครู” ซึ่งเคยมีการมอบหมายให้ สกสค.รวบรวมข้อมูลเข้าหารือกับกระทรวงการคลัง แต่ก็ยังตั้งไม่ได้ เพราะไม่สามารถแก้โจทย์หลักเรื่องแหล่งเงินที่จะนำมาจัดตั้งให้เพียงพอที่จะให้สหกรณ์ออมทรัพย์ครูกู้ได้ในอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าแหล่งเงินอื่นๆ

ส่วนแนวคิดอื่น เช่น นำหนี้สินครูทั้งหมดไปรวมไว้ที่สหกรณ์ออมทรัพย์ครูแห่งเดียว กำหนดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ต่ำกว่าธนาคาร และให้รัฐบาลช่วยอุ้ม โดยงดดอกเบี้ยเงินกู้ครูอย่างน้อย 3-5 ปี โดยมีรัฐบาลค้ำประกัน แต่ก็ไม่สามารถกำหนดเพดานดอกเบี้ยตามเป้าที่ตั้งไว้ได้ เพราะอำนาจการบริหารภายในกลุ่มสหกรณ์ออมทรัพย์ครูทั้ง 76 จังหวัดที่มีสถานะเป็นนิติบุคคลตาม พ.ร.บ.สหกรณ์ พ.ศ. 2542 จึงไม่สามารถบังคับได้ ยังไม่รวมถึงปัญหาภายในของ สกสค.เองที่ยังแก้ไม่ตก ธนาคารครูจึงถูกพับเก็บไป

ยังมีแนวคิดอื่นๆ ที่ถูกเสนอเพื่อแก้หนี้ครู เช่น ลดอัตราดอกเบี้ยจาก 6-7% ต่อปี ให้เหลือ 1-2% ต่อปี หรือ 4-5% ต่อปี หรือกรณีเรียกร้องเงินเบี้ยประกันคืนจากสัญญาเงินกู้ระหว่างธนาคารออมสินกับสมาชิกโครงการสวัสดิการเงินกู้ ช.พ.ค. ปรับโครงสร้างหนี้โดยเฉพาะครูเกษียณ หรืองดเก็บดอกเบี้ยครูที่มีอายุ 70 ปีขึ้นไป ให้ฟื้นกองทุนเงินสนับสนุนพิเศษและส่งเสริมความมั่นคง เพื่อใช้หนี้แทนครูที่มีความจำเป็นและชำระหนี้ไม่ได้ ขอคืนเงินเดือนครูครึ่งหนึ่งในโครงการสวัสดิการเงินกู้ ช.พ.ค.

นอกจากนี้ ยังมีแนวคิดอื่นๆ เช่น ให้พักหนี้ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย เป็นเวลา 10 ปี โดยไม่ต้องหักผ่านเงินเดือน และให้รัฐบาลออกตราสารหนี้รับซื้อไว้

ปรีชา เมืองพรหม นายกสมาคมพัฒนาครูไทย ระบุว่า ปัญหาหนี้ครูเกิดจากวินัยทางการเงินของครูที่เริ่มเสียมาตั้งแต่การเปิดโอกาสให้ครูหลายๆ คนที่กู้เงินในโครงการสวัสดิการเงินกู้ ช.พ.ค. โครงการนี้กู้ได้โดยไม่มีการตรวจข้อมูลเครดิตเหมือนสหกรณ์ ทำให้ไม่สามารถทราบได้ว่าครูเป็นหนี้เสียหรือไม่สามารถเห็นภาระหนี้ก่อนกู้ แม้แต่เงินเดือนคงเหลือของผู้กู้เหลือเพียง 15% ของเงินเดือน ก็สามารถกู้ได้ ซึ่งโดยทั่วไปต้อง 30% ขึ้นไป หรือมากกว่านั้น ใช้คนค้ำกู้ได้ถึง 3 ล้านบาท

นอกจากนี้ บางกระแสยังระบุด้วยว่า มีการเรียกเก็บค่าหัวคิวจากการเดินเรื่องให้ครูกู้ได้ง่าย มีการประชาสัมพันธ์ให้ครูกู้หรือกระทั่งสร้างความเชื่อผิดๆ ให้ครูว่า โครงการนี้รับประกันโดย ศธ. แม้ไม่ชำระหนี้เงินกู้ ธนาคารออมสินก็สามารถหักเงินจากกองทุนเงินสนับสนุนพิเศษและส่งเสริมความมั่นคง ได้ทำให้ครูส่วนหนึ่งไม่ใช้หนี้ และมักจะแนะนำครูรุ่นน้องให้กู้ในโครงการนี้ เพราะไม่ต้องจ่ายหนี้ จนกลายเป็นการให้คำแนะนำแบบผิดๆ ที่ถูกบอกต่อๆ กันมา

“ต้องตั้งคำถามว่า ทำไมหน่วยงานดูแลสวัสดิการครูไม่ทำเรื่องอื่นๆ ที่ส่งผลต่อสวัสดิการครูจริงๆ แต่อยากให้ครูเป็นหนี้ ไม่เคยสนใจว่าครูแต่ละคนมีหนี้สินเท่าไร เพราะไม่เคยมีการสำรวจมาก่อน ด้วยเวลาเพียง 11 ปี ปัญหาหนี้สินก็ลุกลามจนแก้ปัญหาได้ลำบาก จึงเสนอให้ ศธ.ตั้งกองทุนพัฒนาครูไทย ให้ครูออมเงินเดือนละ 1,500 บาท เนื่องจากมีข้าราชการครูที่ประสบปัญหาหนี้สินเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้หากครู 1 แสนคน สนใจในแนวคิดดังกล่าว จะมีเงินออมเดือนละ 150 ล้านบาท นำเข้ากองทุนไปพัฒนาอาชีพครู คาดว่าภายใน 5 ปี จะลดหนี้ได้ถึง 50%” นายกสมาคมพัฒนาครูไทย กล่าว

วรากรณ์ สามโกเศศ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ระบุว่า แนวคิดในการแก้ปัญหาหนี้ครูด้วยกองทุนหรือการออมเงิน เป็นเรื่องที่ดีสำหรับการแก้ปัญหาในระยะยาว แต่ปัญหาหนี้ครูนั้นมีความหลากหลาย ทั้งกลุ่มที่มีปัญหาหนี้สาหัสเรื้อรัง การออมต่อเดือนที่แม้จะเป็นเงินไม่มากก็เป็นเรื่องที่อาจทำได้ยาก ควรมีการแก้ปัญหาระยะสั้น คือ ขอความร่วมมือจากครูที่มีปัญหาจริงๆ มาให้คำปรึกษาด้านการเงิน

วรากรณ์ แนะนำว่า ควรมีหน่วยงานคำปรึกษา นำหนี้จากแหล่งต่างๆ ที่ครูคนนั้นๆ มีอยู่มาเปรียบเทียบดูว่า ส่วนไหนที่มีดอกเบี้ยสูงก็ใช้วิธีการรีไฟแนนซ์ หรือการที่คุณกู้เงินก้อนใหม่เพื่อไปใช้คืนเงินกู้ก้อนเก่า แล้วเปลี่ยนแบบแผนการดำเนินชีวิต และหน่วยงานด้านสวัสดิการครูต้องช่วยด้านสวัสดิการจริง เลิกยั่วยุให้ครูกู้เงิน ขณะที่ครูต้องให้ความร่วมมือ ให้ข้อมูลข้อเท็จจริงเรื่องหนี้สินที่เป็นประโยชน์ในการแก้ปัญหามากกว่าที่เป็นอยู่

 

ที่มา หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ วันที่ 27 พฤศจิกายน 2558

 


อภิปัญหาหนี้ครู...ปมที่แก้ไม่ตก 11 ปีลุกลาม 1.2 ล้านล้านอภิปัญหาหนี้ครู...ปมที่แก้ไม่ตก11ปีลุกลาม1.2ล้านล้าน

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

คุณครูหายไปไหนครับ?

คุณครูหายไปไหนครับ?


เปิดอ่าน 20,161 ครั้ง

:: เรื่องปักหมุด ::

ปฏิรูปการศึกษาไม่มีวันสำเร็จ ถ้าไม่รื้อรากความงมงาย

ปฏิรูปการศึกษาไม่มีวันสำเร็จ ถ้าไม่รื้อรากความงมงาย

เปิดอ่าน 11,822 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
การศึกษาในกะลา
การศึกษาในกะลา
เปิดอ่าน 11,161 ☕ คลิกอ่านเลย

อ่านออกเขียนได้กับรักการอ่านเป็นคนละเรื่องเดียวกัน
อ่านออกเขียนได้กับรักการอ่านเป็นคนละเรื่องเดียวกัน
เปิดอ่าน 10,125 ☕ คลิกอ่านเลย

8 โรงเรียนนวัตกรรมโลกตามหลัก Education 4.0 : สรุปให้รู้ตามทันโลกการศึกษา EP.3
8 โรงเรียนนวัตกรรมโลกตามหลัก Education 4.0 : สรุปให้รู้ตามทันโลกการศึกษา EP.3
เปิดอ่าน 3,897 ☕ คลิกอ่านเลย

ขับเคลื่อนการศึกษาไทยอย่างไร จึงถูกใจประชาชน โดย ดร.ดำรงค์ ชลสุข
ขับเคลื่อนการศึกษาไทยอย่างไร จึงถูกใจประชาชน โดย ดร.ดำรงค์ ชลสุข
เปิดอ่าน 9,815 ☕ คลิกอ่านเลย

ความคิดสร้างสรรค์ (จบ)
ความคิดสร้างสรรค์ (จบ)
เปิดอ่าน 7,245 ☕ คลิกอ่านเลย

เทคนิคการจัดการชั้นเรียนด้วยโมเดล 3 C"s
เทคนิคการจัดการชั้นเรียนด้วยโมเดล 3 C"s
เปิดอ่าน 12,742 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

30 ทริคออมเงิน ประหยัดรายจ่าย ปลดหนี้ก็ง่ายเว่อร์
30 ทริคออมเงิน ประหยัดรายจ่าย ปลดหนี้ก็ง่ายเว่อร์
เปิดอ่าน 14,635 ครั้ง

การย้ายพนักงานงานราชการ
การย้ายพนักงานงานราชการ
เปิดอ่าน 18,335 ครั้ง

การทำระบบน้ำสำหรับการเกษตร และวิธีการติดตั้งที่ดี
การทำระบบน้ำสำหรับการเกษตร และวิธีการติดตั้งที่ดี
เปิดอ่าน 37,175 ครั้ง

วิเคราะห์พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ หมวดที่ 9 เทคโนโลยีเพื่อการศึกษา มาตรา 63-69
วิเคราะห์พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ หมวดที่ 9 เทคโนโลยีเพื่อการศึกษา มาตรา 63-69
เปิดอ่าน 64,143 ครั้ง

5 ทางเลือกเรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเองแบบ New-Normal
5 ทางเลือกเรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเองแบบ New-Normal
เปิดอ่าน 15,766 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ