ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมข่าวการศึกษา  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

แกะรอยปฏิรูปการศึกษาส่งท้าย "ปีแพะ" 2558


ข่าวการศึกษา 31 ธ.ค. 2558 เวลา 15:45 น. เปิดอ่าน : 5,635 ครั้ง
แกะรอยปฏิรูปการศึกษาส่งท้าย "ปีแพะ" 2558

Advertisement

เวลาล่วงเลยมา 1 ปี 4 เดือน ตั้งแต่รัฐบาล คสช. ภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เข้ามาบริหารประเทศและเดินหน้าประกาศ “ปฏิรูปประเทศไทย” ทั้ง 11 ด้าน เพื่อ “คืนความสุขให้คนในชาติ” ตามสโลแกน

การปฏิรูปด้านการศึกษาเพื่อการพัฒนาคนอย่างยั่งยืน เป็น 1 ใน 11 ด้านที่ถูกกำหนดว่าต้องปฏิรูปอย่างเร่งด่วน เพราะเชื่อว่าการวางรากฐานทางการศึกษาที่ดีและมีคุณภาพย่อมส่งผลต่อการพัฒนาในทุกๆด้าน

“ทีมการศึกษา” ขอส่งท้ายปีแพะด้วยการแกะรอยการปฏิรูปการศึกษาของ กระทรวงศึกษาธิการ ที่ดูเสมือนจะเห็น “แสงไฟอยู่ปลายอุโมงค์” เมื่อทุกฝ่ายขานรับและตระหนักถึงความสำคัญ ส่งผลให้กระทรวงศึกษาธิการโดย คณะกรรมการอำนวยการปฏิรูปการศึกษา ไม่ต้องทำงานอย่างโดดเดี่ยว เพราะมีหน่วยงานหลายฝ่ายเข้ามาร่วมขับเคลื่อน ทั้ง สภาปฏิรูปแห่งชาติ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ รวมไปถึง ภาคประชาสังคม

และที่สำคัญซึ่งเป็นการยืนยันว่ารัฐบาลเอาจริงต่อการปฏิรูปการศึกษา คือการแต่งตั้ง คณะกรรมการนโยบายและพัฒนาการศึกษา หรือ “ซุปเปอร์บอร์ดด้านการศึกษา” ขึ้นเป็นครั้งแรก เมื่อเดือน มี.ค.2558 มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ทั้งยังส่งเทียบเชิญ ดร.สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย หรือทีดีอาร์ไอ และ ดร.วิรไท สันติประภพ ที่ปรึกษาทีดีอาร์ไอมาเป็นกุนซือ

ทำหน้าที่เสนอแนะนโยบายและแนวทางการขับเคลื่อนการพัฒนา การยกระดับคุณภาพการศึกษา และการเรียนรู้ตามนโยบายรัฐบาล พร้อมเสนอแนะมาตรการและแนวทางการตัดสินใจเชิงรุก เพื่อให้การขับเคลื่อนงานตามนโยบายรัฐบาลและแผนพัฒนาเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม

ประเด็นหลักที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือ “บิ๊กตู่” ผู้นำรัฐนาวาเน้นย้ำในการประชุมซุปเปอร์บอร์ดคือ ต้องทำให้การศึกษาไทยเป็นการศึกษาที่มีความสุข ทั้งนักเรียน ครู และผู้ปกครอง ต้องลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ส่งผลต่อการมีคุณภาพชีวิตที่ดี จบแล้วมีงานทำ แข่งขันในระดับนานาประเทศได้ โดยยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง

กว่า 7 เดือนนับตั้งแต่เปิดศักราชปีแพะ 2558 กระทรวงศึกษาธิการซึ่งกุมบังเหียนโดย พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย หรือ “บิ๊กเข้” ได้วางโรดแม็ปปฏิรูปการศึกษาเพื่อพัฒนาคนอย่างยั่งยืนไว้ 3 ระยะคือ ระยะเร่งด่วนที่จะลุยในปี 2558 ระยะ กลางที่จะขับเคลื่อนในปี 2559-2564 และระยะยาวตั้งแต่ปี 2565-2569

แต่เราขอหยิบยกประเด็นสำคัญที่จะเดินหน้าปฏิรูปเร่งด่วน 6 ด้านคือ การปฏิรูปการเรียนรู้ การปฏิรูประบบทรัพยากรและการเงิน การปฏิรูประบบข้อมูลและสารสนเทศทางการศึกษา การปฏิรูประบบการกระจายอำนาจ การปฏิรูปกฎหมายการศึกษา และการปฏิรูประบบการผลิตและพัฒนาครู โดยตั้งคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนทั้ง 6 คณะ

พร้อมชงร่างวิสัยทัศน์และกรอบทิศทางการพัฒนาการศึกษา ระยะเวลา 5 ปี ต่อซุปเปอร์บอร์ด โดยตั้งเป้า ภายในปี 2563 ผลการจัดอันดับความสามารถด้านการศึกษาของไทยต้องดีขึ้นอย่างน้อย 5 อันดับ นักเรียนไทยต้องสามารถสื่อสารได้อย่างน้อย 2 ภาษา

Advertisement


ส่วนเรื่อง การปรับโครงสร้างกระทรวงศึกษาธิการ ในช่วงนั้นแม้จะมีผู้เสนอเข้ามาเป็นระลอก แต่ “บิ๊กเข้” เจ้ากระทรวงคุณครูในสมัยนั้นได้ให้ชะลอไว้ก่อน โดยขอให้พุ่งเป้าไปที่ การปรับการเรียนเปลี่ยนการสอนที่เห็นผลในห้องเรียน แม้ภายหลังจะ “เสียงอ่อน” ยอมรับว่ากระทรวงคุณครูมีความอุ้ยอ้าย แต่ก็ขอให้ผู้บริหารองค์กรหลักกลับไปหารือให้ตกผลึกเสียก่อน

แต่แล้วเมื่อวันที่ 19 ส.ค.2558 ก็มีการ เปลี่ยนม้ากลางศึก เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ปรับ พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย พ้นตำแหน่ง รมว.ศึกษาธิการ ไปเป็นรองนายกรัฐมนตรี แล้วส่ง พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ เข้ามากุมบังเหียนแทน

นโยบายแรกที่ประกาศออกมาคือ ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ โดยให้เลิกเรียนบ่ายสองโมง จากนั้นให้โรงเรียนจัดกิจกรรมพัฒนาความรู้ตามความสนใจของเด็ก ตรงเป๊ะตามนโยบายนายกฯที่อยากเห็นเด็ก ครูและผู้ปกครองมีความสุข ดีเดย์ตั้งแต่วันเปิดภาคเรียนที่ 2 ปีการ ศึกษา 2558 นำร่องในโรงเรียน 3,837 โรงทั่วประเทศ พร้อมตั้งเป้าขยายเป็น 14,500 โรง ในปี 2559 และเต็ม 100% ในปี 2560



ตามมาด้วย การปฏิรูปการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ ที่ดึงผู้เชี่ยวชาญจาก มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ มาวางระบบการจัดการเรียนการสอน พร้อมจัด “เทรนเนอร์ชั้นนำ” จากต่างประเทศ 50 ชีวิต มาอบรมครูเก่งที่เฟ้นมาจากทั่วประเทศร่วม 500 คน ในเดือน มี.ค.2559 ก่อนสั่งเดินเครื่องเต็มลูกสูบ เปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2559

ลงลึกไปถึง การปฏิรูประบบการประเมินและการประกันคุณภาพการศึกษา ที่ปรับเปลี่ยนบนหลักการว่าตัวชี้วัดในการประเมินสถานศึกษาแต่ละแห่งไม่จำเป็นต้องเหมือนกัน และไม่จำเป็นต้องเยอะ แต่ควรบ่งบอกได้ว่าการประเมินนั้นเป็นไปในทิศทางที่ถูกต้อง

นั่นนำมาซึ่งสิ่งที่หลายภาคส่วนเริ่มจะเห็น “แสงสว่างที่ปลายอุโมงค์” และมองว่ากระทรวงศึกษาธิการกำลังเดินมาถูกทางแล้ว!!!

แต่จู่ๆช่วงเดือน ต.ค.ก็เกิดอาการ “สะดุด” ขาตัวเอง เมื่อมีการเปิดประเด็น การปรับโครงสร้างการบริหารใหม่ของกระทรวงศึกษาธิการ เป็นรูปแบบที่เรียกว่า single command มีปลัดกระทรวงเป็นผู้สั่งการเพียงคนเดียว โดยยุบ 5 องค์กรหลักเปลี่ยนสถานะเป็นกรม ได้แก่ สำนักงานปลัดกระทรวง สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา กรมปฐมวัยและประถมศึกษา กรมมัธยมศึกษา กรมวิชาการและมาตรฐานการศึกษา กรมการศึกษาพิเศษ กรมอาชีวศึกษา และกรมการศึกษานอกโรงเรียน โดยมีสำนักงานศึกษาธิการภาค 1-13 และสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดเป็นส่วนเชื่อมโยงกับส่วนกลาง

“โยนหินถามทาง” จาก พล.อ.ดาว์พงษ์ หรือไม่??? คือสิ่งที่สังคมตั้งคำถาม พร้อมๆกับกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก โดยเฉพาะการเสนอใช้อำนาจตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวมาปรับโครงสร้างกระทรวง ซึ่งแม้จะมีทั้งฝ่ายที่สนับสนุนและคัดค้าน แต่เมื่อชั่งน้ำหนักแล้วเสียงสวดยับกลับมีมากกว่า



เพราะต้องยอมรับด้วยจำนนต่อ “หลักฐาน” ว่าการปฏิรูปการศึกษา 2 ทศวรรษที่ผ่านมา ตั้งแต่ทศวรรษแรกเมื่อปี 2540-2550 และทศวรรษที่ 2 ตั้งแต่ปี 2552-2561 ซึ่งแม้รอบหลังจะล่วงเลยมาได้เพียงปี 2557 ก็โดนรัฐบาลทหารเข้ายึดอำนาจ แต่การศึกษาไทยก็เหมือนยังไม่ได้ปฏิรูป เพราะผลผลิตจากการศึกษายังคง “เต็มไปด้วยปัญหา” และ “ด้อยคุณภาพ”

ทั้งผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของเด็กไทยที่ยังตกต่ำ เรียนเยอะแต่ไร้ความรู้ มาตรฐานของสถานศึกษาที่ไม่เท่าเทียมกัน ขาดคุณลักษณะที่พึงประสงค์ของผู้เรียน ทั้งการคิด วิเคราะห์ และแสวงหาความรู้ ขาดคุณธรรม จริยธรรม ปัญหาครูขาดแคลน ไร้เงาคนเก่ง คนดีมาเป็นครู การกระจายอำนาจยังไม่เป็นไปตามเป้าหมาย รวมทั้งขาดการมีส่วนร่วมในการบริหารและจัดการศึกษาจากทุกภาคส่วน ซึ่งดูแล้วเป็นปัญหาที่ย้อนกลับไปสู่ “วังวน” เดิมๆ

“ทีมการศึกษา” มองว่าสาเหตุที่กระทรวงศึกษาธิการถูกสังคมตราหน้าว่า “ปฏิรูปการศึกษาล้มเหลว” อย่างไม่เป็นท่า ประเด็นสำคัญประการหนึ่งมาจากการปฏิรูปการศึกษาที่ผ่านมาเรามัวแต่ให้ความสำคัญกับการปรับโครงสร้างที่เป็นแค่ “เปลือก” จนละเลยหลงลืม “แก่น” ซึ่งถือเป็นหัวใจหลัก นั่นคือ “การพัฒนาคุณภาพคน”

เราไม่ได้บอกว่าการปรับโครงสร้างเป็นเรื่องไม่ดี ไม่สมควรทำ เพราะโครงสร้างการบริหารงานที่ดีย่อมนำไปสู่ความสำเร็จ แต่เรามองว่าในห้วงเวลาอันสำคัญของการปฏิรูปประเทศเช่นนี้ ควรพุ่งเป้าไปที่เรื่องของคุณภาพเป็นสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการปฏิรูปหลักสูตร การปฏิรูปการเรียนการสอน การปฏิรูปครู และสารพัดโครงการที่คลอดออกมาเป็นของขวัญปีใหม่ ทั้งฟื้นคุรุทายาท คืนครูสู่ห้องเรียน เด็ก ป.1 อ่านออกเขียนได้เต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ และขยายทวิภาคี

เพราะนั่นเป็นการปฏิรูปที่จะตอบโจทย์เรื่องของ “คุณภาพ” การศึกษาของเด็กไทยอย่างแท้จริง

ส่วนเรื่องโครงสร้างที่ใช้อยู่ หากในอนาคตพบว่าไม่สามารถตอบสนองการปฏิรูปการศึกษาได้จริง ก็ย่อมขอยกเป็นโจทย์ข้อต่อไปที่จะเดินหน้าปรับเปลี่ยนได้อย่างเต็มปากเต็มคำ



และก่อนย่างก้าวเข้าสู่ปีวอก 2559 “ทีมการศึกษา” ขอฝากความหวังไว้กับรัฐบาลที่มีสิทธิ์ขาดอำนาจในมือว่า ขอให้การปฏิรูปการศึกษาเป็นเพียงแค่การสะดุด เพื่อที่จะเดินหน้าต่อไปอย่างมีความหวัง ไม่ใช่เดินเกมผิดจนประวัติศาสตร์ซ้ำรอย

อย่าทำให้เด็กไทยเสียโอกาส เพราะผู้ใหญ่มัวเดินหลงทาง และความหวังที่จะ “ปฏิรูปการศึกษาเพื่อพัฒนาประเทศ” ต้อง “ล่ม” ซ้ำซาก!!!

ทีมการศึกษา

 

ที่มา หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ วันที่ 30 ธันวาคม 2558 


แกะรอยปฏิรูปการศึกษาส่งท้าย "ปีแพะ" 2558แกะรอยปฏิรูปการศึกษาส่งท้ายปีแพะ2558

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

Advertisement


:: เรื่องปักหมุด ::

ว 8/2567 การกำหนดอัตราเงินเดือนสำหรับคุณวุฒิที่ ก.ค.ศ. รับรอง และการกำหนดอัตราเงินเดือนชดเชยและจำนวนเงินที่ได้ปรับตามคุณวุฒิที่ ก.ค.ศ. รับรอง

ว 8/2567 การกำหนดอัตราเงินเดือนสำหรับคุณวุฒิที่ ก.ค.ศ. รับรอง และการกำหนดอัตราเงินเดือนชดเชยและจำนวนเงินที่ได้ปรับตามคุณวุฒิที่ ก.ค.ศ. รับรอง

เปิดอ่าน 7,276 ☕ 1 เม.ย. 2567

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
มาตรการเตรียมความพร้อมการเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2567
มาตรการเตรียมความพร้อมการเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2567
เปิดอ่าน 882 ☕ 23 เม.ย. 2567

การย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู สังกัด สพฐ. (การย้ายกรณีปกติ) ประจำปี พ.ศ. 2567
การย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู สังกัด สพฐ. (การย้ายกรณีปกติ) ประจำปี พ.ศ. 2567
เปิดอ่าน 848 ☕ 23 เม.ย. 2567

กฏ ก.พ.ค. ว่าด้วยการร้องทุกข์และการพิจารณาวินิจฉัยเรื่องร้องทุกข์ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2567
กฏ ก.พ.ค. ว่าด้วยการร้องทุกข์และการพิจารณาวินิจฉัยเรื่องร้องทุกข์ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2567
เปิดอ่าน 185 ☕ 23 เม.ย. 2567

ครูและนักเรียน ใช้ห้องน้ำสะอาดร่วมกันได้ไม่แบ่งแยก เริ่มได้เลย
ครูและนักเรียน ใช้ห้องน้ำสะอาดร่วมกันได้ไม่แบ่งแยก เริ่มได้เลย
เปิดอ่าน 393 ☕ 22 เม.ย. 2567

ปีนี้ "สพฐ."ตรวจเข้มความโปร่งใส สอบรองผอ.ผอ.สถานศึกษา "ห้าม" กวดวิชา รับทำเอกสารทุกกรณี
ปีนี้ "สพฐ."ตรวจเข้มความโปร่งใส สอบรองผอ.ผอ.สถานศึกษา "ห้าม" กวดวิชา รับทำเอกสารทุกกรณี
เปิดอ่าน 342 ☕ 22 เม.ย. 2567

สพฐ.เปิดตัวโครงการ "สุขาดี มีความสุข" จัดงบ 1 หมื่นบาท ให้ รร.เล็กไม่เกิน 80 คน ปรับปรุงซ่อมแซมพร้อมใช้ก่อนเปิดเทอม
สพฐ.เปิดตัวโครงการ "สุขาดี มีความสุข" จัดงบ 1 หมื่นบาท ให้ รร.เล็กไม่เกิน 80 คน ปรับปรุงซ่อมแซมพร้อมใช้ก่อนเปิดเทอม
เปิดอ่าน 292 ☕ 22 เม.ย. 2567

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

สพป.พระนครศรีอยุธยา เขต 2 ทำคลิป แนะนำขั้นตอนการสมัครครูผู้ช่วย ชมกันเลย
สพป.พระนครศรีอยุธยา เขต 2 ทำคลิป แนะนำขั้นตอนการสมัครครูผู้ช่วย ชมกันเลย
เปิดอ่าน 9,921 ครั้ง

โปรแกรม SnagIt
โปรแกรม SnagIt
เปิดอ่าน 25,978 ครั้ง

แค่กินน้อย ๆ แต่ไม่ออกกำลัง แล้วน้ำหนักจะลดได้ไหมนะ?
แค่กินน้อย ๆ แต่ไม่ออกกำลัง แล้วน้ำหนักจะลดได้ไหมนะ?
เปิดอ่าน 17,972 ครั้ง

ชมคลิปยอดฮิต"เด็กพี่สาวร้องไห้โฮ ไม่อยากให้น้อง"โต"
ชมคลิปยอดฮิต"เด็กพี่สาวร้องไห้โฮ ไม่อยากให้น้อง"โต"
เปิดอ่าน 14,325 ครั้ง

จิตตานุปัสสนาที่ควรรู้
จิตตานุปัสสนาที่ควรรู้
เปิดอ่าน 9,078 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ