ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมความรู้ทั่วไป  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

ประกันสังคมสิทธิที่คนวัยทำงานควรรู้ ประโยชน์ที่ได้คุณภาพชีวิตที่ไม่ควรมองข้าม


ความรู้ทั่วไป 29 พ.ค. 2559 เวลา 19:03 น. เปิดอ่าน : 19,770 ครั้ง
ประกันสังคมสิทธิที่คนวัยทำงานควรรู้ ประโยชน์ที่ได้คุณภาพชีวิตที่ไม่ควรมองข้าม

Advertisement

การประกันสังคม คือ การสร้างหลักประกันในการดำรงชีวิตในกลุ่มของผู้ประกันตน โดยการจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคม เพื่อรับผิดชอบในการเฉลี่ยความเสี่ยง 7 กรณี เพื่อให้ได้รับการรักษาพยาบาลที่ดี และมีรายได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งหลายคนยังมีความรู้และความเข้าใจไม่เพียงพอ และเกิดความสงสัยว่าเงินที่จ่ายเข้ากองทุนประกันสังคมนั้นนำไปใช้ในเรื่องใด สิทธิประโยชน์ที่ได้มีอะไรบ้าง ถ้าหากไม่ได้ใช้สิทธิเงินที่จ่ายไปนั้นเราจะได้คืนหรือจะถูกนำไปใช้อย่างไร เราจึงได้รวบรวมข้อมูลเพื่อให้มนุษย์เงินเดือนได้ทราบกัน

 

 

พ.ต.ต.หญิง รมยง สุรกิจบรรหาร รองเลขาธิการและโฆษกสำนักงานประกันสังคม ได้กล่าวว่า "พ.ร.บ.ประกันสังคมมีมาตั้งแต่ปี 2533 โดยให้ 3 ฝ่าย ลูกจ้าง นายจ้าง และรัฐบาล ลงทุนร่วมกัน โดยลูกจ้างและนายจ้างจ่ายฝ่ายละ 5% ในขณะที่รัฐบาลจ่าย 2.75% รวมเป็น 12.75 % ซึ่งในปัจจุบันเงินทั้งหมดที่กองทุนประกันสังคมเก็บเข้ามาจาก 3 ส่วนทั้งใน มาตรา 33 มาตรา 39 มาตรา 40 รวมแล้วมีเงินอยู่ประมาณ 1.3 ล้านล้านบาท โดยได้แบ่งเงินเป็น 3 ส่วน คือ ส่วนที่ 1 เงินที่จัดเก็บเข้ามาเป็นกองทุน ส่วนที่ 2 เมื่อจัดเก็บเป็นกองทุนแล้วจะนำเงินมาใช้จ่ายเพื่อดูแลผู้ประกันตน และส่วนที่ 3 คือการลงทุน"

โดยในส่วนของการนำเงินมามาใช้จ่ายเพื่อดูแลผู้ประกันตนนั้น จะนำมาใช้ในเรื่องสิทธิประโยชน์ 7 กรณี โดยเงินทั้งหมด 12.75 % ใน 1.5 % จะนำมาใช้ใน 4 กรณีด้วยกัน คือ

 

1. เจ็บป่วย ที่นอกเหนือจากการทำงาน โดยผู้ประกันตนจะได้รับสิทธิในการรักษากรณีเจ็บป่วยทั่วไป ที่ไม่ไม่ใช่ 14 โรคยกเว้น ซึ่งผู้ประกันตนจะได้รับสิทธิรวมถึง อุบัติเหตุ ตรวจวินิจฉัยโรค ส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค ปลูกถ่ายอวัยวะ ค่ายา ค่าอุปกรณ์การแพทย์ต่างๆ จนกว่าจะสิ้นสุดการรักษา นอกจากนี้ กรณีทันตกรรมยังได้มีมติใหม่ของคณะกรรมการเพื่อให้เกิดความยืดหยุ่นในการจ่ายเงินมากขึ้น โดยให้ภายใน 1 ปี สามารถเบิกเงินได้ไม่เกิน 600 บาท ไม่จำกัดครั้ง จากเดิมที่ 1 ปี เบิกได้ 2 ครั้ง ครั้งละไปเกิน 300 บ. รวม 1 ปี 600 บาท

2. คลอดบุตร ผู้ประกันตนได้รับสิทธิ 13,000 บาทต่อการคลอดบุตรหนึ่งครั้ง ไม่จำกัดจำนวนครั้ง พร้อมเงินสงเคราะห์ลาหยุด 90 วัน

3. ทุพพลภาพ ผู้ประกันตนได้รับสิทธิค่ารักษาพยาบาล เงินทดแทนจากการขาดรายได้ 50% ของค่าจ้างเป็นรายเดือนตลอดชีวิต รวมถึงค่าอุปกรณ์ โดยจะจ่ายจนกว่าผู้ประกันตนจะเสียชีวิต ซึ่งในกรณีนี้ผู้จัดการศพมีสิทธิได้รับค่าทำศพ 40,000 บาท

4. เสียชีวิต จ่ายเป็นค่าทำศพ 4 หมื่น และเงินสงเคราะห์ โดยจะจ่ายให้แก่บุคคลซึ่งผู้ประกันตนทำหนังสือระบุให้เป็นผู้มีสิทธิได้รับเงินสงเคราะห์นั้น

ส่วนอีก 3 กรณีจะแบ่งเป็น กรณีสงเคราะบุตร/ชราภาพ 3 % และกรณีว่างงาน 0.50%

5. สงเคราะบุตร ผู้ประกันตนได้รับสิทธิเป็นเงินสงเคราะห์บุตรตั้งแต่แรกเกิดจนถึงอายุ 6 ปี คนละ 400 บาทต่อคนต่อเดือน รับสิทธิไม่เกิน 3 คน

 

6. ชราภาพ แต่เดิมมีการจ่ายเป็นเงินบำเหน็จ และได้มีการเปลี่ยนแปลงกฎหมายใหม่ที่มีผลบังคับใช้ปี 2557 เป็นการจ่ายบำนาญ ตั้งแต่อายุ 55 ปีขึ้นไป โดยเงินส่วนนี้ไม่เกี่ยวกับ กอช. (กองทุนการออมแห่งชาติ) โดยเงินที่โอนไปที่ กอช. เป็นของผู้ประกันตนตามมาตรา 40 ที่ไม่ได้อยู่ในมาตรา 33 (มาตรา 33 คือผู้ประกันตนที่อยู่ในระบบประกันสังคมหรือในสถานประกอบการ ที่จ่ายเงินสมทบโดยภาคบังคับที่กดหมายบังคับว่าต้องจ่าย)

7. ว่างงาน ที่ไม่ใช่กรณีกระทำผิดต่อนายจ้าง โดยแบ่งเป็น 2 กรณีคือ กรณีว่างงานจากการถูกเลิกจ้าง ได้เงินทดแทน 50% จากฐานเงินเดือน ปีละไม่เกิน 180 วัน และกรณีว่างงานจากการลาออก ได้เงินทดแทน 30% ปีละไม่เกิน 90 วัน โดยต้องไปขึ้นทะเบียนผู้ว่างงานที่สำนักงงานจัดหางานของรัฐภายใน 30 วัน และต้องรายงานต่อเจ้าหน้าที่สำนักจัดหางานไม่น้อยกว่าเดือนละ 1 ครั้ง

 

โฆษก รมยง ได้กล่าวต่อเกี่ยวกับเงินส่วนที่ 3 ส่วนของการลงทุนว่า "ส่วนที่นำไปลงทุนนั้นแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรก 78% ของเงินลงทุน จะนำไปลงทุนในตลาดที่มีความมั่นคงสูง เช่น พันบัตรรัฐบาล พันธบัตรรัฐวิสาหกิจ ส่วนที่ 2 ในอีก 22 % ของเงินลงทุน จะนำไปลงทุนในตลาดที่มีความเสี่ยง เช่น ตราสารหนี้อื่นๆ เงินฝากธนาคาร เป็นต้น โดยในการลงทุนสปส.จะมีระเบียบของคณะกรรมการการลงทุนว่าด้วยการจัดหาผลประโยชน์ของกองทุนประกันสังคม มีกรอบยุทธศาสตร์ที่เป็นตัวกำหนดว่าลงทุนอย่างไรให้อยู่ในกรอบ และมีคณะอนุกรรมการ 2 คณะ คือ อนุกรรมการด้านบริหารความเสี่ยง อนุกรรมการด้านการลงทุน ทั้ง 2 จะช่วยดูเรื่องความเสี่ยง ให้ความเห็นยินยอมเรื่องการลงทุน"

 

ถามถึงมาตราฐานสถานพยาบาลกับการให้บริการผู้ป่วยประกันสังคม โฆษกสปส.กล่าวว่า "ในปี 2559 มีสถานพยาบาลคู่สัญญากับสำนักงานประกันสังคมอยู่ 240 แห่ง รัฐบาล 158 แห่ง เอกชน 82 แห่ง ซึ่งสปส. มีมาตราการในการควบคุมดูแลการให้บริการของสถานพยาบาล 3 มาตราฐาน

มาตราฐานแรก เป็นมาตราฐานโครงสร้างของสถานพยาบาลที่มาเป็นคู่สัญญา โดยสถานพยาบาลนั้นจะต้องเป็นโรงพยาบาลทุติยภูมิ คือโรงพยาบาลที่มีมาตราฐานเตียงตั้งแต่ 100 เตียงขึ้นไป มีมาตราฐาน 11 มาตราฐานหลัก คือ มาตราฐานทั่วไป มาตราฐานฉุกเฉิน มาตราฐานการให้บริการผู้ป่วยนอก มาตราฐานเวชระเบียน มาตราฐานการให้บริการผู้ป่วยใน มาตราฐานการให้บริการผู้ป่วยหนัก ICU มาตราฐานศัลยกรรม มาตราฐานวิสัญญี มาตราฐานรังสีวิทยา มาตราฐานพยาธิ มาตราฐานชันสูตร มาตราฐานเภสัช และต้องมีมาตราในการส่งต่อ ในกรณีที่สถานพยาบาลมีศักยภาพในการรักษาบางโรคไม่เพียงพอ จะต้องส่งต่อผู้ประกันตนของตนเองไปยังอีกสถานพยาบาล และต้องตามไปจ่ายค่ารักษาจนกระทั่งสิ้นสุดการรักษา นอกจากนี้ สถานพยาบาลที่จะมาเซนสัญญาให้บริการผู้ประกันตน จะต้องมีบริการจากทางการแพทย์ 12 สาขาหลักขึ้นไป จะต้องมีแพทย์ประจำเต็มเวลา อยู่ 4 สาขาหลัก คือ อายุรกรรม ศัลยกรรม สูติ-นรีเวชกรรม ออร์โธปิดิกส์ และต้องเป็นสถานพยาบาลที่ผ่านการรับรองคุณภาพจากสถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล (องค์การมหาชน) หรือ ผ่าน HA อันดับ 2 ขึ้นไป

มาตราฐานที่ 2 มาตราฐานทางวิชาชีพ มาตราฐานการรักษาโรค โดยมีราชวิทยาลัยแพทย์เป็นตัวกำหนด

มาตราฐานที่ 3 การควบคุมระดับ การตรวจสอบ โดยสปส.จะมีคณะที่ปรึกษาทางการแพทย์และทางพยาบาลไปตรวจออดิทสถานพยาบาล โดยตรวจทั้งเรื่องเวชระเบียน ตรวจสถานพยาบาล และดูแลเรื่องการให้บริการให้เกิดความพึงพอใจสูงสุด ในส่วนของการร้องเรียน เมื่อมีผู้ประกันตนร้องเรียน สปส.จะมีที่ปรึกษาทางการแพทย์ลงไปตรวจลงสอบ โดยเมื่อมีผลสรุปออกมาหากผู้ประกันตนเกิดความไม่พึงพอใจ ผู้ประกันตนมีสิทธิส่งเรื่องมาที่อนุกรรมการเรื่องร้องเรียนได้ และเมื่อผลสรุปออกมาไม่เป็นที่พึงพอใจผู้ประกันตนมีสิทธิที่จะอุทรณ์ ซึ่งขั้นตอนสุดท้ายถือเป็นสิ้นสุด โดยบทลงโทษของสถานพยาบาลนั้นมีตั้งแต่การพากทัณฑ์ ไปจนถึงการยกเลิกสัญญา

นอกจากนี้ หากผู้ประกันตนเข้ารับการรักษาจากสถานพยาบาลนั้นๆ แล้วเกิดไม่พึงพอใจ ท่านมีสิทธิที่จะเลือกเปลี่ยนสถานพยาบาลได้ โดยมีหลักเกณฑ์ในการเปลี่ยนคือ 1. ผู้ประกันตนที่อยู่ในสถานประกอบการจังหวัดนั้น มีสิทธิเลือกสถานพยาบาลที่อยู่ในจังหวัดเดียวกันหรือจังหวัดรอยต่อ โดยสามารถแจ้งความจำนงได้จากแบบฟอร์มในเว็บไซต์ www.sso.go.th หรือสายด่วน 1506 ในระหว่างวันที่ 1 มกราคม - 31 มีนาคม ของทุกปี

ทั้งนี้ สปส.ไม่ได้มีเพียงการควบคุมดูแลและบทลงโทษเท่านั้น แต่ยังมีการการส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพสถานพยาบาลที่เรียกว่า "โครงการสถานพยาบาลในดวงใจ" เพื่อให้สถานพยาบาลดูแลผู้ประกันตนให้เกิดความพึงพอใจสูงสุด ซึ่งโครงการนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อปี 2549 ในปีนี้เข้าสู่ปีที่ 11 โดยจะมีการจัดประกวดปีละ 1 ครั้ง ให้รางวัลแก่สถานพยาบาลที่มีการพัฒนาคุณภาพอย่างต่อเนื่องและไม่มีเรื่องร้องเรียน สถานพยาบาลที่ชนะเลิศจะได้รับมอบโล่และเงินรางวัลตามขนาดของสถานพยาบาล

 

อย่างไรก็ตาม ยังมีผู้ประกันตนจำนวนไม่น้อยที่เกิดความสงสัยเกี่ยวกับเงินที่จ่ายสมทบเข้ากองทุน แต่เคยใช้สิทธิเลย เงินส่วนดังกล่าวจะได้รับคืนหรือไม่ หรือถูกนำไปใช้อย่างไร โฆษก รมยง ได้อธิบายว่า "ประกันสังคมคือการ เฉลี่ยทุกข์ เฉลี่ยสุข นั่นหมายถึง จะมีผู้ประกันตนบางท่านอาจต้องต้องใช้เงินมากกว่าคนอื่น เช่น นำไปรักษาโรคโรคเรื้อรัง ที่ต้องเสียเงินในการรักษาสูง เงินที่เอามาลงขันร่วมกันจะนำมาเฉลี่ยไปให้คนบางคน บางคนอาจได้ใช้มาก บางคนอาจได้ใช้น้อย เหล่านี้เพื่อต่อยอดชีวิตคนจำนวนหนึ่งให้กลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ สามารถทำงานหาเลี้ยงตัวเองได้ เป็นการเฉลี่ยสุขของเราเพื่อไปบรรเทาทุกข์ของเขา ให้ได้มีความสุขกลับคืนมา"

ท้ายสุดแล้ว เงินที่ทุกท่านจ่ายเข้าไปสมทบในกองทุนประกันสังคมนั้น จะไม่สูญเปล่า ถึงแม้จะได้ใช้สิทธิน้อย แต่ยังมีอีกหลายคนได้รับประโยชน์

 

ที่มา แนวหน้า วันเสาร์ ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2559, 14.35 น.


ประกันสังคมสิทธิที่คนวัยทำงานควรรู้ ประโยชน์ที่ได้คุณภาพชีวิตที่ไม่ควรมองข้ามประกันสังคมสิทธิที่คนวัยทำงานควรรู้ประโยชน์ที่ได้คุณภาพชีวิตที่ไม่ควรมองข้าม

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

จำปาดะ

จำปาดะ


เปิดอ่าน 21,855 ครั้ง
สรรพคุณของพืชผัก

สรรพคุณของพืชผัก


เปิดอ่าน 15,666 ครั้ง
เทคนิคการทำตลาดบน Social Media

เทคนิคการทำตลาดบน Social Media


เปิดอ่าน 8,381 ครั้ง

:: เรื่องปักหมุด ::

การฝังเข็ม ดีอย่างไร

การฝังเข็ม ดีอย่างไร

เปิดอ่าน 2,971 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
"กูเกิ้ล"ผุดนวัตกรรม แว่นเสมือนจริง-รถอัตโนมัติ!
"กูเกิ้ล"ผุดนวัตกรรม แว่นเสมือนจริง-รถอัตโนมัติ!
เปิดอ่าน 8,208 ☕ คลิกอ่านเลย

วิธีทําให้ผมยาวเร็วขึ้น
วิธีทําให้ผมยาวเร็วขึ้น
เปิดอ่าน 19,516 ☕ คลิกอ่านเลย

"กาบา (GABA)" สารอาหารในเมล็ดข้าว
"กาบา (GABA)" สารอาหารในเมล็ดข้าว
เปิดอ่าน 13,293 ☕ คลิกอ่านเลย

เหตุผลที่ควรเลือกใช้แฟลชไดร์ฟสำรองข้อมูลสำคัญ ๆ แทนการจัดเก็บบนคลาวด์
เหตุผลที่ควรเลือกใช้แฟลชไดร์ฟสำรองข้อมูลสำคัญ ๆ แทนการจัดเก็บบนคลาวด์
เปิดอ่าน 483 ☕ คลิกอ่านเลย

รู้หรือยัง? วันนี้ (1 ก.ค.58) ประเทศไทยเปลี่ยนเวลาให้ช้าลง 1 วินาที อย่างเป็นทางการแล้ว
รู้หรือยัง? วันนี้ (1 ก.ค.58) ประเทศไทยเปลี่ยนเวลาให้ช้าลง 1 วินาที อย่างเป็นทางการแล้ว
เปิดอ่าน 19,678 ☕ คลิกอ่านเลย

"พอล"หมึกยักษ์..นักทำนาย ต้นตระกูลกำเนิดยุคแคมเบรียน
"พอล"หมึกยักษ์..นักทำนาย ต้นตระกูลกำเนิดยุคแคมเบรียน
เปิดอ่าน 10,609 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

"สงสัยไม่ช๊อต" วลีเด็ดลุงใจดี วลีฮิตข้ามคืน "เเก่ ใจดี สปอร์ต กทม."
"สงสัยไม่ช๊อต" วลีเด็ดลุงใจดี วลีฮิตข้ามคืน "เเก่ ใจดี สปอร์ต กทม."
เปิดอ่าน 13,546 ครั้ง

ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 12 การเล่นที่ผิดกติกาและประพฤติผิด
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 12 การเล่นที่ผิดกติกาและประพฤติผิด
เปิดอ่าน 112,110 ครั้ง

ปีอธิกสุรทิน
ปีอธิกสุรทิน
เปิดอ่าน 40,310 ครั้ง

ดื่มนม ช่วยป้องกันโรคอ้วน อย่างนี้ก็มีด้วย
ดื่มนม ช่วยป้องกันโรคอ้วน อย่างนี้ก็มีด้วย
เปิดอ่าน 10,558 ครั้ง

รู้หรือไม่ ที่ฟินแลนด์ ยกระดับการศึกษา ต้องเริ่มที่พัฒนาครูผู้สอน
รู้หรือไม่ ที่ฟินแลนด์ ยกระดับการศึกษา ต้องเริ่มที่พัฒนาครูผู้สอน
เปิดอ่าน 19,741 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย


เว็บไซต์ที่น่าสนใจ

  • IELTS Test
  • SAT Test
  • สอบ IELTS
  • สอบ TOEIC
  • สอบ SAT
  • เว็บไซต์พันธมิตร

  • IELTS
  • TOEIC Online
  • chulatutor
  • เพลงเด็กอนุบาล
  •  
    หมวดหมู่เนื้อหา
    เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


    · Technology
    · บทความเทคโนโลยีการศึกษา
    · e-Learning
    · Graphics & Multimedia
    · OpenSource & Freeware
    · ซอฟต์แวร์แนะนำ
    · การถ่ายภาพ
    · Hot Issue
    · Research Library
    · Questions in ETC
    · แวดวงนักเทคโนฯ

    · ความรู้ทั่วไป
    · คณิตศาสตร์
    · วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
    · ภาษาต่างประเทศ
    · ภาษาไทย
    · สุขศึกษาและพลศึกษา
    · สังคมศึกษา ศาสนาฯ
    · ศิลปศึกษาและดนตรี
    · การงานอาชีพ

    · ข่าวการศึกษา
    · ข่าวตามกระแสสังคม
    · งาน/บริการสังคม
    · คลิปวิดีโอยอดนิยม
    · เกมส์
    · เกมส์ฝึกสมอง

    · ทฤษฎีทางการศึกษา
    · บทความการศึกษา
    · การวิจัยทางการศึกษา
    · คุณครูควรรู้ไว้
    · เตรียมประเมินวิทยฐานะ
    · ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
    · เครื่องมือสำหรับครู

    ครูบ้านนอกดอทคอม

    เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

          kroobannok.com

    © 2000-2020 Kroobannok.com  
    All rights reserved.


    Design by : kroobannok.com


    ครูบ้านนอกดอทคอม
    การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

    วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
     

    ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

    เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

    Email : kornkham@hotmail.com
    Tel : 096-7158383

    สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
    คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ