ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมบทความการศึกษา  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

ปฏิรูปการศึกษา คือ รากฐานของการปฏิรูปประเทศ โดย รศ.วุฒิชัย กปิลกาญจน์


บทความการศึกษา 18 ต.ค. 2559 เวลา 17:38 น. เปิดอ่าน : 10,589 ครั้ง

Advertisement

ปฏิรูปการศึกษา คือ รากฐานของการปฏิรูปประเทศ โดย รศ.วุฒิชัย กปิลกาญจน์

ปฏิรูปการศึกษา คือ รากฐานของการปฏิรูปประเทศ
โดย รศ.วุฒิชัย กปิลกาญจน์

ความเจริญก้าวหน้าขององค์กร ไม่ว่าจะมีขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ระดับประเทศ ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบหลายประการ ที่สำคัญคือบุคลากรที่อยู่ในองค์กรนั้น

ประชาชนของประเทศที่พัฒนาแล้วทั้งหลาย เป็นผู้ที่มีศักยภาพในระดับสูง มีความรู้ มีวินัย และมีความรับผิดชอบในหน้าที่ของตน ทั้งนี้ สืบเนื่องจากการที่ผู้บริหารประเทศเหล่านั้นให้ความสำคัญกับการศึกษา ดำเนินการปรับปรุง ปฏิรูป การบริหารการศึกษาอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับการบริหารประเทศอย่างดีเยี่ยม ทำให้ประเทศมีความเจริญก้าวหน้าอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน

ประเทศไทยถือว่าเป็นประเทศที่กำลังพัฒนาและมีการปรับเปลี่ยนระบบการศึกษาอย่างต่อเนื่องตลอดมา แต่ก็ยังไม่ทันกับความเจริญก้าวหน้าในด้านต่างๆ ของโลก จำเป็นจะต้องมีการปฏิรูปการศึกษาในทุกระดับ ตั้งแต่อนุบาลศึกษา ประถมศึกษา มัธยมศึกษาตอนต้น มัธยมศึกษาตอนปลาย (สายสามัญศึกษา และสายวิชาชีพ) และอุดมศึกษา (สายสามัญศึกษาและสายวิชาชีพ) ในระดับต่ำกว่าปริญญา ปริญญาตรีหรือเทียบเท่า และบัณฑิตศึกษาหรือเทียบเท่า และถ้าจะให้สมบูรณ์ควรรวมถึงการให้การศึกษากับประชาชนไปจนตลอดชีวิต

เป็นที่น่ายินดีที่รัฐบาลได้ประกาศนโยบายประเทศไทย 4.0 ถือได้ว่าเป็นวิสัยทัศน์เชิงรุกที่ดี และรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยที่กำลังจะมีการประกาศใช้ ได้กำหนดให้มีการปฏิรูปประเทศด้านการศึกษา ที่จะต้องเป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยแผนและขั้นตอนการปฏิรูปประเทศ โดยหลังจากรัฐธรรมนูญประกาศใช้แล้ว จะต้องดำเนินการปฏิรูปภายในหนึ่งปี และจะต้องดำเนินการให้สัมฤทธิ์ผลภายในห้าปี รวมทั้งกำหนดให้จัดทำข้อเสนอแนะและร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการปฏิรูปประเทศด้านการศึกษาเสนอต่อคณะรัฐมนตรีให้แล้วเสร็จโดยเร็ว

ต่อเนื่องไปในอนาคต รัฐบาลได้เร่งดำเนินการจัดทำแผนยุทธศาสตร์ 20 ปี แบ่งเป็น 4 ช่วง ช่วงละ 5 ปี เริ่มตั้งแต่ปี 2560 จะดำเนินการปฏิรูปด้านต่างๆ รวม 10 ด้าน ได้แก่ เศรษฐกิจ การเกษตร ศักยภาพคนไทย ความเหลื่อมล้ำทางสังคม การป้องกันการทุจริต ทรัพยากรธรรมชาติ โครงสร้างพื้นฐาน การคมนาคม รายได้ประชาชน นวัตกรรมและการวิจัย และระบบโทรคมนาคม

นอกเหนือไปจากการเสนอนโยบาย วิสัยทัศน์ และวางแผนในอนาคต รัฐบาลได้แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจที่จะดำเนินการปรับปรุงการศึกษาของประเทศอย่างจริงจัง โดยเห็นได้จากงบประมาณปี 2560 ที่จัดสรรให้กระทรวงศึกษาธิการ 519,292.5 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 19% จากงบประมาณทั้งประเทศ จำนวน 2,733,000 ล้านบาท นับว่าเป็นกระทรวงที่ได้รับงบประมาณมากที่สุด รวมถึงกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ซึ่งถือว่าเป็นส่วนที่สำคัญของระบบการศึกษาก็ได้รับงบประมาณจำนวน 11,868.7 ล้านบาท

มีข้อคิดเห็น ข้อเสนอแนะ มากมายจากทุกภาคส่วนที่มุ่งหวังให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในการบริหารการศึกษาของประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับองค์ประกอบที่สำคัญ 3 ส่วน คือ หลักสูตร ผู้เรียน และผู้สอน โดยผู้สอนน่าจะเป็นประเด็นที่สำคัญที่สุด จึงขอเสนอให้มีการปรับเปลี่ยนอย่างเร็วที่สุด ในเรื่องค่าตอบแทนและการบริหารงานบุคคลในส่วนของครูและอาจารย์

คงจะเป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไปแล้วว่าการเลือกสาขาวิชาในการศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาของนักเรียนนั้น ความชอบและความถนัดเป็นส่วนหนึ่งในการตัดสินใจ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือค่าตอบแทนที่จะได้รับ เมื่อสำเร็จการศึกษาไปประกอบอาชีพ ประเทศของเราจึงมีแพทย์ วิศวกร ที่มีความสามารถระดับนานาชาติมากมาย การเพิ่มค่าตอบแทนให้บุคลากรของรัฐกลุ่มที่เป็นครูและอาจารย์ จะเป็นสิ่งที่กระตุ้นความสนใจของนักเรียนที่มีผลการเรียนดี (รวมถึงผู้ปกครอง) และควรเพิ่มให้อยู่ในระดับเดียวกัน (หรือมากกว่า) กับบุคลากรของรัฐวิสาหกิจหรือบริษัทเอกชน

เมื่อให้ค่าตอบแทนครูและอาจารย์ในระดับสูงสุด (เมื่อเทียบกับสาขาอาชีพอื่นๆ) แล้ว ควรที่จะมีเส้นทางการประกอบอาชีพที่ชัดเจน นั่นคือจะต้องปรับเปลี่ยนการบริหารงานบุคคล ตั้งแต่การรับเข้า การพัฒนา การเลื่อนขั้น จนถึงเกษียณอายุราชการ ตัวอย่างเช่น ควรได้ทำงานในภูมิลำเนาเดิมของตน (ซึ่งจะเป็นการลดค่าใช้จ่ายในเรื่องการสร้างบ้านพัก) เมื่อได้รับการเลื่อนขั้นก็ไม่จำเป็นต้องย้ายไปอยู่จังหวัดอื่น เป็นต้น

การปรับเปลี่ยนในสองประเด็นที่เสนอนี้ จะทำให้ประเทศของเราได้ครูและอาจารย์รุ่นใหม่ ซึ่งอาจเรียกได้ว่า “ครูและอาจารย์รุ่น 4.0” มาร่วมในการปฏิรูปการศึกษาไทย เพื่อเข้าสู่ “การศึกษาไทย 4.0” เมื่อปฏิรูปการศึกษาไทยได้สำเร็จ (ซึ่งจะต้องใช้เวลาพอสมควร) ประชาชนในประเทศของเราจะเป็นประชาชนที่มีศักยภาพ มีวินัย และมีความรับผิดชอบในหน้าที่ของตน เช่นเดียวกับพลเมืองของประเทศที่พัฒนาแล้ว และการปฏิรูปประเทศในด้านต่างๆ ให้เป็น ประเทศไทย 4.0” ก็จะสามารถดำเนินการให้สำเร็จได้โดยใช้เวลาที่ไม่นานเกินไปตามที่ทุกคนมุ่งหวัง

รศ.วุฒิชัย กปิลกาญจน์

 

ขอบคุณที่มาจาก มติชนออนไลน์ วันที่: 18 ต.ค. 59

 


ปฏิรูปการศึกษา คือ รากฐานของการปฏิรูปประเทศ โดย รศ.วุฒิชัย กปิลกาญจน์ปฏิรูปการศึกษาคือรากฐานของการปฏิรูปประเทศโดยรศ.วุฒิชัยกปิลกาญจน์

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

ปัจจัยฉุดรั้งการศึกษา (1)

ปัจจัยฉุดรั้งการศึกษา (1)


เปิดอ่าน 12,019 ครั้ง
ตอบโจทย์ "ปฏิรูปการศึกษา"?

ตอบโจทย์ "ปฏิรูปการศึกษา"?


เปิดอ่าน 7,731 ครั้ง

:: เรื่องปักหมุด ::

FOCUS ประเด็นจาก PISA : การศึกษาเวียดนาม: ทำไมนักเรียนจึงมีผลการประเมินสูง

FOCUS ประเด็นจาก PISA : การศึกษาเวียดนาม: ทำไมนักเรียนจึงมีผลการประเมินสูง

เปิดอ่าน 33,260 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
นัยสำคัญยุทธศาสตร์การศึกษาในพลวัตศตวรรษที่ 21 สู่การเป็นประชาคมอาเชียน อย่างยั่งยืนสำหรับการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานไทย
นัยสำคัญยุทธศาสตร์การศึกษาในพลวัตศตวรรษที่ 21 สู่การเป็นประชาคมอาเชียน อย่างยั่งยืนสำหรับการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานไทย
เปิดอ่าน 2,841 ☕ คลิกอ่านเลย

การศึกษาเพื่อสร้างบัณฑิตเป็น‘ผู้นำสังคม’ : โดย นพ.วิชัย เทียนถาวร
การศึกษาเพื่อสร้างบัณฑิตเป็น‘ผู้นำสังคม’ : โดย นพ.วิชัย เทียนถาวร
เปิดอ่าน 16,549 ☕ คลิกอ่านเลย

โครงการเพชรในตม โครงการที่ให้ทุนนักเรียนเรียนครูเมื่อจบแล้วบรรจุเป็นครูโดยตรง
โครงการเพชรในตม โครงการที่ให้ทุนนักเรียนเรียนครูเมื่อจบแล้วบรรจุเป็นครูโดยตรง
เปิดอ่าน 32,655 ☕ คลิกอ่านเลย

พระเจ้าแผ่นดิน
พระเจ้าแผ่นดิน
เปิดอ่าน 6,699 ☕ คลิกอ่านเลย

ปฏิรูปการศึกษา ปฏิรูปอะไร ? โดย ดร. วิชัย พยัคฆโส
ปฏิรูปการศึกษา ปฏิรูปอะไร ? โดย ดร. วิชัย พยัคฆโส
เปิดอ่าน 13,346 ☕ คลิกอ่านเลย

ว่าด้วยกรณีมหาวิทยาลัยปิดเปิดเทอมตามอาเซียน??? โดย สุพจน์ เอี้ยงกุญชร
ว่าด้วยกรณีมหาวิทยาลัยปิดเปิดเทอมตามอาเซียน??? โดย สุพจน์ เอี้ยงกุญชร
เปิดอ่าน 13,881 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

ไม่เชื่ออย่าลบหลู่!! ข้อคิดวันตรุษจีน
ไม่เชื่ออย่าลบหลู่!! ข้อคิดวันตรุษจีน
เปิดอ่าน 11,670 ครั้ง

โรคหัวใจ เลี่ยงได้ แค่เลือกอาหาร
โรคหัวใจ เลี่ยงได้ แค่เลือกอาหาร
เปิดอ่าน 55,059 ครั้ง

ระกำ
ระกำ
เปิดอ่าน 18,780 ครั้ง

"อ้วน" กับ 7 เรื่องน่ารู้ น้ำหนักลดเร็วในช่วงแรกแต่ต่อไปทำไมไม่ลด
"อ้วน" กับ 7 เรื่องน่ารู้ น้ำหนักลดเร็วในช่วงแรกแต่ต่อไปทำไมไม่ลด
เปิดอ่าน 12,987 ครั้ง

วัดป่าที่แม่ฮ่องสอนดังทั่วโลก ต่างชาติแห่เรียนสมาธิปีละกว่า 2 พันคน
วัดป่าที่แม่ฮ่องสอนดังทั่วโลก ต่างชาติแห่เรียนสมาธิปีละกว่า 2 พันคน
เปิดอ่าน 14,801 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ