“ตรีนุช”กำชับใช้เงิน100ล้านชพค.ให้โปร่งใสและเป็นประโยชน์กับครู ด้านปลัดศธ.เปรยถ้านำเงินไปใช้ไม่ถูกวัตถุประสงค์ก็ควรคืนเงินสกสค.

เมื่อวันที่ 22 ก.พ.2566 น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ(รมว.ศึกษาธิการ)เปิดเผยกรณี การใช้เงินฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.) และสมาชิกการฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา ในกรณีคู่สมรสถึงแก่ความตาย (ช.พ.ส.) จำนวน 100 ล้านบาท มาใช้ในกิจกรรมของกระทรวงศึกษาธิการ โดยแบ่งเงินเป็นสองก้อน คือ ก้อนแรก 50 ล้านบาท ให้สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ไปดำเนินโครงการป้องกันและแก้ไขปัญหาหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษา และอีก 50 ล้านบาท ให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.)นำไปพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา ว่า เรื่องนี้ได้ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา(บอร์ด สกสค.)มาแล้ว ซึ่งตนก็ได้กำชับให้ ดร.พิเชฐ โพธิ์ภักดี รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ รักษาการแทน เลขาธิการคณะกรรมการ สกสค. และหน่วยปฏิบัติที่เกี่ยวข้อง ไปชี้แจงกับครูและบุคลากรทางการศึกษาให้เข้าใจด้วยว่า งบฯส่วนนี้นำไปใช้แล้วจะเกิดอะไรบ้าง ทั้งเรื่องการพัฒนาครู การแก้ปัญหาหนี้สินครู การสร้างการรับรู้เรื่องของสวัสดิการครู เป็นต้น แต่ที่สำคัญจะต้องใช้งบฯด้วยความโปร่งใสและตรวจสอบได้

ด้าน ดร.อรรถพล สังขวาสี ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า ตนได้เชิญ ดร.พิเชฐ มาสอบถามแล้ว และให้คำแนะนำไปว่า เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและเป็นประโยชน์กับสมาชิก ควรนำเรื่องนี้เข้าบอร์ด สกสค.อีกครั้ง เพื่อทบทวนว่า เงินที่นำไปใช้จะเกิดประโยชน์กับสมาชิกมากน้อยเพียงใด และเพื่อให้เกิดความคุ้มค่า โดยให้ที่ประชุมช่วยกันพิจารณา และหากแผนงานโครงการใด ไม่ตรงตามวัตถุของครู และยังไม่ได้ขับเคลื่อนก็ส่งเงินที่เหลือและที่ยังไม่ได้ใช้คืนให้ สกสค. เพื่อนำไปใช้ประโยชน์อื่น ๆ ส่วนกรณีงบฯที่โอนให้ สพฐ.ในความเห็นของตน ถ้าการใช้งบฯตรงตามวัตถุประสงค์ ก็ไม่ขัดข้อง แต่ถ้าไม่เข้าวัตถุประสงค์ ยังไม่มีแผนงานใด ๆ ก็น่าจะส่งเงินคืนให้ สกสค.เช่นกัน

“เงินจำนวน 50 ล้านบาท ที่สำนักงานปลัดฯได้มาและใช้ไป 15 ล้านบาท เพื่อไปสร้างความเข้าใจถึงมาตรการช่วยเหลือการแก้ปัญหาหนี้สินครู ภายใต้เงื่อนไขพิเศษของสถาบันการเงินและสหกรณ์ออมทรัพย์ครู โดยกำหนดให้ดำเนินการใน 4 ภูมิภาค 5 จังหวัดก็จริงอยู่ แต่ก็ตรงกับวัตถุประสงค์ของรัฐบาลและรมว.ศึกษาธิการ ที่ต้องการนำไปแก้ไขปัญหาหนี้สินครู แต่ที่เหลือ 35 ล้านบาท ถ้ายังไม่มีโครงการและแผนงานก็ควรส่งเงินจำนวนนี้คืนสมาชิก”ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าว

ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวและอ่านเพิ่มเติมได้จาก FOCUSNEWS วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2566