ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมข่าวการศึกษา  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

"บิ๊กอุ้ม" เห็นด้วยกับ สพฐ.เสนอ กพฐ.แก้ไขระเบียบปิด-เปิดภาคเรียน พ.ศ.2549 เลื่อนวันปิดภาคเรียน


ข่าวการศึกษา 20 ม.ค. 2568 (12:30 น.) เปิดอ่าน : 8,144 ครั้ง
Advertisement

"บิ๊กอุ้ม" เห็นด้วยกับ สพฐ.เสนอ กพฐ.แก้ไขระเบียบปิด-เปิดภาคเรียน พ.ศ.2549 เลื่อนวันปิดภาคเรียน

Advertisement

เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2568 ที่ น่านกรีนเลควิว รีสอร์ท จังหวัดน่าน ได้มีการประชุมคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานนอกสถานที่(กพฐ.สัญจร)ซึ่ง พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ร่วมประชุมด้วย โดยมี ศ.ดร.บัณฑิต เอื้ออาภรณ์ เป็นประธาน ทั้งนี้ ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(กพฐ.)ได้เสนอผลสรุปการสำรวจความคิดเห็นการพิจารณาแก้ไขระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยปีการศึกษา การเปิดและปิดภาคเรียน พ.ศ.2549 โดยมีประเด็นสำคัญที่น่าสนใจ คือ
  • การแก้ไขวันเปิดและปิดภาคเรียนที่ 1 จากวันที่ 16 พฤษภาคม -11 ตุลาคม เป็น วันที่ 1 พฤษภาคม – 30 กันยายน และ
  • เปิดภาคเรียนที่ 2 วันที่ 1 พฤศจิกายน -1 เมษายน
ซึ่งจาก การสำรวจความเห็น ในประเด็นนี้พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมด 47,467 คน ซึ่งมีทั้งผู้บริหารสถานศึกษา ครู นักเรียน ผู้ปกครอง คณะกรรมการสถานศึกษา ศึกษานิเทศก์ นักวิชาการศึกษา ฯลฯ พบว่า เห็นด้วย 80.30% ไม่เห็นด้วย 16.91% และอื่นๆ 0.79%
 
โดยมีข้อเสนอแนะกรณีเห็นด้วย คือ

 1. เพื่อให้สะดวกต่อการบริหารจัดการภายในสถานศึกษาเนื่องจากสอดคล้องกับปีงบประมาณ สะดวกต่อการบริหารจัดการด้านการเบิกจ่ายอาหารกลางวันอาหารเสริม (นม) และการจัดซื้อจัดจ้างต่างๆ
2. เป็นประโยชนให้กับเด็กที่เกิดตั้งแต่วันที่ 1 – 15 พฤษภาคม สามารถเข้าเรียนได้เลย ไม่ต้องรอเข้าเรียนในปีการศึกษาถัดไป
3. เพื่อให้สะดวกต่อการบริหารอัตรากำลัง เนื่องจากการเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 กันยายนซึ่งแต่เดิมกำหนดปิดภาคเรียนในวันที่ 11 ตุลาคมส่งผลต่อการบริหารจัดการด้านอัตรากำลัง
4. เพื่อให้สอดคล้องกับการจัดทำแผนปฏิบัติการประจำปีของสถานศึกษา
5. เพื่อให้นักเรียนชั้น ม.3 และ ม.6 มีโอกาสแก้ผลการเรียนได้จบทันปีการศึกษา การเปิดภาคเรียนในวันที่ 1 พ.ค. ทำให้นักเรียนที่มาแก้ผลการเรียนดำเนินการได้สะดวกกว่าการที่โรงเรียนเปิดวันที่ 16 พ.ค. อีกทั้งยังลดความเลื่อมล้ำทางการศึกษา เพราะเป็นการเปิดโอกาสให้นักเรียนได้จบการศึกษาเพิ่มขึ้น และได้ใช้วุฒิการศึกษาไปทำงานหรือเรียนต่อได้ทันปีการศึกษาถัดไป เพราะหากนักเรียนแก้ผลการเรียนไม่ทันก่อนวันที่ 16 พ.ค. นักเรียนจะจบในปีการศึกษาถัดไป และต้องรออีก 1 ปี ถึงจะสามารถเรียนต่อได้

ส่วนข้อเสนอแนะ กรณีไม่เห็นด้วย

1. ช่วงต้นเดือนพฤษภาคมมีสภาพอากาศร้อนไม่เหมาะสมต่อการจัดกิจกรรมหรือการจัดการเรียนการสอน
2. ช่วงต้นเดือนพฤษภาคมมีวันหยุดนักขัตฤกษ์หลายวัน (วันแรงงาน วันฉัตรมงคล วันพืชมงคล วันวิสาขบูชา) ส่งผลให้ต้องหยุดเรียนหลายวัน
3. การปรับเปลี่ยนวันเปิดภาคเรียนเป็นการปรับเปลี่ยนเพื่อให้สะดวกต่อการบริหารจัดการเท่านั้น ไม่ส่งผลประโยชน์ต่อผู้เรียน
4. การเปิดและปิดภาคเรียนแบบเดิมมีความเหมาะสมแล้ว

นอกจากนี้ยังมีความเห็นอื่น ๆ เช่น

1. ควรนับวันครบอายุเข้าเรียนตามปี พ.ศ. เพื่อให้เข้าเรียนในระดับชั้นอนุบาล และระดับชั้นประถมศึกษาได้อย่างเหมาะสม

2.ควรกำหนดกรอบระยะเวลาเปิดภาคเรียนแบบยืดหยุ่นเพื่อให้สถานศึกษาบริหารจัดการตามบริบทและความเหมาะสมในแต่ละพื้นที่สามารถแก้ไขระเบียบอื่นได้ โดยไม่ต้องปรับเปลี่ยนวันเปิดภาคเรียน ซึ่งที่ประชุมได้มีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง แต่ยังไม่ได้ข้อสรุป โดยประธานที่ประชุมมอบหมายให้ สพฐ. ไปดำเนินการ ให้มีการรับฟังความเห็นจากหน่วยงานและส่วนราชการอื่น ๆ รวมถึงโรงเรียนเอกชนด้วย เพราะจะส่งผลกระทบจากการปรับวันเปิด-ปิด ภาคเรียนด้วย

ด้าน พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า แนวคิดดังกล่าว เกิดจากการรับฟังปัญหา ที่เกิดขึ้นกับบุคลากรทางการศึกษา ซึ่งตนได้มอบให้ สพฐ.สำรวจความคิดเห็น เสนอต่อที่ประชุม กพฐ.ทั้งนี้ ข้อดีของการเลื่อนวันเปิดเทอม จะส่งผลดีเรื่องการบริหารจัดการที่ง่ายขึ้น การปิดภาคเรียนที่1 ก็เพิ่มขึ้นจากเดิมนักเรียนมีเวลาหยุดเพิ่มขึ้น ส่วนข้อกังวลเรื่องการนับอายุเด็กก่อนเข้าเรียน นั้น เหรียญย่อมมี2ด้าน ทั้งเห็นด้วย และไม่เห็นด้วย แต่ส่วนใหญ่ก็เห็นด้วยที่จะให้เลื่อน เปิด- ปิดภาคเรียน ซึ่งตนมองประโยชน์ที่จะเกิดในภาพรวมมากกว่า ว่าคุ้มค่าหรือไม่ ถ้าการปรับเปลี่ยนครั้งนี้ก่อให้เกิดปัญหาที่มากกว่าประโยชน์ก็จะไม่เปลี่ยน ในทางกลับกันหากได้รับผลประโยชน์มากกว่า ก็ให้รีบดำเนินการเพื่อให้ทันปรับใช้ในปีการศึกษา 2569 นี้


ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวและอ่านเพิ่มเติมได้จาก FOCUSNEWS วันที่ 18 มกราคม 2568 

เครื่องฟอกอากาศ กรองฝุ่น PM2.5 Xiaomi Mi Smart Air Purifier 4 Pro (รับประกันศูนย์ไทย 1 ปี) ลดราคา 2%

เหลือ ฿8,790 เท่านั้น!

https://s.shopee.co.th/3q7uiabIyT?share_channel_code=6


"บิ๊กอุ้ม" เห็นด้วยกับ สพฐ.เสนอ กพฐ.แก้ไขระเบียบปิด-เปิดภาคเรียน พ.ศ.2549 เลื่อนวันปิดภาคเรียนเลื่อนเปิดเทอมเลื่อนปิดเทอมเลื่อนปิดภาคเรียนเลื่อนเปิดภาคเรียนกพฐ.

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

:: เรื่องปักหมุด ::

ผลการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ครั้งที่ 1/2568 เมื่อวันที่ 14 มกราคม พ.ศ.2568

ผลการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ครั้งที่ 1/2568 เมื่อวันที่ 14 มกราคม พ.ศ.2568

เปิดอ่าน 3,951 ☕ 14 ม.ค. 2568

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
การดำเนินการของ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา
การดำเนินการของ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา
เปิดอ่าน 1,027 ☕ 6 ก.พ. 2568

"เสมา 1" ดีใจ เด็กสนใจสอบ O-NET มากขึ้น แถมมีวอล์กอินขอสอบ
"เสมา 1" ดีใจ เด็กสนใจสอบ O-NET มากขึ้น แถมมีวอล์กอินขอสอบ
เปิดอ่าน 283 ☕ 5 ก.พ. 2568

คู่มือการพัฒนาสมรรถนะดิจิทัล (Digital Competency) สำหรับครูและบุคลากรทางการศึกษา
คู่มือการพัฒนาสมรรถนะดิจิทัล (Digital Competency) สำหรับครูและบุคลากรทางการศึกษา
เปิดอ่าน 710 ☕ 5 ก.พ. 2568

สมศ. ชวนสถานศึกษา เข้าร่วมโครงการส่งเสริมการนำผลประเมินไปใช้พัฒนาคุณภาพ
สมศ. ชวนสถานศึกษา เข้าร่วมโครงการส่งเสริมการนำผลประเมินไปใช้พัฒนาคุณภาพ
เปิดอ่าน 465 ☕ 4 ก.พ. 2568

บุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค.(2)นั่งเก้าอี้ผู้บริหารสถานศึกษาได้แล้ว
บุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค.(2)นั่งเก้าอี้ผู้บริหารสถานศึกษาได้แล้ว
เปิดอ่าน 1,755 ☕ 2 ก.พ. 2568

ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศคณะกรรมการคุรุสภา เรื่องกลุ่มวิชาที่ระบุในใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูชั้นต้นและใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูชั้นสูง (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2567
ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศคณะกรรมการคุรุสภา เรื่องกลุ่มวิชาที่ระบุในใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูชั้นต้นและใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูชั้นสูง (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2567
เปิดอ่าน 6,864 ☕ 30 ม.ค. 2568

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

อนาคตของนักเรียน: ทักษะแรงงาน รายได้จากการทำงาน และโอกาสจากหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์
อนาคตของนักเรียน: ทักษะแรงงาน รายได้จากการทำงาน และโอกาสจากหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์
เปิดอ่าน 52,920 ครั้ง

ถอนผมหงอก...ดีไหม
ถอนผมหงอก...ดีไหม
เปิดอ่าน 23,282 ครั้ง

สีแดงกับสมอง ความเชื่อมโยงอันน่าอัศจรรย์ที่คุณไม่เคยรู้
สีแดงกับสมอง ความเชื่อมโยงอันน่าอัศจรรย์ที่คุณไม่เคยรู้
เปิดอ่าน 10,410 ครั้ง

ปฏิรูปการเรียนรู้...สู่...ห้องเรียน
ปฏิรูปการเรียนรู้...สู่...ห้องเรียน
เปิดอ่าน 12,571 ครั้ง

ใส่ใจการ "เคี้ยวอาหาร" กันสักนิด
ใส่ใจการ "เคี้ยวอาหาร" กันสักนิด
เปิดอ่าน 14,512 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ