บทคัดย่อ
การศึกษาในครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อ 1) สร้างและพัฒนาประสิทธิภาพของบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่องการพัฒนาทักษะการอ่านเพื่อความเข้าใจภาษาอังกฤษ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนวัดยางสว่างอารมณ์ ให้ได้ตามเกณฑ์ 80/80 2) หาดัชนีประสิทธิผลของบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง การพัฒนาทักษะการอ่านเพื่อความเข้าใจภาษาอังกฤษ
สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 3) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่อง การพัฒนาทักษะการอ่านเพื่อความเข้าใจภาษาอังกฤษ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ก่อนเรียนและหลังเรียนและ 4) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อต่อบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่องการพัฒนาทักษะการอ่านเพื่อความเข้าใจภาษาอังกฤษ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนวัดยางสว่างอารมณ์ ทีกำลังศึกษาภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2555 จำนวน 26 คน ได้มาด้วยการเลือกตัวอย่างแบบเจาะจง ( Purposive sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แผนการจัดการเรียนรู้ 2) บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่องการพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนวัดยางสว่างอารมณ์ 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 40 ข้อ และ 4) แบบวัดความพึงพอใจของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่เรียนโดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่องการพัฒนาทักษะการอ่านเพื่อความเข้าใจภาษาอังกฤษ จำนวน 10 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน t-test (Dependent Samples)
ผลการวิจัยพบว่า
1) บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง การพัฒนาทักษะการอ่านเพื่อความเข้าใจภาษาอังกฤษ มีประสิทธิภาพโดยรวมเท่า 81.94 / 83.65 ได้ประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 แสดงว่าบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพอยู่ในเกณฑ์ดีมาก
2) ดัชนีประสิทธิผล (E.I.) ของบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนมีค่าเท่ากับ 0.6980 แสดงว่านักเรียนมีความก้าวหน้าทางการเรียนคิดเป็นร้อยละ 69.80
3) นักเรียนที่เรียนด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน มีค่าเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05
4) นักเรียนที่เรียนด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่องการพัฒนาทักษะการอ่านเพื่อความเข้าใจภาษาอังกฤษ สำหรับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีระดับความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด