4 เทคนิคขับรถลุยฝนให้ปลอดภัย มั่นใจทุกการเดินทางไกล

ขับรถลุยฝนยังไงไม่ให้รถพัง? เช็ก 4 เทคนิคขับฝ่าฝนและน้ำท่วมขังให้ปลอดภัย ป้องกันรถเหินน้ำ-เครื่องดับ พร้อมวิธีดูแลรถหลังลุยน้ำให้ใช้งานได้ยาวนาน

ขับรถลุยฝน
 
หน้าฝนเป็นฤดูกาลปราบเซียนสำหรับคนใช้รถ เพราะทัศนวิสัยที่แย่ลงและถนนที่ลื่นขึ้น ทำให้ความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุเพิ่มสูงกว่าปกติหลายเท่า การขับรถลุยฝนจึงต้องอาศัยเทคนิคและความระมัดระวังเป็นพิเศษ วันนี้เราได้รวบรวม 4 วิธีขับขี่ปลอดภัยที่จะช่วยให้คุณถึงที่หมายโดยสวัสดิภาพมาฝากกัน

4 เทคนิคขับรถลุยฝนอย่างเซียน ปลอดภัย ไม่เสี่ยงรถเหินน้ำ

ทคนิคขับรถลุยฝนให้ปลอดภัย

การขับรถท่ามกลางสายฝนไม่ใช่เรื่องน่ากลัว หากเราเช็กสภาพยางก่อนใช้รถ และรู้วิธีรับมือเพื่อลดความเสี่ยงจากการลื่นไถลและอุบัติเหตุที่ไม่คาดฝัน โดยมีเทคนิคง่าย ๆ ที่ควรนำไปปฏิบัติ ดังนี้

1. ลดความเร็วและเว้นระยะห่าง เพื่อป้องกันรถเหินน้ำและเบรกไม่อยู่

ฝนตกทำให้ถนนลื่นและระยะเบรกยาวขึ้น การขับรถเร็วเกินไปจะเพิ่มความเสี่ยงอาการ "เหินน้ำ" (Hydroplaning) ซึ่งยางจะไม่เกาะถนน ทำให้รถเสียหลักได้ง่าย จึงควรลดความเร็วลงจากปกติและเว้นระยะห่างจากคันหน้าให้มากกว่าเดิมอย่างน้อย 2 เท่า เพื่อให้มีระยะเบรกที่ปลอดภัยและเพียงพอ

2. ใช้เกียร์ต่ำและปิดแอร์เมื่อเจอน้ำท่วมขัง ป้องกันเครื่องยนต์ดับ

หากต้องลุยน้ำท่วมสูง ให้ใช้เกียร์ต่ำ (เกียร์ L หรือ 1-2) และเลี้ยงรอบเครื่องให้คงที่เพื่อดันน้ำออกท่อไอเสีย ห้ามเร่งเครื่องแรงเพราะน้ำอาจเข้าห้องเครื่องได้ และที่สำคัญควรปิดแอร์ เพื่อหยุดพัดลมหม้อน้ำไม่ให้ตีน้ำกระจายไปโดนระบบไฟ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้รถดับกลางน้ำ

3. ตรวจเช็กระบบไฟและที่ปัดน้ำฝน ทัศนวิสัยต้องชัดเจนที่สุด

ก่อนออกเดินทางต้องมั่นใจว่าใบปัดน้ำฝนทำงานได้ดี รีดน้ำได้เกลี้ยงไม่เป็นเส้น และระบบไฟส่องสว่างรอบคันใช้งานได้ปกติ การเปิดไฟหน้า (ไฟต่ำ) ขณะฝนตกจะช่วยให้เรามองเห็นทางได้ชัดเจนขึ้น และยังช่วยให้รถคันอื่นมองเห็นเราได้ง่ายขึ้นด้วย ลดความเสี่ยงในการถูกชนท้าย

4. ย้ำเบรกไล่น้ำหลังลุยฝน เพื่อคืนประสิทธิภาพการหยุดรถ

หลังจากขับลุยน้ำมา ผ้าเบรกจะเปียกชื้นทำให้ประสิทธิภาพการเบรกลดลง หรือเบรกไม่อยู่ วิธีแก้คือให้ขับช้า ๆ แล้วเหยียบเบรกย้ำ ๆ เบา ๆ หลายครั้ง ความร้อนจากการเสียดสีจะช่วยระเหยน้ำออกจากผ้าเบรก ทำให้ระบบเบรกกลับมาทำงานได้เต็มประสิทธิภาพอีกครั้ง

ดูแลรถหลังลุยฝนอย่างไร ไม่ให้พังและเสื่อมสภาพเร็วเกินไป

ดูแลรถหลังลุยฝน

การขับรถลุยฝนและน้ำท่วมขัง นอกจากจะเสี่ยงต่ออุบัติเหตุแล้ว ยังทำร้ายรถของคุณได้ในระยะยาว หากไม่ดูแลรักษาให้ดี สนิมและเชื้อราอาจถามหาได้ง่าย ๆ ดังนั้นหลังจากลุยฝนมา ควรดูแลรถ ดังนี้

  1. ล้างรถด้วยน้ำสะอาดทันที เพื่อขจัดคราบดินโคลนและสิ่งสกปรกที่กัดกร่อนสีรถ
  2. เปิดประตูและพรมปูพื้นผึ่งแดด เพื่อไล่ความชื้นและกลิ่นอับภายในห้องโดยสาร
  3. ฉีดสเปรย์ไล่ความชื้น บริเวณขั้วแบตเตอรี่และปลั๊กไฟต่าง ๆ ในห้องเครื่อง

การขับรถหน้าฝนต้องอาศัยความไม่ประมาทและการเตรียมพร้อมที่ดี ทั้งทักษะการขับขี่และการตรวจเช็กสภาพรถ โดยเฉพาะ "ยางรถยนต์" ที่เป็นหัวใจสำคัญในการยึดเกาะถนนเปียก หากยางเริ่มเสื่อมสภาพ ควรรีบเปลี่ยนยางใหม่ที่มีประสิทธิภาพการรีดน้ำดีเยี่ยม อย่างยาง NEXEN TIRE เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของคุณและครอบครัว

NEXEN TIRE พร้อมให้คุณเลือกเป็นเจ้าของได้แล้ววันนี้ที่ร้านยางชั้นนำทั่วประเทศ ศูนย์บริการ B–Quik และ MMS ทุกสาขา รวมถึงช่องทางออนไลน์อย่าง Shopee Lazada และ TikTok Shop

พิเศษ! รับประกันยาง บาด บวม แตก ภายใน 1 ปี หรือ 25,000 กิโลเมตร เมื่อซื้อยางครบ 4 เส้นต่อใบเสร็จ และลงทะเบียนภายใน 14 วัน สอบถามเพิ่มเติมทางเว็บไซต์ หรือเฟซบุ๊ก NEXEN TIRE THAILAND
 

โพสต์เมื่อ 12 ธ.ค. 2568 อ่าน 534 ครั้ง

จัดทำเว็บไซต์โดย นายอดิศร ก้อนคำ (ครูโจ้)

ดูในหน้าเว็บปกติ