ครั้งแรกที่เห็นภาพเหล่านี้มีความรู้สึกหลายอยากมาจุกอยู่ที่ปากรวมทั้งคำว่า Sh…t

 นี่มันประเทศไทยแน่เหรอ ???

 กองหินนี้โผล่มาจากไหนกัน ???

 ทำไมมันถึงได้ดูธรรมดาแต่ทรงเสน่ห์ขนาดนี้ !!!

 และเช้าวันอาทิตย์ที่ผ่านมา กองหินนี้ก็มาโผล่อยู่ตรงหน้า

 มอหินขาว เป็นชัยภูมิแรกของจังหวัดที่พวกเราไปปักธงแรกของทริป กลุ่มหินที่ได้ชื่อว่าเป็นสโตนเฮนจ์เมืองไทย เหตุเพราะความสูงความใหญ่และความแปลกที่คล้ายคลึงกัน

 ผิดกันแต่ที่กองหินเหล่านี้ธรรมชาติเป็นผู้สร้างขึ้นมาเท่านั้น

 กองหินมอหินขาวเป็นกลุ่มหินที่มีความสูงราว 12 เมตร เรียงกระจัดกระจายอยู่บนเนินเขา ในอุทยานแห่งชาติภูแลนคา ตอนแรกกองหินเหล่านี้อยู่ในป่าไม่มีใครเห็น แต่เมื่อชาวบ้านเริ่มเข้ามาทำไร่ทำสวนก็สังเกตเหตุความแปลกของกองหิน รวมทั้งเรื่องเล่าที่มาของชื่อว่า ทุกวันพระ จะมีแสงสีขาวส่องขึ้นมา และเวลาฝนตกหินก็จะกลายเป็นสีขาว มองเห็นได้จากระยะไกล ทำให้ชาวบ้านเรียกติดปากว่า "มอหินขาว"

 มอหินขาว ไม่เพียงแต่จะมีแท่งหินใหญ่กลุ่มนี้เท่านั้น เพราะทั้งมอยังมีกองหินอีกจำนวนมากกระจัดกระจายไปทั่วเนินเขา ให้มนุษย์ตัวเล็กๆ ได้เดินสำรวจไปพร้อมกับใช้จินตนาการในหัวตัวเองว่าหินเหล่านี้คล้ายคลึงกับสิ่งใดที่พบพานมาในชีวิต บ้างก็ว่าหน้าคน บ้างก็เห็นเป็นกระดองเต่า รวมทั้งชื่อเรียกว่า สโตนเฮนจ์ กองหินปริศนาแห่งแซลส์บิวรี

 ตลอด 2 ชั่วโมงของเดินถ่ายภาพกองหินดึกดำบรรพ์อายุหลายร้อยล้านปีด้วยกล้องดิจิตอลอายุไม่กี่ขวบ ทำให้ความตื่นเต้นที่ได้สัมผัสสโตนเฮนจ์เมืองไทย ค่อยๆ หายไป และความรู้สึกเคารพในสถานที่แห่งนี้เข้ามาแทนที่

 ความเป็นสโตนเฮนจ์ที่หลายคนพยายามยกย่องนั้นเทียบไม่ได้ความน่าทึ่งของหินที่ผู้เชี่ยวชาญระบุว่าอาจมีอายุถึง 175-195 ล้านปี

 เก่าแก่กว่าสโตนเฮนจ์เป็นไหนๆ 

 แถมสโตนเฮนจ์ยังเป็นฝีมือมนุษย์สร้าง แต่มอหินขาวธรรมชาติสร้างล้วนๆ

 นี่ย่อมทำให้ “มอหินขาว” มหัศจรรย์กว่าอยู่แล้วมิใช่หรือ....

 ข้อมูลท่องเที่ยวแบบเบาะๆ  

มอหินขาว ตั้งอยู่ในเขต อุทยานแห่งชาติภูแลนคา จังหวัดชัยภูมิ มีกลุ่มหินหลายกลุ่ม รูปร่างแปลกแตกต่างกันออกไป (ที่เดินเที่ยวนี่เฉพาะส่วนแท่นหินเท่านั้น ยังไม่ได้เดินอีก 2-3 กลุ่มหิน) เป็นจุดชมทิวทัศน์ที่สวยงามแห่งหนึ่งของจังหวัดชัยภูมิ โดยกลุ่มหินของมอหินขาวกลุ่มที่โดดเด่นที่สุด คือ กลุ่มหินที่มีเสาหินขนาดใหญ่ 5 ต้นเรียงรายกันอยู่ เสาหินเหล่านี้มีความสูงราว 12 เมตร ที่นี่มีพักกางเต็นท์ด้วย สอบถามรายละเอียดได้ที่ อุทยานแห่งชาติภูแลนคา โทร. 044-810902-3 หรือกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช โทร.02-562-0760

ที่สำคัญ ต้องช่วยกันรักษาสถานที่เหล่านี้ อย่าขูดขีด อย่าทำลาย อย่ามักง่าย และต้องใส่ใจดูแล

Advertisement