1.ป้ายประกาศหรือคำขวัญ เป็นป้ายหรือคำขวัญที่บรรณรักษ์เขียนไว้ตามที่ต่างๆในบริเวณห้องสมุด  ควรเป็นตัวอักษรที่ชัดเจน  และติดไว้ในที่ๆมองเห็นง่ายไม่ควรมีมากเกินไปนักการเขียนข้อความควรเน้นการให้ความรู้เกี่ยวกับการใช้สิ่งต่างๆๆในห้องสมุดมากกว่าเป็นข้อความที่เป็นข้อห้าม

 2.ภาพโฆษณาควรใช้ในกรณีที่ห้องสมุดใช้แนะนำวัสดุ หรือแหล่งความรู้ในห้องสมุดข้อความที่เขียนต้องชัดเจนมองเห็นได้ง่าย เป็นข้อความที่จับใจคนดู และให้ความรู้สั้นๆไม่มีรายละเอียดมากนัก ถ้าต้องการให้ผู้อ่านทราบรายละเอียดมากๆควรแจ้งจุลสารประกอบ

แบบการจัดนิทรรศการในห้องสมุด

   3.ป้ายนิทรรศการหรือป้ายนิเทศ เป็นป้ายขนาดค่อนข้างใหญ่ หรืออาจมีขาตั้ง เพื่อสะดวกในการเคลื่อนย้าย ขนาดทั่วไปกว้างประมาณ 3 ฟุต ยาว 6 ฟุต หรือกว้าง 4 ฟุต ยาว 8 ฟุต ควรเป็นป้ายที่ทำด้วยกระดาษชานอ้อย เพราะมีความอ่อนนุ่ม สามารถใช้เข็มหมุดปักและถอดภาพได้ง่าย สะดวกในการติดและเปลี่ยน สีของป้ายนิทรรศการมีได้หลายสี ด้านหนึ่งอาจเป็นสีหนึ่ง อีกด้านหนึ่งเป็นอีกสีหนึ่ง ตามแต่จะต้องการ สิ่งที่เหมาะกับการจัดแสดงบนแผ่นป้ายนิทรรศการ ได้แก่ จุลสาร รูปภาพต่างๆ ใบหุ้มปกหนังสือหนังสือ เป้นต้น

     4.ตู้นิทรรศการ ควรเป้นตู้ที่ออกแบบมาเพื่อไว้จัดนิทรรศการโดยเฉพาะ อาจเป็นตู้นอนแบบโต๊ะ มัขาตั้ง ตัวตู้เป็นกระจกใสทุกด้าน และมัผ้ากำมะหยี่สีเข้ม เช่น สีน้ำเงิน สีเขียว ปูพื้นรองไว้ แต่ถ้าใช้ตู้ทั่วๆไป ควรปิดทับด้านหลัง ภายในควรเป็นแผ่นกระจกใส มีกระจกเลื่อนปิด-เปิดได้สะดวกสองบาน ตู้นิทรรศการ เหมาะสำหรับนำวัสดุของจริงที่มีค่า หรือของหายาก ที่ต้องการให้คนดู แต่ไม่ต้องการให้จับต้องมาโชว์

นอกจากมีแบบต่างๆของการจัดนิทรรศการตามที่กล่าวมาข้างต้นนี้แล้ว บรรณารักษ์ยังสามารถจัดนิทรรศการตามที่อื่น ซึ่งถือว่าเป็นการจัดนิทรรศการอย่างย่อยได้อีก เช่น จัดบนชั้นหนังสือ โต๊ะที่มีในห้องสมุด ที่ตั้งหนังสือ หลังตู้บัตรรายการ บนหิ้ง เป็นต้น

เรื่องที่ควรจัด

     การจัดนิทรรศการสามารถจัดได้ทุกเรื่องตามความเหมาะสมและข้อสำคัญต้องให้เหมาะสมกับกาลเวลาด้วย   และควรมีการเปลี่ยนตามกำหนดเวลาต่างๆ กัน เช่น

     1.เมื่อมีหนังสือใหม่ในห้องสมุด

     2.จัดแสดงหนังสือชุด  ตามหัวเรื่องที่ต้องการเป็นครั้งคราว เหมาะแก่โอกาส เช่น ชุดวัฒนธรรม ชุดประเพณีของไทย ชุดประวัติบุคคลสำคัญ  ชุดศิลปะ  ชุดวรรณคดี  ชุดพระพุทธศาสนา  ชุดการท่องเที่ยว  ชุดดอกไม้  ชุดอาหาร  เป็นต้น

     3.ตามเหตุการณ์และวันสำคัญต่างๆ เช่น  วันขึ้นปีใหม่ วันเด็ก วันสหประชาชาติ   วันเฉลิมพระชนมพรรษา  วันปิยมหาราช  วันสาธารณสุข  วันเข้าพรรษา  วันสุนทรภู่  เป็นต้น

      4.จัดเมื่อมีเหตุการณ์ที่น่าสนใจ  เช่น การสร้างเขื่อนใหญ่ๆ การเดินทางไปอวกาศ  เป็นต้น

Advertisement