ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมข่าวการศึกษา  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

"อรรถพล" แจงภารกิจ ศธภ.ศธจ.ต้องชัดเจนให้รัฐบาลใหม่เห็นความสำคัญ


ข่าวการศึกษา 15 ส.ค. 2566 เวลา 10:31 น. เปิดอ่าน : 5,717 ครั้ง
"อรรถพล" แจงภารกิจ ศธภ.ศธจ.ต้องชัดเจนให้รัฐบาลใหม่เห็นความสำคัญ

Advertisement

“อรรถพล”ร่ายยาวแจงภารกิจ ศธภ.ศธจ.ต้องชัดเจนให้รัฐบาลใหม่เห็นความสำคัญ ”ย้ำ”แต่งตั้งผู้บริหารไม่มีเรื่องผลประโยชน์ เพราะอยากเกษียณอย่างมีความสุข

เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2566 ดร.อรรถพล สังขวาสี ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ( ศธ.)กล่าวตอนหนึ่งในการประชุมเชิงปฏิบัติการทิศทางการขับเคลื่อนการบริหารการศึกษาของประเทศไทยในระดับภูมิภาค สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ระหว่างวันที่ 15 – 16 สิงหาคม 2566 ณ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชัน กรุงเทพมหานคร โดยมีศึกษาธิการจังหวัด(ศธจ.) ศึกษาธิการภาค(ศธภ.) ศึกษานิเทศก์ (ศก.) และผู้ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมกว่า 300 คน ว่า สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (สป.ศธ.) ให้ความสำคัญอย่างยิ่งในการขับเคลื่อนการบริหารจัดการศึกษาในระดับภูมิภาค และการส่งเสริมการพัฒนาระบบและกระบวนการจัดการศึกษา ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของประเทศในการปฏิรูปกระบวนการเรียนรู้และการพัฒนาศักยภาพคนไทยทุกช่วงวัย ให้สอดคล้องตามบริบทของพื้นที่ ส่งเสริมการมีสำนึกพลเมือง รักในชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข รวมทั้งเปิดโอกาสให้ประชากรทุกช่วงวัยเข้าถึงโอกาสในการศึกษาและเรียนรู้ตลอดชีวิต สร้างความเสมอภาคด้านการศึกษาทุกกลุ่มเป้าหมาย พัฒนาศักยภาพตามความสามารถและความถนัดของผู้เรียน สู่สังคมแห่งการเรียนรู้พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงของโลกในศตวรรษที่ 21 ตลอดจนความผันผวน ซับซ้อน ที่กำลังปรับเปลี่ยนจากยุค VUCA World เข้าสู่ยุค BANI World ที่มีความเปราะบาง ความไม่แน่นอน เพื่อขับเคลื่อนกลไกการบริหารและการจัดการศึกษาแบบบูรณาการและการมีส่วนร่วมในระดับพื้นที่ ในการยกระดับคุณภาพและประสิทธิภาพของการจัดการศึกษาทุกระดับ ให้สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาของประเทศด้านการศึกษาและการพัฒนาตามบริบทของพื้นที่

“การขับเคลื่อนดำเนินงานในระยะต่อไป สป.ศธ.จำเป็นต้องมีการทบทวน ปรับปรุง ออกแบบแผนการดำเนินงาน กลไก เทคนิค รูปแบบการบริหารจัดการศึกษา รวมทั้งจัดทำชุดโครงการสำคัญ การประเมินผลการปฏิบัติงาน และตัวชี้วัดในแต่ละพันธกิจ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาในระดับภาค กลุ่มจังหวัด และจังหวัด มุ่งเน้นการกระจายอำนาจจากส่วนกลางไปยังระดับพื้นที่ ให้สามารถบริหารจัดการเกี่ยวกับการส่งเสริม สนับสนุน การจัดการศึกษาตามบริบทของพื้นที่นั้น ๆ ให้มากยิ่งขึ้น” ปลัด ศธ. กล่าวและว่า ศธ. ในยุคปัจจุบัน ต้องพยายามผลักดันให้ภาคสังคม ซึ่งหมายรวมถึง พรรคการเมือง ส.ส.ใหม่ เห็นถึงความสำคัญของศธจ. ศธภ. เพราะจะส่งผลต่องบประมาณการจัดการศึกษาที่จะได้รับ ซึ่งหลังจากได้รัฐบาลใหม่ จะต้องมีการปรับเปลี่ยนงบประมาณ ให้เข้ากับนโยบายของรัฐมนตรีว่ากระทรวงศึกษาธิการคนใหม่ รวมถึงต้องเป็นไปตามนโยบายสำคัญของศธ. คือ คุณภาพการศึกษา ที่จะต้องสอดคล้องกับบริบทของพื้นที่ ยกระดับคุณภาพการศึกษาเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนของศธ. ซึ่งตนเน้นย้ำเสมอว่า ทำอย่างไรจึงจะสร้างหลักประกันคุณภาพการศึกษา อย่างครอบคลุมและเท่าเทียม สนับสนุนการเรียนรู้ตลอดชีวิต สอดคล้องกับ ภารกิจของกรมส่งเสริมการเรียนรู้ (สกร.) ด้วย

ดร.อรรถพล กล่าวอีกว่า ขณะนี้ภารกิจการทำงานเปลี่ยนไป การบริหารงานบุคคลถูกโอนกลับไปให้ คณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.) เขตพื้นที่การศึกษา งานของ ศธจ.ต้องเน้นเชิงวิชาการ โดยต้องเป็นโซ่ข้อกลางเชื่อมโยงงานการศึกษาระหว่างศธ.กับจังหวัด รวมถึงต้องให้ความสำคัญกับการพัฒนาการจัดการศึกษา ผลักดันแนวนโยบายให้ไปสู่การปฏิบัติ และต้องเข้าใจด้วยว่า วันนี้โลกไม่เหมือนเดิม มีความผันผวน และเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทุกหน่วยงานจัดการศึกษาโดยบริหารด้วยตัวเลข ทั้งตัวเลขเด็กออกกลางคัน งบประมาณรายหัว ฯลฯ ประกอบกับสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนแปลงไป หลังการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เด็กเรียนรู้ผ่านออนไลน์ เกิดความผันผวนในระบบการศึกษา ตัวเลขผู้สูงวัยเพิ่มขึ้น 12% หรือ 20 กว่าล้านคน ส่งผลในเรื่องการสาธารณสุข งบคนชราสูงขึ้น อาชีพต่าง ๆ เปลี่ยนแปลงไป จึงเป็นหน้าที่ของ ศธ.ต้องไปดูว่า จะจัดการศึกษาให้เหมาะสมกับแต่ละช่วงวัยและบุคคล ซึ่งต้องเป็นการจัดการศึกษาในรูปแบบที่หลากหลาย ศธจ.ต้องมองให้เห็นภาพรวม เพื่อหล่อหลอมเยาวชนให้เป็นคนที่สมบูรณ์

 

ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า การยกระดับคุณภาพการศึกษาเป็นงานสำคัญของ ศธจ. ศธภ.ที่ต้องทำให้คุณภาพการศึกษาของจังหวัดดีขึ้น ในขณะที่งบฯส่วนใหญ่ของศธ. ถูกใช้ไปกับเรื่องการบริหารงานบุคคล ทำให้มีงบฯสำหรับการพัฒนาการจัดการศึกษาจริง ๆ แค่ 10% ซึ่งถือว่าน้อยมาก ดังนั้นจึงต้องพยายามพลิกโฉมการศึกษาของประเทศ หลักสูตรต้องมีการพัฒนาทุกปี การวัดประเมินผลต้องให้สอคล้องเหมาะสมกับบริบทการเรียนการสอน ซึ่งเป็นหน้าที่ของศธจ.ที่ต้องไปดูรายละเอียด รวมถึงจะต้องดูรายงานข้อมูลจากหน่วยงานต่าง ๆ ประกอบการพิจารณา โดยล่าสุด รายงานของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย พบว่า ปีที่ผ่านมา มีการนำเข้าเครื่องจักรแทนแรงงานคน กว่า 30% และภายใน 3 ปีข้างหน้า ภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ มีแนวโน้มจะใช้เครื่องจักรแทนคน เพิ่มขึ้นเป็น 70% ดังนั้น จึงต้องดูข้อมูล เพื่อวิเคราะห์การผลิตกำลังคนเพื่อมาใช้กับเครื่องจักรเหล่านี้ ซึ่งภายใน 3 ปี อาจผลิตคนไม่ทันต่อสถานการณ์ จึงต้องปรับเป็นรูปแบบการอัพสกิล รีสกิล เพื่อผลิตกำลังคน เข้าไปสู่ระบบการทำงาน

ดร.อรรถพล กล่าวด้วยว่า สำหรับ สกร. ซึ่งจัดการศึกษานอกระบบก็จะต้องไปพัฒนาคน เพื่อเข้าสู่ภาคอุตสาหกรรม เพื่อให้การจัดการศึกษาเดินหน้าต่อไปได้ เพราะกำลังคนในยุคต่อไปต้องมีทักษะการทำงานที่ 2 จึงจะรักษาระดับผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ หรือ จีดีพี ในปัจจุบันไว้ได้ รวมถึงจะต้องมีแรงงานที่มีทักษะฝีมือชั้นสูงกว่า 2.5 เท่า ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องที่ต้องบอกสถานศึกษาที่ผลิตกำลังคน ว่า การผลิตแรงงานทักษะ จะทำแบบเดิมไม่ได้แล้ว อีกสิ่งที่ขาดไม่ได้ คือ การดูแลเรื่องความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา โดยเฉพาะกลุ่มผู้พิการ และเด็กยากจน ซึ่งก็เป็นหน้าที่ของ ศธจ.ที่จะต้องเข้าไปดูแลให้เข้าสู่ระบบการจัดการศึกษา เพื่อให้คนกลุ่มนี้มีอาชีพ มีรายได้ดูแลตัวเอง โดย ศธจ.ซึ่งเป็นตัวแทนในส่วนจังหวัด และ ศธภ.ที่เป็นตัวแทนในส่วนของภูมิภาค จะต้องทำงานร่วมกับภาคเอกชน และ อาสาสมัครกระทรวงศึกษาธิการ (อส.ศธ.) ให้องค์ความรู้ในเชิงพื้นที่เพื่อดูแลขับเคลื่อนแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ ซึ่งตนตั้งเป้าว่า จะต้องมี อส.ศธ.หมู่บ้านละ 1 คน แน่นอนว่า ตอนนี้ ยังให้ทำงานในรูปแบบอาสาสมัคร แต่ในอนาคต จะผลักดันให้มีเงินสนับสนุนเช่นเดียวกับ อาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.)

“หากได้รัฐบาลใหม่ อันดับแรก ผมจะเสนอตั้ง ศธภ.เพื่อเติมให้เต็มอีก 5 ตำแหน่งที่ว่าง ให้ครบ 12 ตำแหน่ง ตามอัตราเงินเดือนที่มีอยู่ จากนั้นจะเตรียมข้อมูลเรื่องตำแหน่งบริหารสูง แทนกลุ่มที่กำลังจะเกษียณอายุราชการ และกลุ่มที่ขยับไปเป็น ศธภ. รวมถึงการเตรียมข้อมูลสำหรับกลุ่มบริหารต้นที่ว่างลงจากการเกษียณฯ และตำแหน่งบริหารสูงระดับ 10 เพื่อเสนอให้รมว.ศึกษาธิการคนใหม่ พิจารณา และอยากบอกว่า ทุกคนมีโอกาสที่จะเข้าสู่ตำแหน่งบริหารได้ แต่ขอให้แสดงให้เห็นว่าได้ทำงานเต็มที่ตามความรู้ความสามารถ ที่สำคัญไม่ต้องกังวลเรื่องการใช้เงินซื้อตำแหน่ง โดยเฉพาะผมจะไม่ยุ่งเรื่องผลประโยชน์เพราะอยากเกษียณอย่างมีความสุข” ปลัด ศธ.กล่าว


ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวและอ่านเพิ่มเติมได้จาก FOCUSNEWS วันที่ 15 สิงหาคม 2566 


"อรรถพล" แจงภารกิจ ศธภ.ศธจ.ต้องชัดเจนให้รัฐบาลใหม่เห็นความสำคัญอรรถพลแจงภารกิจศธภ.ศธจ.ต้องชัดเจนให้รัฐบาลใหม่เห็นความสำคัญ

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

:: เรื่องปักหมุด ::

ก.ค.ศ. อนุมัติให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีและเลื่อนเป็นวิทยฐานะเชี่ยวชาญ จำนวน 19 ราย เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2567

ก.ค.ศ. อนุมัติให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีและเลื่อนเป็นวิทยฐานะเชี่ยวชาญ จำนวน 19 ราย เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2567

เปิดอ่าน 9,503 ☕ 26 เม.ย. 2567

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
เปิดเกณฑ์ปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการ 1 พ.ค.67 กลุ่มไหน ได้ปรับเท่าไร
เปิดเกณฑ์ปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการ 1 พ.ค.67 กลุ่มไหน ได้ปรับเท่าไร
เปิดอ่าน 125 ☕ 27 เม.ย. 2567

คืบหน้าแล้ว!โครงการ Anywhere Anytime เรียนดีมีความสุข ระบบคลาวด์ใช้ "จีทูจี"ยกให้กระทรวงEDรับผิดชอบ
คืบหน้าแล้ว!โครงการ Anywhere Anytime เรียนดีมีความสุข ระบบคลาวด์ใช้ "จีทูจี"ยกให้กระทรวงEDรับผิดชอบ
เปิดอ่าน 78 ☕ 27 เม.ย. 2567

ก.ค.ศ. อนุมัติให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีและเลื่อนเป็นวิทยฐานะเชี่ยวชาญ จำนวน 19 ราย เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2567
ก.ค.ศ. อนุมัติให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีและเลื่อนเป็นวิทยฐานะเชี่ยวชาญ จำนวน 19 ราย เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2567
เปิดอ่าน 9,503 ☕ 26 เม.ย. 2567

รายละเอียดการสอบแข่งขันฯ ตำแหน่งครูผู้ช่วย สังกัด สพฐ. ปี พ.ศ. 2567
รายละเอียดการสอบแข่งขันฯ ตำแหน่งครูผู้ช่วย สังกัด สพฐ. ปี พ.ศ. 2567
เปิดอ่าน 1,085 ☕ 26 เม.ย. 2567

สพฐ.แจ้งการสอบแข่งขันฯ ตำแหน่งครูผู้ช่วย สังกัด สพฐ. ปี พ.ศ. 2567 สมัครสอบทางออนไลน์เพียงรูปแบบเดียว
สพฐ.แจ้งการสอบแข่งขันฯ ตำแหน่งครูผู้ช่วย สังกัด สพฐ. ปี พ.ศ. 2567 สมัครสอบทางออนไลน์เพียงรูปแบบเดียว
เปิดอ่าน 1,474 ☕ 25 เม.ย. 2567

ประกาศผลการพิจารณาคัดเลือกโครงงานคุณธรรมเฉลิมพระเกียรติ "เยาวชนไทย ทำดี ถวายในหลวง" ปีที่ 18 ปีการศึกษา 2566 (ระดับประเทศ)
ประกาศผลการพิจารณาคัดเลือกโครงงานคุณธรรมเฉลิมพระเกียรติ "เยาวชนไทย ทำดี ถวายในหลวง" ปีที่ 18 ปีการศึกษา 2566 (ระดับประเทศ)
เปิดอ่าน 809 ☕ 25 เม.ย. 2567

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

กรมอนามัย แนะ "4 ดี เสริม 4 ห้องหัวใจแข็งแรง"
กรมอนามัย แนะ "4 ดี เสริม 4 ห้องหัวใจแข็งแรง"
เปิดอ่าน 894 ครั้ง

ลดความอ้วน ทำได้ ไม่ต้องพึ่งยา
ลดความอ้วน ทำได้ ไม่ต้องพึ่งยา
เปิดอ่าน 12,568 ครั้ง

วัดป่าที่แม่ฮ่องสอนดังทั่วโลก ต่างชาติแห่เรียนสมาธิปีละกว่า 2 พันคน
วัดป่าที่แม่ฮ่องสอนดังทั่วโลก ต่างชาติแห่เรียนสมาธิปีละกว่า 2 พันคน
เปิดอ่าน 14,815 ครั้ง

ขนบธรรมเนียม ประเพณีของชาวสยาม
ขนบธรรมเนียม ประเพณีของชาวสยาม
เปิดอ่าน 22,268 ครั้ง

17 พฤติกรรมบ่งชี้ ออทิสติกในเด็ก
17 พฤติกรรมบ่งชี้ ออทิสติกในเด็ก
เปิดอ่าน 10,360 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ