ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการเรียนรู้ JIRA Model ร่วมกับชุดกิจกรรม เพื่อส่งเสริมความสามารถในการอ่านจับใจความและทักษะการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3

ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการเรียนรู้ JIRA Model ร่วมกับชุดกิจกรรม เพื่อส่งเสริมความสามารถ

ในการอ่านจับใจความและทักษะการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3

ชื่อผู้วิจัย รุจิรา ทุมพิลา

สังกัด โรงเรียนเทศบาล 4 (รัตนโกสินทร์ 200 ปี)

ปีการศึกษา 2562

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้เป็นการพัฒนารูปแบบการเรียนรู้ JIRA Model ร่วมกับชุดกิจกรรม เพื่อส่งเสริมความสามารถในการอ่านจับใจความและทักษะการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาข้อมูลพื้นฐานและความต้องการในการพัฒนารูปแบบ 2) พัฒนาและหาประสิทธิภาพรูปแบบการเรียนรู้ JIRA Model ร่วมกับชุดกิจกรรม เพื่อส่งเสริมความสามารถในการอ่านจับใจความและทักษะการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 3) ทดลองใช้รูปแบบการเรียนรู้ JIRA Model ร่วมกับชุดกิจกรรม เพื่อส่งเสริมความสามารถในการอ่านจับใจความและทักษะการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 และ 4) ประเมินผลและปรับปรุงรูปแบบการเรียนรู้ JIRA Model ร่วมกับชุดกิจกรรม เพื่อส่งเสริมความสามารถในการอ่านจับใจความและทักษะการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล 4 (รัตนโกสินทร์ 200 ปี) สังกัดสำนักการศึกษา เทศบาลเมืองนครนพม จำนวน 1 ห้องเรียน ที่กำลังศึกษาอยู่ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2562 จำนวนนักเรียนทั้งหมด 32 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยในการสุ่ม เครื่องมือที่ผู้วิจัย สร้างขึ้นเพื่อใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ประกอบด้วย 1) เครื่องมือที่ใช้ศึกษาข้อมูลพื้นฐาน ได้แก่ แบบสัมภาษณ์ 2) รูปแบบการเรียนรู้ JIRA Model ร่วมกับชุดกิจกรรม เพื่อส่งเสริมความสามารถในการอ่านจับใจความและทักษะการคิดวิเคราะห์ 3) แบบทดสอบวัดความสามารถในการอ่านจับใจความ 4) แบบทดสอบวัดความสามารถในการคิดวิเคราะห์ และ 5) แบบสำรวจความพึงพอใจ วิเคราะห์ข้อมูลโดยการใช้ค่าสถิติร้อยละ ค่าเฉลี่ย ( ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) ทดสอบสมมติฐานโดยใช้ค่าทีและวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis) แล้วนำเสนอแบบพรรณนาความ

ผลการศึกษาพบว่า

1. ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐานและการศึกษาสภาพและปัญหาการจัดการเรียนการสอนภาษาไทยของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ผลการวิเคราะห์หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 และหลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนเทศบาล 4 (รัตนโกสินทร์ 200 ปี) กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย มีขั้นตอนต่อไปนี้ ขั้นที่ 1 ขั้นนำเสนอบทเรียนทั้งชั้นเรียน (Joy the Lesson : J) ขั้นที่ 2 ขั้นปฏิบัติกิจกรรมกลุ่ม (In Group Activity : I) ขั้นที่ 3 ขั้นสรุปทบทวนและประเมินผล (Review and Evaluation : R) และขั้นที่ 4 ขั้นยกย่องผลงาน (Admiration : A)

2. ผลการพัฒนารูปแบบการเรียนรู้ JIRA Model ร่วมกับชุดกิจกรรม เพื่อส่งเสริมความสามารถในการอ่านจับใจความและทักษะการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 พบว่า ผลการทดสอบระหว่างเรียน (E1) มีคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 83.67 และผลการทดสอบหลังเรียน (E2) มีคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 81.33 แสดงว่า ประสิทธิภาพ 83.67/81.33 สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนด 80/80

3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการเรียนรู้ JIRA Model ร่วมกับชุดกิจกรรม เพื่อส่งเสริมความสามารถในการอ่านจับใจความและทักษะการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 32 คน ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2562 โรงเรียนเทศบาล 4 (รัตนโกสินทร์ 200 ปี) ระยะเวลาในการทดลองจำนวน 15 ชั่วโมง จำนวน 7 แผนการจัดการเรียนรู้ สำหรับการทดลองนั้นผู้วิจัยเป็นผู้ดำเนินการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนด้วยตนเองในแต่ละแผนการเรียนรู้ ซึ่งเมื่อนักเรียนได้ฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ ให้ความสนใจในการเรียนรู้และฝึกการทำกิจกรรมบ่อยครั้ง จึงทำให้บรรยากาศในชั้นเรียนเป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ระดับความสามารถในการเรียนรู้ของนักเรียนจึงสูงขึ้น

4. ผลการประเมินและปรับปรุงรูปแบบการเรียนรู้ JIRA Model ร่วมกับชุดกิจกรรม เพื่อส่งเสริมความสามารถในการอ่านจับใจความและทักษะการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีดังนี้

ผลทดสอบวัดความสามารถในการคิดวิเคราะห์หลังเรียนด้วยรูปแบบการเรียนรู้ JIRA Model ร่วมกับชุดกิจกรรม เพื่อส่งเสริมความสามารถในการอ่านจับใจความและทักษะการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 พบว่า นักเรียนมีคะแนนเฉลี่ยจากการทำแบบทดสอบ 16.19 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 80.95

ผลการศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการเรียนรู้ JIRA Model ร่วมกับ ชุดกิจกรรม เพื่อส่งเสริมความสามารถในการอ่านจับใจความและทักษะการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 พบว่า ความพึงพอใจ โดยภาพรวมอยู่ในระดับดี เมื่อพิจารณาเป็น รายด้านพบว่า นักเรียนเห็นด้วยในระดับดีในทุกด้าน และให้นักเรียนเขียนแสดงความพึงพอใจเกี่ยวกับการใช้รูปแบบ หลังสิ้นสุดการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ พบว่า ความพึงพอใจนักเรียนชอบรูปแบบที่มีเนื้อหาไม่ยากจนเกินไป สามารถทำกิจกรรมได้ถูกต้องได้มากขึ้น เข้าใจง่าย เหมาะสมกับระดับความสามารถของนักเรียนบรรยากาศในชั้นเรียนสนุกสนาน

ผลจากการนำไปใช้ได้ทำการปรับปรุงการพิมพ์สะกดคำ ให้ถูกต้อง ชัดเจน มีภาพประกอบเนื้อหามากขึ้น ปรับปรุงให้เนื้อหามีความกระชับมากยิ่งขึ้น ปรับปรุงระยะเวลาที่ใช้ ในการจัดกิจกรรมให้เหมาะสมกับเนื้อหามากยิ่งขึ้น

โพสต์โดย องค์ชาย : [17 ก.พ. 2565 เวลา 08:18 น.]
อ่าน [1873] ไอพี : 1.0.138.62
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 14,113 ครั้ง
ADSL ทำงานอย่างไร?
ADSL ทำงานอย่างไร?

เปิดอ่าน 825 ครั้ง
ผลวิจัยชี้การมีกิจกรรมทางกายทั้งวันธรรมดาและวันหยุด ช่วยลดการเจ็บป่วยโรคหัวใจและสมอง มากถึงร้อยละ 38
ผลวิจัยชี้การมีกิจกรรมทางกายทั้งวันธรรมดาและวันหยุด ช่วยลดการเจ็บป่วยโรคหัวใจและสมอง มากถึงร้อยละ 38

เปิดอ่าน 19,826 ครั้ง
รู้หรือไม่ ที่ฟินแลนด์ ยกระดับการศึกษา ต้องเริ่มที่พัฒนาครูผู้สอน
รู้หรือไม่ ที่ฟินแลนด์ ยกระดับการศึกษา ต้องเริ่มที่พัฒนาครูผู้สอน

เปิดอ่าน 20,887 ครั้ง
จิงจูฉ่าย สุดยอดสมุนไพรจีนบำรุงเลือดลม
จิงจูฉ่าย สุดยอดสมุนไพรจีนบำรุงเลือดลม

เปิดอ่าน 2,526 ครั้ง
"ยางอินเดีย" ไม้มงคลยอดฮิต ปลูกประดับบ้าน
"ยางอินเดีย" ไม้มงคลยอดฮิต ปลูกประดับบ้าน

เปิดอ่าน 8,918 ครั้ง
องค์กรของคุณใช้เครื่องมืออัตโนมัติด้านไอทีที่เหมาะสมหรือไม่
องค์กรของคุณใช้เครื่องมืออัตโนมัติด้านไอทีที่เหมาะสมหรือไม่

เปิดอ่าน 19,955 ครั้ง
การประดับพระบรมฉายาลักษณ์
การประดับพระบรมฉายาลักษณ์

เปิดอ่าน 11,416 ครั้ง
ทีลอซู น้ำตกในฝัน ของนักผจญภัย
ทีลอซู น้ำตกในฝัน ของนักผจญภัย

เปิดอ่าน 10,604 ครั้ง
หนุ่มๆ ควรเลือกใส่สีเสื้อ สีไหนดี?
หนุ่มๆ ควรเลือกใส่สีเสื้อ สีไหนดี?

เปิดอ่าน 32,048 ครั้ง
ตำนานกระต่ายในดวงจันทร์
ตำนานกระต่ายในดวงจันทร์

เปิดอ่าน 10,747 ครั้ง
ดูแลสมอง ให้แจ๋วเสมอ
ดูแลสมอง ให้แจ๋วเสมอ

เปิดอ่าน 9,681 ครั้ง
ชื่นชมลูก ช่วยพัฒนา
ชื่นชมลูก ช่วยพัฒนา

เปิดอ่าน 13,034 ครั้ง
บำรุงเลือดลม ช่วยย่อยอาหาร
บำรุงเลือดลม ช่วยย่อยอาหาร

เปิดอ่าน 33,423 ครั้ง
เดินหน้าปฏิรูปครู พฤติกรรมการสอนของ ครู 59
เดินหน้าปฏิรูปครู พฤติกรรมการสอนของ ครู 59

เปิดอ่าน 15,701 ครั้ง
รวมรายชื่อสถานศึกษาที่ได้รับรางวัลพระราชทาน ปีการศึกษา 2507 ถึง 2557
รวมรายชื่อสถานศึกษาที่ได้รับรางวัลพระราชทาน ปีการศึกษา 2507 ถึง 2557

เปิดอ่าน 22,052 ครั้ง
พระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ.2560
พระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ.2560
เปิดอ่าน 13,027 ครั้ง
กรุงเทพฯ กับ บางกอก
กรุงเทพฯ กับ บางกอก
เปิดอ่าน 16,087 ครั้ง
10 ข้อดี ฝึกโยคะตอนเช้า
10 ข้อดี ฝึกโยคะตอนเช้า
เปิดอ่าน 12,937 ครั้ง
ซีร็อกมาจากคำว่าอะไร
ซีร็อกมาจากคำว่าอะไร
เปิดอ่าน 29,624 ครั้ง
การปฏิรูปการศึกษา การศึกษายุค 4.0 : โดย ประเสริฐ ตันสกุล
การปฏิรูปการศึกษา การศึกษายุค 4.0 : โดย ประเสริฐ ตันสกุล

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ