ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รายงานการประเมินโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนบ้านทุ่งสวน

บทสรุปผู้บริหาร

การประเมินโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนบ้านทุ่งสวน มีวัตถุประสงค์เพื่อ

1) เพื่อประเมินด้านบริบท (Context Evaluation) โครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนบ้านทุ่งสวน 2) เพื่อประเมินด้านปัจจัยนำเข้า (Input Evaluation) โครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนบ้านทุ่งสวน 3) เพื่อประเมินด้านกระบวนการ (Process Evaluation) โครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนบ้านทุ่งสวน 4) เพื่อประเมินด้านผลผลิต (Product Evaluation) โครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนบ้านทุ่งสวน

กลุ่มตัวอย่าง ในการประเมินโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนบ้านทุ่งสวน

ครั้งนี้ ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษา ครูประจำการ บุคลากรทางการศึกษา ผู้ปกครองนักเรียน และนักเรียน โรงเรียนบ้านทุ่งสวน ปีการศึกษา 2564 สุ่มตัวอย่างโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive sample) ได้กลุ่มตัวอย่าง ดังนี้ ผู้บริหารสถานศึกษา จำนวน 1 คน ครูประจำการ จำนวน 5 คน บุคลากรทางการศึกษา จำนวน 6 คน ผู้ปกครองนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 - 6 จำนวน 50 คน นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 12 คน นักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 14 คน นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 14 คน นักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 10 คน รวม 112 คน ปีการศึกษา 2564 สุ่มตัวอย่างโดย การเลือกแบบเจาะจง (Purposive sample) เครื่องมือที่ใช้ในการรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบสอบถามความคิดเห็นต่อการดำเนินโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนบ้านทุ่งสวน เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) ชนิด 5 ระดับ ตามวิธีของ ลิเคิร์ท (Likert) จำนวน 7 ชุด สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูลทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถามโดยใช้สถิติร้อยละ วิเคราะห์ข้อมูลความคิดเห็นของผู้ตอบแบบสอบถามต่อโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนบ้านทุ่งสวน โดยใช้ ค่าเฉลี่ย ( ) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.)

สรุปผลการประเมิน

การประเมินโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนบ้านทุ่งสวน สรุปผลการประเมินได้ ดังนี้

1. ความคิดเห็นของผู้บริหารสถานศึกษา ครูประจำการ และบุคคลากรทางการศึกษาที่มีต่อ

การประเมินโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนบ้านทุ่งสวน โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.51, S.D. = 0.52) ผ่านเกณฑ์ประเมิน เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านทุกด้านผ่านเกณฑ์ประเมิน ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดเรียงจากมากไปหาน้อย พบว่า ด้านผลผลิต ( = 4.55, S.D. = 0.51) เป็นอันดับแรก ด้านบริบท ( = 4.54, S.D. = 0.51) เป็นอันดับรองลงมา ด้านปัจจัยนำเข้า ( = 4.50, S.D. = 0.52) และ ด้านกระบวนการ ( = 4.45, S.D. = 0.54) ตามลำดับ มีรายละเอียดแต่ละด้าน ดังนี้

1.1 ด้านบริบท ผู้บริหารสถานศึกษา ครูประจำการ และบุคคลากรทางการศึกษา มีความคิดเห็นต่อการดำเนินงานโครงการระบบดูช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนบ้านทุ่งสวน โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.54, S.D. = 0.51) ข้อที่มีค่าเฉลี่ยความคิดสูงอยู่ในสามอันดับแรก ตามระดับความคิดเห็นค่าเฉลี่ย ได้แก่ วัตถุประสงค์ของโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนสอดคล้องกับสภาพของชุมชน และบริบทของโรงเรียน ( = 4.83, S.D. = 0.83) เป็นอันดับแรก รองลงมา ผู้บริหารมีแผนปฏิบัติการที่ระบุโครงการ กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับระบบการดูแลช่วยเหลือ นักเรียน การเสริมสร้างทักษะชีวิตและการคุ้มครองนักเรียน ( = 4.75, S.D. = 0.45) และ ครู และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการดำเนินโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน มีเวลาในการดำเนินงานตามโครงการ มีระดับความคิดเห็นค่าเฉลี่ย ( = 4.66, S.D. = 0.49) เป็นอันดับที่สาม ส่วนความคิดในข้ออื่นๆ มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากขึ้นไปและผ่านเกณฑ์การประเมินทุกข้อ

1.2 ด้านปัจจัยนำเข้า ความคิดเห็นของผู้บริหารสถานศึกษา ครูประจำการ และบุคลากรทางการศึกษาที่มีต่อการดำเนินงานโครงการระบบดูช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนบ้านทุ่งสวน ในด้านปัจจัยนำเข้า โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.50, S.D. = 0.52) เมื่อพิจารณาความคิดเห็นตามค่าเฉลี่ยระดับความคิดเห็นเรียงจากมากไปหาน้อย ด้านวัสดุอุปกรณ์/เครื่องมือเครื่องใช้ในการดำเนินโครงการ ( = 4.59, S.D. = 0.52) เป็นอันดับแรกด้านบุคลากรระดับความคิดเห็นมีค่าเฉลี่ย ( = 4.51, S.D. = 0.51) เป็นอันดับสอง และด้านงบประมาณ ระดับความคิดเห็นมีค่าเฉลี่ย ( = 4.41, S.D. = 0.54) เมื่อพิจารณาระดับความคิดเห็นเป็นรายข้อทุกข้อมีระดับความคิดเห็นอยู่ในระดับมากขึ้นไป ผ่านเกณฑ์ประเมิน ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงอยู่ใน สามอันดับแรกเรียงจากมากไปหาน้อย ได้แก่ โรงเรียนมีคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานเกี่ยวกับระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน การเสริมสร้างทักษะชีวิตและการคุ้มครองนักเรียนที่ชัดเจน ระดับความคิดเห็นมากที่สุด ( = 4.91, S.D. = 0.28) เป็นอันดับแรก รองลงมา อุปกรณ์เพียงพอต่อการดำเนินกิจกรรมตามโครงการและอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ ( = 4.83, S.D. = 0.38) และ โรงเรียนมีการประชาสัมพันธ์ เผยแพร่ข้อมูล การดำเนินโครงการในหลากหลายช่องทาง ( = 4.75, S.D. = 0.45) เป็นอันดับที่สาม ส่วนความคิดในข้ออื่นๆ มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากขึ้นไปและผ่านเกณฑ์การประเมินทุกข้อ

1.3 ด้านกระบวนการ ความคิดเห็นของผู้บริหารสถานศึกษา ครูประจำการ และบุคลากรทางการศึกษา ที่มีต่อการดำเนินงานโครงการระบบดูช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนบ้านทุ่งสวน โดยรวมอยู่ในระดับมาก ( = 4.45, S.D. = 0.54) เมื่อพิจารณาค่าเฉลี่ยระดับความคิดเห็นเรียงจากมากไปหาน้อย ด้านการบริหารจัดการ ( = 4.50, S.D. = 0.58) และ ด้านการรู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคลมีค่าเฉลี่ย ( = 4.50, S.D. = 0.53) เป็นอันดับแรก รองลงมา ด้านการส่งเสริมและพัฒนานักเรียนมีค่าเฉลี่ย ( = 4.49, S.D. = 0.52) ด้านการคัดกรองนักเรียน ( = 4.45, S.D. = 0.55) ด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหา ( = 4.44, S.D. = 0.53 ) ด้านการส่งต่อ ( = 4.34, S.D. = 0.53) ตามลำดับ เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ ทุกข้อมีระดับความคิดเห็นอยู่ในระดับมากขึ้นไป ผ่านเกณฑ์ประเมิน ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงอยู่ใน สามอันดับแรก เรียงจากมากไปหาน้อย ได้แก่ โรงเรียนจัดทำข้อมูลพื้นฐานนักเรียนเป็นรายบุคคลโดยแยกด้านความสามารถ ด้านสุขภาพ ด้านครอบครัว ด้านสารเสพติด ด้านความปลอดภัยพฤติกรรมทางเพศไว้อย่างชัดเจน และโรงเรียนจัดกิจกรรมโฮมรูม ( = 4.83, S.D. = 0.38) เป็นอันดับแรก รองลงมา โรงเรียนจัดกิจกรรมเพื่อนช่วยเพื่อนทบทวนการเรียนในวิชาต่าง ๆ ( = 4.75, S.D. = 0.45) และ ผู้บริหาร พัฒนาให้ครูประจำชั้นและบุคลากรที่เกี่ยวข้องได้รับการพัฒนาความรู้ ความสามารถ ในการดำเนินงานตามแผนของระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน ( = 4.66, S.D. = 0.49) โรงเรียนมีการใช้ระเบียนสะสมและผลการประเมินพฤติกรรมเด็ก (SDQ) และผลการศึกษานักเรียนในวิธีการอื่นๆ หรือการคัดกรองนักเรียน ( = 4.66, S.D.= 0.47) โรงเรียนส่งเสริมให้นักเรียนมีสัมพันธภาพที่ดีกับผู้อื่น การรู้จัก ควบคุมตนเองและเสริมสร้างทักษะการใช้ชีวิต ( = 4.66, S.D. = 0.49) เป็นอันดับที่สาม ส่วนความคิดในข้ออื่นๆ มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากขึ้นไปและผ่านเกณฑ์การประเมินทุกข้อ

ด้านความคิดเห็นของนักเรียนโรงเรียนบ้านทุ่งสวนมีความคิดเห็นต่อโครงการระบบดูช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนบ้านทุ่งสวนด้านกระบวนการ ระดับความคิดเห็น โดยรวมอยู่ในระดับมาก ( = 4.46, S.D.=0.57) เมื่อพิจารณาตามค่าเฉลี่ยระดับความคิดเห็นเรียงจากมากไปหาน้อย ด้านการคัดกรองนักเรียน ระดับความคิดเห็นมีค่าเฉลี่ย ( = 4.55, S.D. = 0.56) เป็นอันดับแรก รองลงมา ด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหา มีค่าเฉลี่ย ( = 4.51, S.D. = 0.56) ด้านการรู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคลมีค่าเฉลี่ย ( = 4.50, S.D. = 0.55) ด้านการส่งต่อมีค่าเฉลี่ย ( = 4.42, S.D. = 0.56) ด้านการบริหารจัดการ ( = 4.40, S.D. = 0.59) และ ด้านการส่งเสริมและพัฒนานักเรียนมีค่าเฉลี่ย

( = 4.37, S.D. = 0.59) ตามลำดับ เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ ทุกข้อมีระดับความคิดเห็นอยู่ในระดับมากขึ้นไป ผ่านเกณฑ์ประเมิน ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงอยู่ใน สามอันดับแรก เรียงจากมากไปหาน้อย ได้แก่ โรงเรียนใช้แบบประเมินพฤติกรรมเด็ก (SDQ) และแบบประเมินความฉลาดทางอารมณ์ (EQ) มีค่าเฉลี่ย ( = 4.86, S.D. = 0.35) เป็นอันดับแรก รองลงมา โรงเรียนมีการสำรวจความต้องการของนักเรียนในการจัด กิจกรรมมีค่าเฉลี่ย ( = 4.80, S.D. = 0.40) และ โรงเรียนออกเยี่ยมบ้านนักเรียนมีค่าเฉลี่ย ( = 4.78, S.D. = 0.41) ส่วนความคิดในข้ออื่นๆ มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากขึ้นไปและผ่านเกณฑ์การประเมินทุกข้อ

1.4 ด้านผลผลิต ผู้บริหารสถานศึกษา ครูประจำการ และบุคลากรทางการศึกษา มีความคิดเห็นต่อโครงการระบบดูช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนบ้านทุ่งสวน ด้านผลผลิต โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.45, S.D. = 0.54) เมื่อพิจารณาตามค่าเฉลี่ยระดับความคิดเห็นเรียงจากมากไปหาน้อย ด้านความสามารถของนักเรียน ( = 4.68, S.D. = 0.51) เป็นอันดับแรก ด้านคุณลักษณะของนักเรียน ( = 4.61, S.D. = 0.51) ด้านการปกป้องตนเอง มีค่าเฉลี่ย ( = 4.48, S.D. = 0.52) ด้านครอบครัวและความเป็นอยู่ ( = 4.41, S.D. = 0.50) ตามลำดับ เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อทุกข้อมีระดับความคิดเห็นอยู่ในระดับมากขึ้นไป ผ่านเกณฑ์ประเมิน ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงอยู่ใน สามอันดับแรก เรียงจากมากไปหาน้อย ได้แก่ นักเรียนมีวินัยในตนเองและมีความรับผิดชอบต่อครอบตัวและผู้อื่น ( = 4.91, S.D. = 0.28) เป็นอันดับแรก รองลงมา นักเรียนได้แสดงออกและเข้าร่วมกิจกรรมตามความสามารถ ความถนัด ความสนใจของตัวเอง ( = 4.83, S.D. = 0.38) และนักเรียนสามารถหลีกเลี่ยงและป้องกันตนเองให้พ้นภัยจากสิ่งเสพติด และการถูกหลอกลวงมีค่าเฉลี่ย ( = 4.75,

S.D. = 0.45) เป็นอันดับที่สาม

ด้านนักเรียนมีความคิดเห็นต่อโครงการระบบดูช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนบ้านทุ่งสวน ด้านผลผลิต โดยรวมอยู่ในระดับมาก ( = 4.49, S.D. = 0.59) เมื่อพิจารณาตามค่าเฉลี่ยระดับความคิดเห็นเรียงจากมากไปหาน้อย ด้านการปกป้องตนเอง ( = 4.59, S.D. = 0.56) เป็นอันดับแรก ด้านคุณลักษณะของนักเรียน ( = 4.47, S.D. = 0.60) เป็นอันดับรองลงมา ด้านครอบครัวและความเป็นอยู่ ( = 4.46, S.D. = 0.61) ด้านความสามารถของนักเรียน ( = 4.43, S.D. = 0.59) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ ทุกข้อมีระดับความคิดเห็นอยู่ในระดับมากขึ้นไป ผ่านเกณฑ์ประเมิน ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงอยู่ใน สามอันดับแรก เรียงจากมากไปหาน้อย ได้แก่ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนสูงขึ้นและผ่านเกณฑ์การประเมินของโรงเรียน ( = 4.82, S.D. = 0.38) เป็นอันดับแรก รองลงมา นักเรียนไม่ลองไม่เสพยาเสพติดไม่ยุ่งเกี่ยวเพื่อหาผลประโยชน์กับยาเสพติด ( = 4.80, S.D. = 0.40) นักเรียนสามารถทำความดีเพื่อตนเองครอบครัว ญาติพี่น้องของตนเองได้ ( = 4.78,S.D. = 0.41) เป็นอันดับที่สาม ส่วนความคิดในข้ออื่นๆ มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากขึ้นไปและผ่านเกณฑ์การประเมินทุกข้อ

ด้านผู้ปกครองนักเรียน มีความคิดเห็นต่อโครงการระบบดูช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนบ้านทุ่งสวน ด้านผลผลิต โดยรวมอยู่ในระดับมาก ( = 4.46, S.D. = 0.57) เมื่อพิจารณาตามค่าเฉลี่ยระดับความคิดเห็นเรียงจากมากไปหาน้อย ด้านการปกป้องตนเอง ( = 4.59, S.D. = 0.54) เป็นอันดับแรก ด้านครอบครัวและความเป็นอยู่ ( = 4.45, S.D. = 0.55) ด้านความสามารถของนักเรียน ( = 4.40, S.D. = 0.54) และด้านคุณลักษณะของนักเรียน ( = 4.39, S.D. = 0.69) ตามลำดับ เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ ทุกข้อมีระดับความคิดเห็นอยู่ในระดับมากขึ้นไป ผ่านเกณฑ์ประเมิน ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงอยู่ใน สามอันดับแรก เรียงจากมากไปหาน้อย ได้แก่ นักเรียนรับฟังและปฏิบัติตามคำสอน คำแนะนำ ของผู้ปกครอง ( = 4.84, S.D. = 0.37) เป็นอันดับแรก รองลงมา ด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนสูงขึ้น และผ่านเกณฑ์การประเมินของโรงเรียน ( = 4.82, S.D. = 0.38) และนักเรียนสามารถหลีกเลี่ยงการเสพยาเสพติดจากการพูดล่อลวงของผู้อื่นได้

( = 4.78, S.D. = 0.37) เป็นอันดับที่สาม

โพสต์โดย Worachit : [11 ม.ค. 2566 เวลา 11:11 น.]
อ่าน [1768] ไอพี : 49.237.20.164
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 10,214 ครั้ง
หมู่บ้านอยู่แล้วรวยตามฮวงจุ้ย
หมู่บ้านอยู่แล้วรวยตามฮวงจุ้ย

เปิดอ่าน 13,237 ครั้ง
สีบนจอภาพคอมพิวเตอร์
สีบนจอภาพคอมพิวเตอร์

เปิดอ่าน 14,532 ครั้ง
วิธีสังเกตยาที่เสื่อมคุณภาพ
วิธีสังเกตยาที่เสื่อมคุณภาพ

เปิดอ่าน 12,500 ครั้ง
ประเภทของเครื่องปรับอากาศ และวิธีใช้อย่างประหยัด
ประเภทของเครื่องปรับอากาศ และวิธีใช้อย่างประหยัด

เปิดอ่าน 15,724 ครั้ง
สุขภาพปากและฟันกับโรคหัวใจ
สุขภาพปากและฟันกับโรคหัวใจ

เปิดอ่าน 14,472 ครั้ง
ที่แท้ ซีอิ๊ว ก็มีต้นกำเนิดจากน้ำปลาบ้านเรานี่เอง
ที่แท้ ซีอิ๊ว ก็มีต้นกำเนิดจากน้ำปลาบ้านเรานี่เอง

เปิดอ่าน 34,822 ครั้ง
ซื้อรถปี 2559 ราคาแพงขึ้นเท่าไหร่ คลิกอ่าน?
ซื้อรถปี 2559 ราคาแพงขึ้นเท่าไหร่ คลิกอ่าน?

เปิดอ่าน 15,020 ครั้ง
วันข้าราชการพลเรือน 1 เมษายน
วันข้าราชการพลเรือน 1 เมษายน

เปิดอ่าน 12,081 ครั้ง
ปัจจัยฉุดรั้งการศึกษา (1)
ปัจจัยฉุดรั้งการศึกษา (1)

เปิดอ่าน 26,706 ครั้ง
การเรียนการสอนทางไกลแบบปฏิสัมพันธ์
การเรียนการสอนทางไกลแบบปฏิสัมพันธ์

เปิดอ่าน 11,782 ครั้ง
ว.วชิรเมธี – มาร์ค ผู้ใช้ภาษาไทยดีเด่น ปี 2553
ว.วชิรเมธี – มาร์ค ผู้ใช้ภาษาไทยดีเด่น ปี 2553

เปิดอ่าน 17,510 ครั้ง
กฏ ก.ค.ศ. ว่าด้วยการสั่งให้ข้าราชการครูฯออกจากราชการกรณีไม่สามารถปฏิบัติราชการให้มีประสิทธิภาพ
กฏ ก.ค.ศ. ว่าด้วยการสั่งให้ข้าราชการครูฯออกจากราชการกรณีไม่สามารถปฏิบัติราชการให้มีประสิทธิภาพ

เปิดอ่าน 9,490 ครั้ง
ดวงตา กับพัฒนาการของลูกน้อย
ดวงตา กับพัฒนาการของลูกน้อย

เปิดอ่าน 11,782 ครั้ง
7 วิธีใช้คอมพิวเตอร์ แบบทำร้ายตัวเอง
7 วิธีใช้คอมพิวเตอร์ แบบทำร้ายตัวเอง

เปิดอ่าน 13,744 ครั้ง
ชมคลิป น้องปุ๊ กุลปรียา นักเรียนบุรีรัมย์ โชว์เล่านิทานไข่ทองคำยุคอาเซียน
ชมคลิป น้องปุ๊ กุลปรียา นักเรียนบุรีรัมย์ โชว์เล่านิทานไข่ทองคำยุคอาเซียน

เปิดอ่าน 9,661 ครั้ง
สามเณรน้อย ท่องบทธัมมจักกัปปวัตตนสูตรคล่องมาก ทึ่งสวดมนต์ตั้งแต่ยังอ่านไม่ออก
สามเณรน้อย ท่องบทธัมมจักกัปปวัตตนสูตรคล่องมาก ทึ่งสวดมนต์ตั้งแต่ยังอ่านไม่ออก
เปิดอ่าน 12,581 ครั้ง
เสริมสุขภาพลูกน้อยให้ได้ผลด้วย ผลไม้
เสริมสุขภาพลูกน้อยให้ได้ผลด้วย ผลไม้
เปิดอ่าน 23,738 ครั้ง
เคล็ดลับๆก่อนอาบน้ำ
เคล็ดลับๆก่อนอาบน้ำ
เปิดอ่าน 34,254 ครั้ง
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 15 การเตะโทษ ณ จุดโทษ
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 15 การเตะโทษ ณ จุดโทษ
เปิดอ่าน 15,665 ครั้ง
Gen Y วายร้ายจริงหรือ (จบ)
Gen Y วายร้ายจริงหรือ (จบ)

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ