Advertisement
นอกจากวิตามินและแร่ธาตุแล้ว ในผลไม้ยังมีสารแอนตี้ออกซิแดนท์ ที่ช่วยบำรุงสมองและทำให้ระบบประสาททำงานได้ดี สามารถสั่งงานให้ร่างกายส่วนต่าง ๆ ทำงานได้อย่างปกติ ป้องกันมะเร็ง นอกจากนี้ความหวานของผลไม้ยังช่วยให้ร่างกายรู้สึกสดชื่น แบบไม่มีพลังงานเหลือเกินความจำเป็น เพราะเป็นความหวานที่ได้จากน้ำตาลฟลุกโตสซึ่งให้พลังงานน้อย และทำให้เกิดฟันผุได้น้อยกว่าความหวานจากขนมต่าง ๆ ด้วย วิตามินและแร่ธาตุตัวสำคัญที่มีในผลไม้ เช่น
วิตามินซี ช่วยให้เซลล์ของร่างกายมีความยืดหยุ่นดี กระตุ้นการทำงานของระบบภูมิต้านทานของร่างกาย
โพแทสเซียม ช่วยการเปลี่ยนแปลงแป้งและน้ำตาล และการส่งสัญญาณประสาท
ทองแดง ช่วยการทำงานของเนื้อเยื่อประสาท การส่งผ่านสัญญาณประสาท
แมกนีเซียม เสริมพลังให้กระดูกและฟัน
ผลไม้...ผู้ช่วยเพื่อนผัก
ผลไม้เป็นคู่หูที่มาคู่กับผักเสมอ ด้วยเพราะคุณสมบัติที่คล้ายคลึงกัน แต่ผลไม้ก็มีข้อได้เปรียบตรงที่มีรสชาติหวานชวนกิน สีสันชวนมอง เป็นที่ถูกใจเด็กๆ ผลไม้จึงเป็นตัวสำรองที่โดนใจคุณแม่ ซึ่งกำลังหนักใจกับปัญหาไม่ยอมหม่ำผักของลูกเป็นที่สุดค่ะ
แต่ถึงอย่างนั้นเด็กบางคนก็อาจเบ้ปากปฏิเสธผลไม้ได้เหมือนกันค่ะ ถ้าไม่ได้รับการปลูกฝังให้กินเป็นนิสัย หรือเริ่มต้นให้หม่ำแบบไม่ถูกต้อง เช่น เปลี่ยนชนิดผลไม้เร็วเกินไปเมื่อเริ่มให้กินผลไม้ใหม่ๆ เลือกผลไม้ที่ไม่ถูกใจลูกเท่าไหร่ ไม่มีแบบอย่างของการกินผลไม้ในบ้าน หรือให้ขนมหวานจนลูกติดใจรสชาติขนมอื่นไปเสียแล้ว เป็นต้น
ฝึกน้องน้อยหม่ำผลไม้
เริ่มจากให้ทีละชนิด จะได้เรียนรู้รสชาติของผลไม้แต่ละอย่างที่แตกต่าง
ให้หม่ำเป็นชิ้น(ขนาดพอคำ) เพราะจะได้เส้นใยจากผลไม้มากกว่าปั่นเป็นน้ำ เริ่มให้หม่ำได้ตั้งแต่ลูกเริ่มมีฟันหรือประมาณ 7-8 เดือนไปแล้ว
เริ่มจากชนิดที่มีเนื้อนิ่ม ยุ่ย เคี้ยวง่าย เช่น มะละกอสุก กล้วยสุก มะม่วงสุก เป็นต้น
ให้ครั้งละน้อย ๆ ก่อน แล้วค่อย ๆ เพิ่มปริมาณขึ้น
สลับ ชนิดผลไม้และหน้าตาให้หลากหลาย (ถ้าลูกมีผลไม้โปรดในใจไม่กี่ชนิด วิธีหลังนี่ยิ่งต้องทำ) หรืออาจดัดแปลงเป็นอาหารชนิดอื่นบ้าง เช่น แต่งหน้าไอศครีม หม่ำคู่กับเยลลี่หรือเค้ก พาย นำไปเชื่อม ลอยแก้ว เป็นต้น
จัดผลไม้เป็นอาหารว่างเจ้าประจำ (ทุกวัน) ของลูกตั้งแต่เล็กๆ อย่างน้อยวันละ 1 ชนิด
แบบนี้สิครบคุณค่า
ไม่ควรซื้อผลไม้เก็บไว้กินเป็นสัปดาห์ แต่ควรซื้อผลไม้สดใหม่ติดบ้านเสมอ
ผลไม้ที่สุกจนงอมปริมาณวิตามินจะลดลง เช่นเดียวกับผลไม้ที่ปอกทิ้งไว้นาน ๆ แต่ถ้าจะหั่นผลไม้เป็นชิ้นเตรียมไว้ในตู้เย็น ควรแยกชนิดเก็บใส่กล่อง เพราะถ้าเก็บรวมกัน แก๊สที่เกิดจากการสุกของผลไม้บางชนิดโดยเฉพาะกล้วย จะไปเร่งให้ผลไม้ชนิดอื่น ๆ เน่าเสียได้ง่ายขึ้น
ไม่ควรให้ผลไม้ที่เริ่มช้ำหรือเน่าให้ลูกกิน แม้ว่าคุณจะตัดส่วนนั้นทิ้งไปแล้วก็ตาม
ผลไม้ที่ผ่านการถนอมอาหารหรือกรรมวิธีการปรุง ปริมาณสารอาหารจะลดลง ดังนั้นเพื่อให้ได้ประโยชน์แบบเต็ม ๆ ควรกินผลไม้สด
น้ำผลไม้สามารถเก็บในตู้เย็นได้นาน 6-8 ชม. แต่ถ้าจะให้ได้คุณค่าอาหารครบ ควรดื่มหลังจากคั้นเสร็จใหม่ๆ ส่วนน้ำผลไม้สำเร็จรูป ควรเลือกที่ฉลากระบุว่าน้ำผลไม้ 100 % ดีกว่าแบบที่ระบุว่าเครื่องดื่มรสผลไม้ ซึ่งมีแต่น้ำผสมน้ำตาล แต่งกลิ่นผลไม้ และสีสังเคราะห์
ขอบคุณที่มาจาก http://www.momypedia.com/
ไฟโซล่าเซลล์ สปอร์ตไลท์ led Solar light ไฟโซล่า ไฟ solar cell IP67 กันน้ำและป้องกันฟ้าผ่ 10000W รับประกัน30ปี
฿199 - ฿1,358https://s.shopee.co.th/6pmJMLjlQH?share_channel_code=6
Advertisement
 เปิดอ่าน 14,689 ครั้ง  เปิดอ่าน 23,456 ครั้ง  เปิดอ่าน 10,569 ครั้ง  เปิดอ่าน 30,421 ครั้ง  เปิดอ่าน 1,463 ครั้ง  เปิดอ่าน 15,827 ครั้ง  เปิดอ่าน 65,017 ครั้ง  เปิดอ่าน 16,599 ครั้ง  เปิดอ่าน 2,367 ครั้ง  เปิดอ่าน 13,532 ครั้ง  เปิดอ่าน 16,492 ครั้ง  เปิดอ่าน 23,395 ครั้ง  เปิดอ่าน 27,044 ครั้ง  เปิดอ่าน 9,371 ครั้ง  เปิดอ่าน 64,930 ครั้ง  เปิดอ่าน 17,581 ครั้ง
|

เปิดอ่าน 15,569 ☕ คลิกอ่านเลย |

เปิดอ่าน 15,207 ☕ คลิกอ่านเลย | 
เปิดอ่าน 14,485 ☕ คลิกอ่านเลย | 
เปิดอ่าน 11,657 ☕ คลิกอ่านเลย | 
เปิดอ่าน 24,314 ☕ คลิกอ่านเลย | 
เปิดอ่าน 11,441 ☕ คลิกอ่านเลย | 
เปิดอ่าน 2,035 ☕ คลิกอ่านเลย |
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ 
เปิดอ่าน 33,691 ครั้ง | 
เปิดอ่าน 11,096 ครั้ง | 
เปิดอ่าน 13,828 ครั้ง | ![คู่มือสำหรับประชาชน [ทุกกระทรวง] คู่มือสำหรับประชาชน [ทุกกระทรวง]](news_pic/p58820220641.jpg)
เปิดอ่าน 11,894 ครั้ง | 
เปิดอ่าน 11,631 ครั้ง |
|
|