|
|
ชื่อเรื่อง รายงานการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวคิดสะเต็มศึกษาเพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหา สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3
ผู้วิจัย นางสาวจตุพร วิริยานุภาพ
ปีที่ทำการวิจัย 2561
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวคิดสะเต็มศึกษา เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหา สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 และ 2) ศึกษาดัชนีประสิทธิผลของชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวคิด สะเต็มศึกษา เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหา สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 และ 3) เปรียบเทียบความสามารถในการแก้ปัญหาของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 ก่อนและหลังการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวคิดสะเต็มศึกษา เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหา
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ เด็กอนุบาลปีที่ 3/2 โรงเรียนเทศบาล ๑ วัดเทียนดัด (นครผลพิทยาคาร) ตำบลบ้านใหม่ อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561 จำนวน 28 คน ได้มาโดยการเลือกแบบแบ่งกลุ่ม (Cluster Random Sampling) โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยในการสุ่ม เนื่องจากมีการจัดห้องเรียนแบบคละความสามารถ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ 1) ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวคิดสะเต็มศึกษาเพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหาสำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 จำนวน 9 ชุด 2) แผนการจัดประสบการณ์ประกอบการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวคิดสะเต็มศึกษาเพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหา สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 จำนวน 27 แผน และ 3) แบบทดสอบความสามารถในการคิดแก้ปัญหา จำนวน 10 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และเปรียบเทียบโดยใช้สถิติ t - test
ผลการวิจัย พบว่า
1. ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวคิดสะเต็มศึกษา เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหา สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 มีประสิทธิภาพ 81.75/83.70 เป็นไปตามเกณฑ์ 80/80
2. ดัชนีประสิทธิผลของชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวคิดสะเต็มศึกษา เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหา สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 มีค่า เท่ากับ 0.6752 แสดงว่านักเรียนมีความสามารถในการแก้ปัญหาสูงขึ้น คิดเป็นร้อยละ 67.52
3. ความสามารถในการแก้ปัญหาของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 หลังการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวคิดสะเต็มศึกษา เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหา สูงกว่าก่อนใช้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
|
โพสต์โดย โย : [30 พ.ค. 2562 เวลา 10:40 น.] อ่าน [2010] ไอพี : 125.24.12.44
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 47,461 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 19,536 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 17,570 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 13,328 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 12,884 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 49,366 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 6,754 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 57,999 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 16,570 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 26,963 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 8,431 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 26,439 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 9,311 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 15,058 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 27,712 ครั้ง 
| |
|
เปิดอ่าน 11,638 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 33,862 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 8,109 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 51,662 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 11,853 ครั้ง 
|
|

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|