ชื่อเรื่อง รูปแบบการพัฒนาการบริหารงานวิชาการโดยใช้กระบวนการนิเทศภายในเชิงระบบ

ร่วมกับการทำงานเป็นทีมระหว่างผู้บริหารสถานศึกษากับครู

ของโรงเรียนเทศบาลวัดประชุมคงคาราม

ผู้วิจัย นายสมเกียรติ ลือกิจ

โรงเรียน เทศบาลวัดประชุมคงคาราม เทศบาลเมืองหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์

กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย

ปีที่วิจัย 2561

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ คือ (1) เพื่อศึกษาสภาพที่เคยเป็นมา สภาพปัจจุบัน สภาพปัญหา สภาพที่คาดหวัง ทางเลือกเพื่อการแก้ปัญหาหรือบรรลุสภาพที่คาดหวัง ในการพัฒนาการบริหารงานวิชาการ ของโรงเรียนเทศบาลวัดประชุมคงคาราม การเลือกทางเลือกเพื่อการปฏิบัติ และปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นจากการนำทางเลือกไปปฏิบัติที่มีการใช้กระบวนการนิเทศภายในเชิงระบบร่วมกับการทำงานเป็นทีม ระหว่างผู้บริหารสถานศึกษากับครู มาเป็นตัวสอดแทรก และใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม และ (2) เพื่อศึกษาสภาพการเปลี่ยนแปลงและการเรียนรู้ที่เกิดขึ้นทั้งในระดับตัวบุคคล กลุ่มบุคคลและโรงเรียน และองค์ความรู้ที่เกิดขึ้น จากการนำเอากระบวนการนิเทศภายในเชิงระบบร่วมกับการทำงานเป็นทีมระหว่างผู้บริหารสถานศึกษากับครู มาเป็นตัวสอดแทรก เพื่อพัฒนางานวิชาการของโรงเรียนเทศบาลวัดประชุมคงคาราม ด้วยกระบวนการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม การศึกษาครั้งนี้ เป็นกรณีศึกษาของโรงเรียนเทศบาลวัดประชุมคงคาราม เป็นโรงเรียนที่มีความเหมาะสมและมีความเป็นไปได้ ในการที่ผู้วิจัยจะเข้าไปปฏิบัติงานภาคสนาม เนื่องจากผู้วิจัยดำรงตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษา และบุคลากรประสงค์ที่จะร่วมพัฒนางานด้านวิชาการด้วยระเบียบวิธีวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม การพัฒนางานวิชาการ จำกัดขอบเขตอยู่ในเกณฑ์ที่ผู้วิจัยและผู้ร่วมวิจัยเป็นผู้กำหนดขึ้น หรือตกลงใช้มาตรฐานของหน่วยงานภาครัฐเป็นเกณฑ์ในการประเมินคุณภาพงานวิชาการ อิงตามกรอบนโยบายของสถานศึกษาสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ ระยะเวลาในการวิจัย กำหนดตามวงจรการปฏิบัติงาน ปีการศึกษา 2561 ระหว่างวันที่ 1 พฤษภาคม 2561 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2562 จากการบริหารงานวิชาการ โดยใช้กระบวนการนิเทศภายในเชิงระบบ ร่วมกับการทำงานเป็นทีมระหว่างผู้บริหารสถานศึกษากับครูของโรงเรียนเทศบาลวัดประชุมคงคาราม 2 วงจร 10 ขั้นตอน

ผลการวิจัยพบว่า กระบวนการนิเทศภายในเชิงระบบร่วมกับการทำงานเป็นทีมระหว่างผู้บริหารสถานศึกษาและครู เป็นตัวสอดแทรกและในกรณีที่เกี่ยวกับ “การวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม” นั้น มีองค์ประกอบที่สำคัญดังนี้คือ 1) โครงสร้างการบริหารและจัดการงานวิชาการด้วยการทำงานเป็นทีมระหว่างผู้บริหารสถานศึกษาและครู 2) ใช้กระบวนการนิเทศภายในเชิงระบบร่วมกับการทำงานเป็นทีมระหว่างผู้บริหารสถานศึกษาและครูที่มีประสิทธิผล 7 ประการ (MITIMAI) ดังนี้ สร้างแรงจูงใจ (Motivation) ให้งานสำคัญ (Important work) ความไว้วางใจกัน (Trust) มีความเป็นอิสระ (Independent) สนับสนุนปัจจัย (Material) ให้การยอมรับ (Acceptation) และการป้อนกลับข้อมูลข่าวสาร (Information) 3) การกำหนดบทบาทหน้าที่ของผู้เกี่ยวข้อง 4) การคำนึงถึงหลักการ 10 จรรยาบรรณ 10 และบทบาท 10 ประการของผู้วิจัยในการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม เป็นพื้นฐาน และ 5) มีขั้นตอนย่อยการดำเนินงานในแต่ละขั้นตอน 9 ขั้นตอน ได้ข้อสรุปที่เรียกว่า “กรอบการปฏิบัติการบริหารงานวิชาการโดยใช้กระบวนการนิเทศภายในเชิงระบบร่วมกับการทำงานเป็นทีมระหว่างผู้บริหารสถานศึกษาและครู : องค์ความรู้ที่ได้จากการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม

คำสำคัญ : รูปแบบการบริหารงานวิชาการ, การวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม, กระบวนการนิเทศภายในเชิงระบบ, การทำงานเป็นทีม

เว็บน่าสนใจ