ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างค่านิยมความเป็นพลเมืองดี รายวิชาเพิ่มเติม หน้าที่พลเมือง ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างค่านิยมความเป็นพลเมืองดี รายวิชาเพิ่มเติม หน้าที่พลเมือง ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

ผู้วิจัย นายเจษฎา สินมาก

ปีที่ศึกษา 2561

บทคัดย่อ

การพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างค่านิยมความเป็นพลเมืองดี รายวิชาเพิ่มเติม หน้าที่พลเมือง ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีวัตถุประสงค์ดังนี้(1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานและความต้องการพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างค่านิยมความเป็นพลเมืองดี รายวิชาเพิ่มเติม หน้าที่พลเมือง ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 (2) เพื่อสร้างและพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างค่านิยมความเป็นพลเมืองดี รายวิชาเพิ่มเติม หน้าที่พลเมือง ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 (3) เพื่อศึกษาผลการใช้รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เพื่อเสริมสร้างค่านิยมความเป็นพลเมืองดี รายวิชาเพิ่มเติม หน้าที่พลเมืองของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ก่อนและหลังใช้รูปแบบ และ (4) เพื่อประเมินรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างค่านิยมความเป็นพลเมืองดี รายวิชาเพิ่มเติม หน้าที่พลเมือง ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ใช้กระบวนการวิจัยและพัฒนา โดยเริ่มจากขั้นตอนที่ 1 วิจัย (Research : R1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐาน ปัญหาที่เกิดขึ้นหรือการประเมินความต้องการจำเป็นในการพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้และผู้ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งการศึกษาแนวคิด ทฤษฎี ผลการวิจัย การวิเคราะห์เอกสารต่าง ๆ แล้วนำผลที่ได้จากการวิเคราะห์มาสังเคราะห์ไปสู่ขั้นตอนที่ 2 พัฒนา (Develop : D1) คือ การออกแบบและพัฒนานวัตกรรมการศึกษา โดยนำผลจากขั้นตอนที่ 1 (Research : R1) มาพัฒนานวัตกรรม ทำให้นวัตกรรมที่พัฒนาขึ้นสามารถตอบสนองความต้องการของกลุ่มตัวอย่าง และในขั้นพัฒนา (Develop : D1) นี้ต้องพัฒนานวัตกรรมให้มีคุณภาพและประสิทธิภาพก่อน แล้วจึงไปขั้นที่ 3 วิจัย (Research : R2) โดยนำนวัตกรรมไปใช้จริงกับกลุ่มตัวอย่าง ในขั้นตอนนี้มีการประเมินระหว่างใช้และเมื่อใช้แล้วดำเนินการในขั้นตอนที่ 4 พัฒนา (Develop : D2) โดยประเมินประสิทธิผลของรูปแบบกลุ่มตัวอย่างได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 /6 โรงเรียนเทศบาลบ้านบางเหนียว สังกัดเทศบาลนครภูเก็ต ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561จำนวน 35คน ได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (ClusterRandom Sampling)โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยการสุ่มเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย1) รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างค่านิยมความเป็นพลเมืองดี รายวิชาเพิ่มเติม หน้าที่พลเมือง ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จำนวน 50 ข้อ3) แบบประเมินรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างค่านิยมความเป็นพลเมืองดี รายวิชาเพิ่มเติม หน้าที่พลเมือง ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 4) แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างค่านิยมความเป็นพลเมืองดี รายวิชาเพิ่มเติม หน้าที่พลเมือง ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 5) แบบประเมินพฤติกรรมของนักเรียนด้านค่านิยมความเป็นพลเมืองดีและ 6) แบบประเมินรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ประกอบด้วยค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและค่า t - test

ผลการวิจัยพบว่า

1. ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการจัดการเรียนการสอน พบว่า 1) ครูสอนแบบบรรยายไม่ยึดผู้เรียนเป็นสำคัญ 2) นักเรียนขาดทักษะความสามารถในการคิดวิเคราะห์ ทำให้มีผลสัมฤทธิ์ต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนด 3) สื่อ/แหล่งเรียนรู้นำมาใช้น้อยมากและไม่ตรงกับสภาพปัญหาที่เกิดขึ้น 4) นักเรียนไม่สนใจเรียน 5) นโยบายของเทศบาลและโรงเรียนที่มุ่งพัฒนาผู้เรียนสู่ความเป็นเลิศ 6) การพัฒนาทักษะกระบวนการกลุ่มมีน้อยมาก 7) การพัฒนานักเรียนด้านคุณลักษณะหรือค่านิยมที่ดีขาดความจริงจัง และผลการศึกษาความต้องการในการพัฒนารูปแบบโดยครูและผู้เชี่ยวชาญ พบว่า 1) ต้องการให้ครูผู้สอนได้พัฒนารูปแบบการสอนที่เน้นการพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ ให้มีความรู้คู่คุณธรรม 2) ครูควรใช้คำถามเพื่อกระตุ้นให้นักเรียนเกิดการคิดให้มากหรือสามารถสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง 3) ใช้สื่อและการวัดและประเมินผลที่หลากหลาย และ 4) ให้เน้นกระบวนการกลุ่มร่วมมือกันเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ นอกจากนี้การประเมินผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาระดับชาติอยู่ในระดับต่ำ ปัจจัยสำคัญหนึ่งคือวิธีการสอนหรือวิธีการจัดการเรียนรู้ สอนให้ผู้เรียนมีความสามารถในการเรียนรู้ ไม่ใช่สอนให้ผู้เรียนท่องและจำแต่เพียงเนื้อหา ให้ผู้เรียนคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์และประเมิน สามารถนำไปใช้ในสถานการณ์อื่น ๆ ได้ และจากการสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญการสอนสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรมอย่างไม่เป็นทางการ เกี่ยวกับปัญหาที่พบในการเรียนการสอน คือความพร้อมของผู้เรียน อันเกิดจากการสอนของครูที่เป็นเพียงการบอกให้จดจำและเลียนแบบเท่านั้น ทำให้นักเรียนไม่มีโอกาสฝึกใช้ความสามารถในการเรียนรู้ ไม่สามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้อย่างต่อเนื่องเชื่อมโยงกันได้ ควรมุ่งเน้นให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ด้วยความเข้าใจสนุกกับการเรียน ตามแนวคิดการจัดการศึกษาที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญหรือแนวคิดตามสภาพจริง เพราะเป็นการจัดการเรียนการสอนที่ช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ โดยการให้ผู้เรียนเข้าไปเผชิญปัญหาในสภาพจริงหรือสถานการณ์จำลอง เช่น บทบาทสมมติ แล้วร่วมกันศึกษาเรียนรู้แก้ไขปัญหานั้น ในการพัฒนารูปแบบการสอนจึงต้องกำหนดจุดมุ่งหมายให้ชัดเจน และนำสื่อมาใช้ในลักษณะของสื่อประสม เพื่อให้ผู้เรียนมีความสามารถในการเรียนรู้ ดังนั้นในการพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เพื่อเสริมสร้างค่านิยมความเป็นพลเมืองดี ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้กระบวนการวิจัยแบบผสมผสานวิธีทั้งเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ

2. ผลการสร้างและพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างค่านิยมความเป็นพลเมืองดี รายวิชาเพิ่มเติม หน้าที่พลเมือง ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6ประกอบด้วยองค์ประกอบ5 ขั้นตอน คือ 1) ขั้นกระตุ้นความสนใจ 2) ขั้นมีวินัยร่วมเรียนรู้ 3) ขั้นนำเสนอคู่บทบาทสมมติ 4) ขั้นสรุปข้อคิดอภิปรายผล และ 5) ขั้นชื่นชมนำไปใช้

3. ผลการศึกษาผลการใช้รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างค่านิยมความเป็นพลเมืองดี รายวิชาเพิ่มเติม หน้าที่พลเมือง ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ก่อนและหลังใช้รูปแบบ มีดังนี้

3.1พฤติกรรมของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ด้านการเสริมสร้างค่านิยมความเป็นพลเมืองดี ตามรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างค่านิยมความเป็นพลเมืองดีมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 2.58 คิดเป็นร้อยละ 85.92 นั่นคือ ผ่านเกณฑ์ระดับคุณภาพ 3 (ดีเยี่ยม)

3.2 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โดยใช้รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เพื่อเสริมสร้างค่านิยมความเป็นพลเมืองดี ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 หลังใช้รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้สูงกว่าก่อนใช้รูปแบบอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01

4. ผลการประเมินรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เพื่อเสริมสร้างค่านิยมความเป็นพลเมืองดี ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยผู้เชี่ยวชาญ มีความคิดเห็นโดยรวมอยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.29

โพสต์โดย ญาสุมินท์ สิริทัตนนท์ : [28 ส.ค. 2562 เวลา 16:05 น.]
อ่าน [3319] ไอพี : 159.192.216.19
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 12,269 ครั้ง
ทดลองวิทยาศาสตร์ หน้าชั้นเรียน ทำเอารร.แทบไหม้
ทดลองวิทยาศาสตร์ หน้าชั้นเรียน ทำเอารร.แทบไหม้

เปิดอ่าน 10,596 ครั้ง
วิธีลดลอยแผลขรุขระบนใบหน้า
วิธีลดลอยแผลขรุขระบนใบหน้า

เปิดอ่าน 11,579 ครั้ง
7 ตัวช่วยลดริ้วรอยแห่งวัย คืนความอ่อนเยาว์ให้ผิวอีกครั้ง
7 ตัวช่วยลดริ้วรอยแห่งวัย คืนความอ่อนเยาว์ให้ผิวอีกครั้ง

เปิดอ่าน 20,188 ครั้ง
คุณครูหายไปไหนครับ?
คุณครูหายไปไหนครับ?

เปิดอ่าน 17,662 ครั้ง
การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อการปฏิรูปการเรียนการสอน
การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อการปฏิรูปการเรียนการสอน

เปิดอ่าน 18,317 ครั้ง
การสื่อสารของแมลง : การเต้นรำของผึ้ง
การสื่อสารของแมลง : การเต้นรำของผึ้ง

เปิดอ่าน 16,935 ครั้ง
11 เว็บไซต์เรียนภาษาสุดเจ๋ง ที่คนอยากเก่งอังกฤษไม่ควรพลาด!
11 เว็บไซต์เรียนภาษาสุดเจ๋ง ที่คนอยากเก่งอังกฤษไม่ควรพลาด!

เปิดอ่าน 14,825 ครั้ง
ไขปริศนา! น้ำดื่มมีวันหมดอายุด้วยหรือ
ไขปริศนา! น้ำดื่มมีวันหมดอายุด้วยหรือ

เปิดอ่าน 16,853 ครั้ง
นักวิจัยไทย พบแมลงใหม่ 3 ชนิด "สมเด็จพระเทพฯ" พระราชทานนาม
นักวิจัยไทย พบแมลงใหม่ 3 ชนิด "สมเด็จพระเทพฯ" พระราชทานนาม

เปิดอ่าน 8,572 ครั้ง
การปฏิรูปการศึกษาอย่าทำแบบปะผุ...ต้องปรับทั้งระบบ
การปฏิรูปการศึกษาอย่าทำแบบปะผุ...ต้องปรับทั้งระบบ

เปิดอ่าน 1,712 ครั้ง
วันไหว้ครู ที่มาและความสำคัญของวันไหว้ครู และพิธีปฏิบัติ
วันไหว้ครู ที่มาและความสำคัญของวันไหว้ครู และพิธีปฏิบัติ

เปิดอ่าน 16,604 ครั้ง
ดื่มนม ยืดอายุ
ดื่มนม ยืดอายุ

เปิดอ่าน 49,354 ครั้ง
รวมคำสั่ง RUN ที่จำเป็นต้องใช้
รวมคำสั่ง RUN ที่จำเป็นต้องใช้

เปิดอ่าน 20,512 ครั้ง
เสริมดวงชะตาให้ดี ด้วยการเสริมฮวงจุ้ยประตูบ้าน
เสริมดวงชะตาให้ดี ด้วยการเสริมฮวงจุ้ยประตูบ้าน

เปิดอ่าน 18,297 ครั้ง
อหิวาตกโรค (Cholera)
อหิวาตกโรค (Cholera)

เปิดอ่าน 21,801 ครั้ง
ยุบ สพฐ. จัดตั้งของใหม่ คิดกันดีแล้วเหรอ?? ไม่เหนื่อยต่อการพายเรือในอ่างหรือ?!
ยุบ สพฐ. จัดตั้งของใหม่ คิดกันดีแล้วเหรอ?? ไม่เหนื่อยต่อการพายเรือในอ่างหรือ?!
เปิดอ่าน 25,629 ครั้ง
รอบรู้เรื่องการเผาผลาญพลังงานในร่างกาย
รอบรู้เรื่องการเผาผลาญพลังงานในร่างกาย
เปิดอ่าน 12,611 ครั้ง
กิจกรรมวันสงกรานต์
กิจกรรมวันสงกรานต์
เปิดอ่าน 4,263 ครั้ง
การดูแล "มะยงชิด-มะปรางหวาน" เริ่มออกดอก
การดูแล "มะยงชิด-มะปรางหวาน" เริ่มออกดอก
เปิดอ่าน 77,489 ครั้ง
กาลามสูตร
กาลามสูตร

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ