ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

การพัฒนารูปแบบการเรียนรู้

ชื่องานวิจัย การพัฒนารูปแบบการเรียนรู้ เพื่อเสริมสร้างทักษะพื้นฐานกีฬาเซปักตะกร้อ

กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2

โดยใช้แนวคิดของซิมพ์ซัน (Simpson) ร่วมกับแบบฝึกทักษะภาคปฏิบัติ

ชื่อผู้วิจัย นายณัฐพงศ์ ไชยยศ

ปีที่วิจัย 2560 – 2561

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้ เป็นการพัฒนารูปแบบการเรียนรู้ เพื่อเสริมสร้างทักษะพื้นฐานกีฬาเซปักตะกร้อ

กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยใช้แนวคิดของซิมพ์ซัน (Simpson) ร่วมกับแบบฝึกทักษะภาคปฏิบัติ โดยมีความมุ่งหมาย1)เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการเสริมสร้างทักษะพื้นฐานกีฬาเซปักตะกร้อ กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 2) เพื่อพัฒนารูปแบบการเรียนรู้ เพื่อเสริมสร้างทักษะพื้นฐานกีฬาเซปักตะกร้อ กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยใช้แนวคิดของซิมพ์ซัน (Simpson) ร่วมกับแบบฝึกทักษะภาคปฏิบัติ 3) เพื่อศึกษาผลการใช้รูปแบบการเรียนรู้ เพื่อเสริมสร้างทักษะพื้นฐานกีฬาเซปักตะกร้อ กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยใช้แนวคิดของซิมพ์ซัน (Simpson) ร่วมกับแบบฝึกทักษะภาคปฏิบัติ 4) เพื่อประเมินผลการใช้รูปแบบ การเรียนรู้ เพื่อเสริมสร้างทักษะพื้นฐานกีฬาเซปักตะกร้อ กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยใช้แนวคิดของซิมพ์ซัน (Simpson) ร่วมกับแบบฝึกทักษะภาคปฏิบัติ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาวิจัยนี้คือ ระยะที่ 1 คือ ครูผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 สังกัดสำนักการศึกษา เทศบาลเมืองร้อยเอ็ด กรมส่งเสริม การปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย ปีการศึกษา 2560 จำนวน 8 คน ซึ่งได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) ระยะที่ 2 คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/1 โรงเรียนเทศบาลวัดเวฬุวัน สำนักการศึกษา เทศบาลเมืองร้อยเอ็ด กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 29 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) ระยะที่ 3 และระยะที่ 4 คือนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/1 โรงเรียนเทศบาลวัดเวฬุวัน สำนักการศึกษา เทศบาล เมืองร้อยเอ็ด กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561 จำนวน 31 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) การดำเนินการวิจัยมี 4 ระยะ ประกอบด้วย ระยะที่ 1 การศึกษาและวิเคราะห์ สภาพปัจจุบันและข้อมูลพื้นฐานในการเสริมสร้างทักษะพื้นฐานกีฬาเซปักตะกร้อ กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ระยะที่ 2 การพัฒนารูปแบบการเรียนรู้ เพื่อเสริมสร้างทักษะพื้นฐานกีฬาเซปักตะกร้อ กลุ่มสาระ การเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยใช้แนวคิดของซิมพ์ซัน (Simpson) ร่วมกับแบบฝึกทักษะภาคปฏิบัติ ระยะที่ 3 การศึกษาผลการใช้รูปแบบการเรียนรู้ เพื่อเสริมสร้างทักษะพื้นฐานกีฬาเซปักตะกร้อ กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยใช้แนวคิดของซิมพ์ซัน (Simpson) ร่วมกับแบบฝึกทักษะภาคปฏิบัติ ระยะที่ 4 การประเมินผลการใช้รูปแบบการเรียนรู้ เพื่อเสริมสร้างทักษะพื้นฐานกีฬาเซปักตะกร้อ กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยใช้แนวคิดของซิมพ์ซัน (Simpson) ร่วมกับแบบฝึกทักษะภาคปฏิบัติ

ผลการวิจัยพบว่า

1. การศึกษาและวิเคราะห์ สภาพปัจจุบันและข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนาทักษะพื้นฐานกีฬาเซปักตะกร้อ กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 พบว่า มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก สิ่งที่ครูประสบปัญหาในการจัดกิจกรรม คือ ครูยังขาดรูปแบบ สื่อ นวัตกรรม และวิธีการที่หลากหลายในการเสริมสร้างทักษะพื้นฐานกีฬาเซปักตะกร้อ

2. การพัฒนารูปแบบการเรียนรู้ เพื่อเสริมสร้างทักษะพื้นฐานกีฬาเซปักตะกร้อ กลุ่มสาระ การเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยใช้แนวคิดของซิมพ์ซัน (Simpson) ร่วมกับแบบฝึกทักษะภาคปฏิบัติพบว่า องค์ประกอบของรูปแบบการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างทักษะพื้นฐานกีฬาเซปักตะกร้อ กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยใช้แนวคิดของซิมพ์ซัน (Simpson) ร่วมกับแบบฝึกทักษะภาคปฏิบัติ มีองค์ประกอบหลัก 4 องค์ประกอบ คือ1) แนวคิดและทฤษฎีพื้นฐาน 2) ขั้นตอนการจัดการเรียนรู้ 3) วัตถุประสงค์ และ 4) การจัดสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ โดยมีขั้นตอนการจัดการเรียนรู้มี 7 ขั้นตอน ประกอบด้วย 1) ขั้นรับรู้ 2) ขั้นเตรียมความพร้อม 3) ขั้นสนองตอบภายใต้การควบคุม 4) ขั้นลงมือกระทำ 5) ขั้นกระทำอย่างชำนาญ 6) ขั้นปรับปรุงและประยุกต์ใช้ และ 7) ขั้นคิดริเริ่ม โดยผู้เชี่ยวชาญประเมินความเหมาะสมในระดับมาก และมีประสิทธิภาพ เท่ากับ 82.93/83.45 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้

3. การศึกษาผลการใช้รูปแบบการเรียนรู้ เพื่อเสริมสร้างทักษะพื้นฐานกีฬาเซปักตะกร้อ กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยใช้แนวคิดของซิมพ์ซัน (Simpson) ร่วมกับแบบฝึกทักษะภาคปฏิบัติ พบว่า นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีคะแนนเฉลี่ยหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

4. การประเมินผลการใช้รูปแบบการเรียนรู้ เพื่อเสริมสร้างทักษะพื้นฐานกีฬาเซปักตะกร้อ กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยใช้แนวคิดของซิมพ์ซัน (Simpson) ร่วมกับแบบฝึกทักษะภาคปฏิบัติ พบว่า ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ หลังใช้รูปแบบการเรียนรู้ เพื่อเสริมสร้างทักษะพื้นฐานกีฬาเซปักตะกร้อ กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 อยู่ในระดับมาก

โพสต์โดย ครูท็อป : [31 ส.ค. 2562 เวลา 15:05 น.]
อ่าน [67064] ไอพี : 223.206.233.147
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 2,121 ครั้ง
เก่งอย่างเดียวไม่พอ ต้องเพิ่ม Multi-skill ให้ตัวเองด้วย
เก่งอย่างเดียวไม่พอ ต้องเพิ่ม Multi-skill ให้ตัวเองด้วย

เปิดอ่าน 11,751 ครั้ง
5 สูตรสวยด้วยเกลือ
5 สูตรสวยด้วยเกลือ

เปิดอ่าน 16,627 ครั้ง
วิธีสร้างคันกระสอบทรายให้แข็งแรง
วิธีสร้างคันกระสอบทรายให้แข็งแรง

เปิดอ่าน 37,332 ครั้ง
โฉมใหม่ หอพัก สกสค. "บ้านหลังที่สองของครู"
โฉมใหม่ หอพัก สกสค. "บ้านหลังที่สองของครู"

เปิดอ่าน 17,982 ครั้ง
ลายมือนักธุรกิจเงินล้าน
ลายมือนักธุรกิจเงินล้าน

เปิดอ่าน 3,333 ครั้ง
การปลูกกล้วยหอมทอง
การปลูกกล้วยหอมทอง

เปิดอ่าน 19,096 ครั้ง
วันออกพรรษา
วันออกพรรษา

เปิดอ่าน 9,412 ครั้ง
บทบาทผู้นำองค์กร 2020
บทบาทผู้นำองค์กร 2020

เปิดอ่าน 3,945 ครั้ง
แนะนำแนวทางสำหรับครูรุ่นใหม่ ในการเตรียมเด็กสอบ TGAT
แนะนำแนวทางสำหรับครูรุ่นใหม่ ในการเตรียมเด็กสอบ TGAT

เปิดอ่าน 21,742 ครั้ง
ไม่อยากเสียเงินฟรี ต้องอ่าน ก่อนติดฟิล์มกระจกบ้านต้องรู้อะไรบ้าง
ไม่อยากเสียเงินฟรี ต้องอ่าน ก่อนติดฟิล์มกระจกบ้านต้องรู้อะไรบ้าง

เปิดอ่าน 12,309 ครั้ง
วันอาสาฬหบูชา
วันอาสาฬหบูชา

เปิดอ่าน 1,100 ครั้ง
5 เหตุผลที่ธุรกิจควรเลือกใช้แผ่น PVC sheets แทนวัสดุแบบเดิม
5 เหตุผลที่ธุรกิจควรเลือกใช้แผ่น PVC sheets แทนวัสดุแบบเดิม

เปิดอ่าน 841 ครั้ง
4 ข้อควรรู้ก่อนทำการลดหย่อนภาษีซื้อบ้านหลังแรก
4 ข้อควรรู้ก่อนทำการลดหย่อนภาษีซื้อบ้านหลังแรก

เปิดอ่าน 20,493 ครั้ง
แช่น้ำอุ่นก่อนนอนทำให้หลับลึก
แช่น้ำอุ่นก่อนนอนทำให้หลับลึก

เปิดอ่าน 955 ครั้ง
Backlink คืออะไร ? ปัจจัยสำคัญที่คนทำ SEO ไม่ควรมองข้าม
Backlink คืออะไร ? ปัจจัยสำคัญที่คนทำ SEO ไม่ควรมองข้าม

เปิดอ่าน 79,269 ครั้ง
26 มิถุนายน "วันสุนทรภู่"
26 มิถุนายน "วันสุนทรภู่"
เปิดอ่าน 13,432 ครั้ง
ดิจิตอลอีสาน...ใบลานอิเลคทรอนิกส์
ดิจิตอลอีสาน...ใบลานอิเลคทรอนิกส์
เปิดอ่าน 382,632 ครั้ง
คำศัพท์ที่มีการใช้มากที่สุดในภาษาอังกฤษ 500 อันดับแรก
คำศัพท์ที่มีการใช้มากที่สุดในภาษาอังกฤษ 500 อันดับแรก
เปิดอ่าน 8,354 ครั้ง
เปิด 10 ธุรกิจเด่นปี59 สุขภาพและความงามยังครองแชมป์
เปิด 10 ธุรกิจเด่นปี59 สุขภาพและความงามยังครองแชมป์
เปิดอ่าน 27,528 ครั้ง
จะยกคุณภาพ..การศึกษา ต้องพัฒนา "ครู"
จะยกคุณภาพ..การศึกษา ต้องพัฒนา "ครู"

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ