ชื่อผู้รายงาน นางสาวนุรฮายาตี เจ๊ะอารง

ปีการศึกษา 2562

การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ (1) เพื่อหาประสิทธิภาพของกิจกรรมเสริมประสบการณ์การประกอบอาหาร ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 (2) เพื่อเปรียบเทียบพฤติกรรมทางสังคมของนักเรียนชั้นอนุบาลศึกษาปีที่ 3 ระหว่างก่อนกับหลังการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์การประกอบอาหาร (3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นอนุบาลศึกษาปีที่ 3 ที่มีต่อการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์การประกอบอาหาร กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นอนุบาลศึกษาปีที่ 3/2 ที่กำลังศึกษาอยู่ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2562 ของโรงเรียนบ้านเจาะเกาะ จำนวน 17 คน โดยดำเนินการทดลองเป็นระยะเวลา 8 สัปดาห์ เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ คือ กิจกรรมเสริมประสบการณ์การประกอบอาหาร จำนวน 24 กิจกรรม แผนการจัดเสริมประสบการณ์การประกอบอาหาร จำนวน 24 กิจกรรม แบบทดสอบวัดพฤติกรรมทางสังคม แบบบันทึกพฤติกรรมทางสังคม และแบบประเมินความพึงพอใจที่มีต่อกิจกรรมเสริมประสบการณ์การประกอบอาหาร สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ร้อยละ (%) ค่าเฉลี่ย ( ) และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.)

ผลการศึกษาพบว่า (1) ประสิทธิภาพของกิจกรรมเสริมประสบการณ์การประกอบอาหารมีประสิทธิภาพ (E1/E2) เท่ากับ 85.85/81.56 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ 80/80 (2) ผลการเปรียบเทียบพฤติกรรมทางสังคมของนักเรียนชั้นอนุบาลศึกษาปีที่ 3 ระหว่างก่อนกับหลังการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์การประกอบอาหาร ปรากฏว่าการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์การประกอบอาหารของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 มีพฤติกรรมทางสังคมสูงขึ้นก่อนการจัดกิจกรรมอย่างชัดเจน (3) ผลการศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นอนุบาลศึกษาปีที่ 3 ที่มีต่อการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์การประกอบอาหาร ปรากฏว่านักเรียนชั้นอนุบาลศึกษาปีที่ 3 มีค่าเฉลี่ยระดับความพึงพอใจโดยรวมทั้ง 8 สัปดาห์ (µ) มีค่าเท่ากับ 2.96 อยู่ในระดับความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก

เว็บน่าสนใจ