การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ของการศึกษา คือ1) เพื่อพัฒนาเอกสารประกอบการเรียน เรื่องสารเสพติดให้โทษ กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/802)เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนที่เรียนด้วยเอกสารประกอบการเรียนเรื่องสารเสพติดให้โทษ กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 63)เพื่อหาดัชนีประสิทธิผลของเอกสารประกอบการเรียน เรื่องสารเสพติดให้โทษ กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 64)เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่6ที่มีต่อการเรียนรู้โดยใช้เอกสารประกอบการเรียนเรื่องสารเสพติดให้โทษ กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6โรงเรียนเทศบาล 1(วัดพรหมวิหาร)ภาคเรียนที่ 2ปีการศึกษา 2563รวมทั้งสิ้นจ านวนนักเรียน 40คนได้มาโดยการใช้วิธีสุ่มอย่างง่าย (Simple Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาคือ 1)เอกสารประกอบการเรียน เรื่องสารเสพติดให้โทษ กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 62) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน3)แบบทดสอบวัดความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่6ที่มีต่อการจัดการเรียนการสอนโดยใช้เอกสารประกอบการเรียน เรื่องสารเสพติดให้โทษ กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6ผลการศึกษาพบว่า1. ประสิทธิภาพของเอกสารประกอบการเรียน เรื่องสารเสพติดให้โทษ กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6มี 84.20 / 88.06 2. นักเรียนที่เรียนโดยใช้เอกสารประกอบการเรียน เรื่องสารเสพติดให้โทษ กลุ่มสาระ การเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6มีคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยส าคัญทางสถิติที่ระดับ .01

3. ดัชนีประสิทธิผลของเอกสารประกอบการเรียน เรื่องสารเสพติดให้โทษ กลุ่มสาระ การเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6มีค่าเท่ากับ แสดงว่านักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้น 0.8304หรือคิดเป็นร้อยละ 83.044. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6มีความพึงพอใจต่อการเรียนโดยใช้เอกสารประกอบการเรียน เรื่องสารเสพติดให้โทษ กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่6โดยรวมและรายด้านทุกด้านอยู่ในระดับมาก

เว็บน่าสนใจ