ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รายงานการประเมินโครงการโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพนักเรียนโรงเรียนเอกชัย สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสมุทรสาคร ปีการศึกษา 2564

บทคัดย่อ

รายงานการประเมินโครงการโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพนักเรียนโรงเรียนเอกชัย สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสมุทรสาคร ปีการศึกษา 2564 ครั้งนี้ ผู้ประเมินใช้รูปแบบการรูปแบบการประเมิน CIPP ของ ดีแอลสตัฟเฟิลบีม และคณะ (D.L.Stufflebeam and Others,1971:216-265) มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินโครงการใน 4 ด้าน คือ การประเมินด้านบริบท (Context evaluation) การประเมินด้านปัจจัยนำเข้า(Input evaluation) การประเมินด้านกระบวนการดำเนินงาน (Process evaluation) และการประเมินด้านผลผลิต (Product evaluation) ของโครงการโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพนักเรียนโรงเรียนเอกชัย ประชากรที่ใช้ในการประเมินโครงการโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพนักเรียนโรงเรียนเอกชัย สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสมุทรสาคร ปีการศึกษา 2564 คือ ครู จำนวน 87 คน คณะกรรมการสถานศึกษาศึกษาขั้นพื้นฐาน โรงเรียนเอกชัย จำนวน 14 คน (ยกเว้นตัวแทนครู) รวมประชากรทั้งหมด 101 คน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการประเมินโครงการ คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 - 6 จำนวน 306 คน ผู้ปกครองนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3- 6 จำนวน 306 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มอย่างง่าย (Sample Random Sampling) โดยใช้ตาราง Krejcie & Morgan (สิทธิ์ ธีรสรณ์, 2552 : 114) รวมกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด 712 คน เครื่องมือที่ใช้ในการประเมินโครงการ ประกอบด้วยแบบประเมินโครงการจำนวน 5 ฉบับ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์สำเร็จรูป สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน

1. ผลการประเมินด้านบริบท (Context evaluation) ของโครงการ พบว่า

1.1 ผลการประเมินด้านบริบท (Context evaluation) ของโครงการ ตามความคิดเห็นของครู ในภาพรวม พบว่า มีความสอดคล้อง อยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.55, =0.59) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน โดยเรียงค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อยตามลำดับ คือ ความสอดคล้องของโครงการกับความต้องการของผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ( = 4.61,  = 0.57) รองลงมา คือ ความสอดคล้องกับนโยบายทางการศึกษา ( = 4.56,  = 0.49) และความสอดคล้องของโครงการกับวิสัยทัศน์และนโยบายโรงเรียน ( = 4.55,  = 0.58) ส่วนด้านที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ ความสอดคล้องของโครงการกับปัญหาและความจำเป็น ( = 4.46,  = 0.70)

1.2 ผลการประเมินด้านบริบท (Context evaluation) ของโครงการ ตามความคิดเห็นของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ในภาพรวม พบว่า มีความสอดคล้อง อยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.58, =0.5) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่ามีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุดทุกด้าน โดยเรียงค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อยตามลำดับ คือ ความสอดคล้องของโครงการกับความต้องการของผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ( = 4.61,  = 0.58) รองลงมา คือ ความสอดคล้องของโครงการกับปัญหาและความจำเป็น ( = 4.60,  = 0.61) และความสอดคล้องของโครงการกับวิสัยทัศน์และนโยบายโรงเรียน ( = 4.57,  = 0.65) ส่วนด้านที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ ความสอดคล้องกับนโยบายทางการศึกษา

( = 4.52,  = 0.70)

2. ผลการประเมินด้านปัจจัยนำเข้า (Input evaluation) ของโครงการ ตามความคิดเห็นของครู ในภาพรวม พบว่า มีความเหมาะสม อยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.50, =0.62) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน โดยเรียงค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อยตามลำดับ ได้แก่ ความพอเพียงของสื่อ วัสดุอุปกรณ์และ อาคารสถานที่ ( = 4.55,  = 0.59) รองลงมา คือ ความพร้อมและความเหมาะสมของบุคลากร

( = 4.53,  = 0.65) และรูปแบบการบริหารที่เอื้อต่อการจัดกิจกรรม มี ( = 4.52,  = 0.51) ส่วนด้านที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ ความพอเพียงของงบประมาณ ( = 4.38,  = 0.73)

3. ผลการประเมินด้านกระบวนการดำเนินงาน (Process evaluation) ตามความคิดเห็นของครู ในภาพรวม พบว่า มีการปฏิบัติ อยู่ในระดับมาก ( = 4.58,  = 0.50) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน โดยเรียงค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อยตามลำดับ คือ การวางแผน (Plan) ( = 4.49,  = 0.59) รองลงมา คือ การปฏิบัติ (Do) ( = 4.39,  = 0.52) และการกำกับนิเทศติดตามรายงานผล (Check) ( = 4.35,  = 0.451) ส่วนด้านที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ การปรับปรุงและพัฒนาการดำเนินงานและรายงานผล (Action) ( = 4.26,  = 0.49)

4. ด้านผลผลิต (Product evaluation) พบว่า 4.1) ผลการดำเนินงานโครงการโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพ ตามความคิดเห็นของครู ในภาพรวม พบว่า มีความสำเร็จ อยู่ในระดับมาก

(μ =4.35, σ= 0.51) เมื่อพิจารณาผลการประเมินรายข้อพบว่า ข้อที่มีความสำเร็จอยู่ในระดับมากที่สุด มีจำนวน 5 ข้อ โดยข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ส่งเสริมให้บุคลากรตรวจสุขภาพประจำปี

(μ =4.72, σ= 0.45) และพบว่า ข้อที่มีความสำเร็จอยู่ในระดับมาก จำนวน 20 ข้อ โดยข้อ

ที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือนักเรียนมีสรรถภาพทางกายตามเกณฑ์ (μ =4.393, σ= 0.42) 4.2) ผลการประเมินด้านความพึงพอใจในโครงการโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพนักเรียนโรงเรียนเอกชัย ตามความคิดเห็นของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ในภาพรวม พบว่า มีความพึงพอใจ อยู่ในระดับมาก (μ =4.37, σ= 0.62 ) ผลการประเมินด้านความพึงพอใจในโครงการโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพนักเรียนโรงเรียนเอกชัย ตามความคิดเห็นของผู้ปกครองนักเรียน ในภาพรวม พบว่า มีความพึงพอใจ อยู่ในระดับมาก ( =4.45, S.D.= 0.61 ) ผลการประเมินด้านความพึงพอใจในโครงการโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพนักเรียนโรงเรียนเอกชัย ตามความคิดเห็นของนักเรียน ในภาพรวม พบว่า มีความพึงพอใจ

อยู่ในระดับมาก ( =4.43, S.D.= 0.64 )

โพสต์โดย อัจฉริยาพร : [9 ต.ค. 2565 เวลา 05:26 น.]
อ่าน [1402] ไอพี : 184.22.23.204
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 8,640 ครั้ง
โรคสมองเสื่อมกับมะเร็งกลายเป็นคู่กัดกันเองต่างปราบกันและกัน
โรคสมองเสื่อมกับมะเร็งกลายเป็นคู่กัดกันเองต่างปราบกันและกัน

เปิดอ่าน 10,621 ครั้ง
8 วิธีกำจัดขาโต๊ะสนุ้ก
8 วิธีกำจัดขาโต๊ะสนุ้ก

เปิดอ่าน 11,735 ครั้ง
อาหารที่ทำให้ดูสวย
อาหารที่ทำให้ดูสวย

เปิดอ่าน 12,462 ครั้ง
7 วิธีเติมความมีชีวิตชีวาให้ชีวิต
7 วิธีเติมความมีชีวิตชีวาให้ชีวิต

เปิดอ่าน 32,079 ครั้ง
jobsDB เผย 10 สายงานที่มีเงินเดือนมากที่สุด
jobsDB เผย 10 สายงานที่มีเงินเดือนมากที่สุด

เปิดอ่าน 99,687 ครั้ง
หลักการใช้ "คำสรรพนาม" ในภาษาไทย
หลักการใช้ "คำสรรพนาม" ในภาษาไทย

เปิดอ่าน 5,950 ครั้ง
กรี๊ดสิครับ กรี๊ดเลย กรี๊ด ระบายมันออกมา "กรี๊ด" วิธีบำบัดที่ไม่ต้องเสียเงิน
กรี๊ดสิครับ กรี๊ดเลย กรี๊ด ระบายมันออกมา "กรี๊ด" วิธีบำบัดที่ไม่ต้องเสียเงิน

เปิดอ่าน 16,789 ครั้ง
ประกาศศธ. เรื่อง วรรณคดีสำหรับจัดการเรียนการสอนภาษาไทย ตามหลักสูตรแกนกลาง 2551
ประกาศศธ. เรื่อง วรรณคดีสำหรับจัดการเรียนการสอนภาษาไทย ตามหลักสูตรแกนกลาง 2551

เปิดอ่าน 15,938 ครั้ง
ปี 2558 จะยาวขึ้น 1 วินาที เพราะโลกหมุนช้าลง
ปี 2558 จะยาวขึ้น 1 วินาที เพราะโลกหมุนช้าลง

เปิดอ่าน 21,251 ครั้ง
เงินเดือนเป็นความลับ
เงินเดือนเป็นความลับ

เปิดอ่าน 9,293 ครั้ง
ฤดูฝน กับยางของท่าน
ฤดูฝน กับยางของท่าน

เปิดอ่าน 31,963 ครั้ง
ทำไมหัวไม้ขีดถึงติดไฟ
ทำไมหัวไม้ขีดถึงติดไฟ

เปิดอ่าน 23,307 ครั้ง
"กำจัดจุดอ่อน" ผลงานทางวิชาการ สาขาภาษาไทย
"กำจัดจุดอ่อน" ผลงานทางวิชาการ สาขาภาษาไทย

เปิดอ่าน 18,540 ครั้ง
สาวไส้ความง่อยเปลี้ยระบบศึกษาไทย ใครอยู่เบื้องหลังความเหวอะหวะซ้ำซาก?
สาวไส้ความง่อยเปลี้ยระบบศึกษาไทย ใครอยู่เบื้องหลังความเหวอะหวะซ้ำซาก?

เปิดอ่าน 11,661 ครั้ง
แบคทีเรียกินเนื้อคน แพทย์แนะล้างแผลฆ่าเชื้อโรคทันที หากถูกก้างปลาตำ
แบคทีเรียกินเนื้อคน แพทย์แนะล้างแผลฆ่าเชื้อโรคทันที หากถูกก้างปลาตำ

เปิดอ่าน 5,520 ครั้ง
จ๊อบส์ ดีบี ประเทศไทย เผยมุมมองผู้หางานและนายจ้างกับภาวะการจ้างงาน เปรียบเทียบประเทศไทยกับอาเซียน
จ๊อบส์ ดีบี ประเทศไทย เผยมุมมองผู้หางานและนายจ้างกับภาวะการจ้างงาน เปรียบเทียบประเทศไทยกับอาเซียน
เปิดอ่าน 8,715 ครั้ง
ขนมปังป้องกันผู้ชายเป็นหมันได้
ขนมปังป้องกันผู้ชายเป็นหมันได้
เปิดอ่าน 14,920 ครั้ง
ช็อกโกแลต ช่วยให้สมองกระปรี้กระเปร่าจริงหรือ
ช็อกโกแลต ช่วยให้สมองกระปรี้กระเปร่าจริงหรือ
เปิดอ่าน 7,925 ครั้ง
ระบบการศึกษาไม่สมดุล (จบ)
ระบบการศึกษาไม่สมดุล (จบ)
เปิดอ่าน 4,156 ครั้ง
ความสัมพันธ์ทางวัฒนธรรมกับต่างประเทศ
ความสัมพันธ์ทางวัฒนธรรมกับต่างประเทศ

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ