ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

รายงานการวิจัยในชั้นเรียน ผลการใช้สื่อ/นวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ ชุดการสอนซ่อมเสริม เรื่อง การแก้โจทย์ปัญหาความน่าจะเป็น

การวิจัยในครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน เรื่อง การแก้โจทย์ปัญหาความน่าจะเป็น โดยใช้ชุดการสอนซ่อมเสริม เรื่อง โจทย์ปัญหาความน่าจะเป็น 2) เพื่อสร้างชุดการสอนซ่อมเสริม เรื่อง โจทย์ปัญหาความน่าจะเป็น สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่มีผลการประเมิน ไม่ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำการสอบกลางภาค ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 3) เพื่อศึกษาเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน เรื่อง การแก้โจทย์ปัญหาความน่าจะเป็น โดยใช้ชุดการสอนซ่อมเสริม เรื่อง โจทย์ปัญหาความน่าจะเป็น ก่อนและหลังการจัดการเรียนรู้โดยใช้ชุดการสอนซ่อมเสริม เรื่อง โจทย์ปัญหาความน่าจะเป็น ประชากรที่ใช้ในการวิจัย มีนักเรียนจำนวน 105 คน เป็นนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่กำลังศึกษาอยู่ในโรงเรียนพระทองคำวิทยา สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย เป็นนักเรียนในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/3 โรงเรียน พระทองคำวิทยา อำเภอพระทองคำ จังหวัดนครราชสีมา ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 จำนวน 24 คน ซึ่งได้มาจากนักเรียนที่มีผลการประเมินไม่ผ่านเกณฑ์การสอบกลางภาค ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 โดยกลุ่มตัวอย่างได้รับการสอนซ่อมเสริม โดยใช้ชุดการสอนซ่อมเสริม เรื่อง โจทย์ปัญหาความน่าจะเป็น เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ 1) แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง โจทย์ปัญหาความน่าจะเป็น โดยใช้กลวิธีการสอน STAR 2) ชุดการสอนซ่อมเสริม เรื่อง โจทย์ปัญหาความน่าจะเป็น 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง โจทย์ปัญหาความน่าจะเป็น ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

ผลการวิจัยพบว่า 1) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน เรื่องการแก้โจทย์ปัญหาความน่าจะเป็น โดยใช้ชุดการสอนซ่อมเสริม เรื่อง โจทย์ปัญหาความน่าจะเป็น สูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 50 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ 2) ชุดการสอนซ่อมเสริม เรื่อง โจทย์ปัญหาความน่าจะเป็น สามารถพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์พื้นฐาน เรื่อง ความน่าจะเป็น สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่มีผลการประเมินไม่ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำของการสอบกลางภาค ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 ได้อย่างมีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ที่กำหนด เป็นไปตามเกณฑ์ขั้นต่ำร้อยละ 50 ที่ตั้งไว้ โดยได้ค่าเฉลี่ย X1 / X2 = 33.02/51.46 (X1 =ก่อนสอนซ่อมเสริม, X2 = หลังสอนซ่อมเสริม) 3) ผลสัมฤทธิ์หลังการเรียนโดยใช้ชุดการสอนซ่อมเสริม เรื่อง โจทย์ปัญหาความน่าจะเป็น พบว่า นักเรียนมีคะแนนทดสอบหลังการเรียนซ่อมเสริม โดยใช้ชุดการสอนซ่อมเสริม เรื่อง โจทย์ปัญหาความน่าจะเป็น สูงกว่าก่อนการเรียนซ่อมเสริม โดยมีคะแนนความก้าวหน้า ร้อยละ E1 / E2 = 55.03 / 85.76 คะแนนความก้าวหน้าโดยรวม เท่ากับร้อยละ 85.76 (E1 =ก่อนสอนซ่อมเสริม , E2 = หลังสอนซ่อมเสริม)

โพสต์โดย ครูธราภรณ์ : [19 พ.ค. 2566 เวลา 11:43 น.]
อ่าน [65293] ไอพี : 171.96.159.23
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 7,065 ครั้ง
ผลการสอบไม่สามารถบอกได้ทุกอย่าง
ผลการสอบไม่สามารถบอกได้ทุกอย่าง

เปิดอ่าน 14,541 ครั้ง
น้ำส้มคั้นที่คุณดื่ม...จริงหรือปลอม?
น้ำส้มคั้นที่คุณดื่ม...จริงหรือปลอม?

เปิดอ่าน 53,581 ครั้ง
งานประติมากรรมเครื่องปั้นดินเผา
งานประติมากรรมเครื่องปั้นดินเผา

เปิดอ่าน 10,948 ครั้ง
เปิดม่านการศึกษา : 2 พ.ค. 59 : โดย...ครูแจ่ม
เปิดม่านการศึกษา : 2 พ.ค. 59 : โดย...ครูแจ่ม

เปิดอ่าน 32,212 ครั้ง
ดร.ไพฑูรย์ ศรีฟ้า
ดร.ไพฑูรย์ ศรีฟ้า

เปิดอ่าน 13,119 ครั้ง
ชาวเน็ตควรรู้ไว้ พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ มีผล 4 ส.ค. แชร์ภาพผู้อื่นต้องระวังให้ดี
ชาวเน็ตควรรู้ไว้ พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ มีผล 4 ส.ค. แชร์ภาพผู้อื่นต้องระวังให้ดี

เปิดอ่าน 114,679 ครั้ง
กรรม คือ อะไร?
กรรม คือ อะไร?

เปิดอ่าน 82,172 ครั้ง
Parts of Speech    Sentence   Phrase   Clause
Parts of Speech Sentence Phrase Clause

เปิดอ่าน 33,551 ครั้ง
สพฐ.เผยแพร่หน่วยการเรียนรู้ Active Learning ที่ได้รับรางวัลเพื่อเป็นตัวอย่างให้กับครูในการออกแบบหน่วยการเรียนรู้
สพฐ.เผยแพร่หน่วยการเรียนรู้ Active Learning ที่ได้รับรางวัลเพื่อเป็นตัวอย่างให้กับครูในการออกแบบหน่วยการเรียนรู้

เปิดอ่าน 11,072 ครั้ง
หัวเราะฮา ฮ่า เป็นยาวิเศษ!!
หัวเราะฮา ฮ่า เป็นยาวิเศษ!!

เปิดอ่าน 14,780 ครั้ง
เป่ายิ้งฉุบเป็นของชาติไหน
เป่ายิ้งฉุบเป็นของชาติไหน

เปิดอ่าน 19,843 ครั้ง
กาแล็กซี่ เกลียวทับทิม
กาแล็กซี่ เกลียวทับทิม

เปิดอ่าน 12,269 ครั้ง
โรคไบโพลาร์
โรคไบโพลาร์

เปิดอ่าน 16,263 ครั้ง
ใบมอบฉันทะผู้รับหนังสือรับรองสิทธิในบำเหน็จตกทอดเพือใช้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันการกู้เงิน
ใบมอบฉันทะผู้รับหนังสือรับรองสิทธิในบำเหน็จตกทอดเพือใช้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันการกู้เงิน

เปิดอ่าน 17,783 ครั้ง
8 นิสัยที่ฉุดให้การทำงานของคุณย่ำอยู่กับที่
8 นิสัยที่ฉุดให้การทำงานของคุณย่ำอยู่กับที่

เปิดอ่าน 10,959 ครั้ง
สตอเรจแก้วเก็บข้อมูลได้หลายร้อยล้านปี
สตอเรจแก้วเก็บข้อมูลได้หลายร้อยล้านปี
เปิดอ่าน 15,769 ครั้ง
เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของโลก 17 ประการ
เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของโลก 17 ประการ
เปิดอ่าน 14,421 ครั้ง
ทราบหรือไม่ว่ามีประโยชน์อะไรบ้าง?
ทราบหรือไม่ว่ามีประโยชน์อะไรบ้าง?
เปิดอ่าน 14,444 ครั้ง
เช็กสุขภาพง่าย ๆ แค่ส่องกระจก
เช็กสุขภาพง่าย ๆ แค่ส่องกระจก
เปิดอ่าน 19,787 ครั้ง
เฉาก๊วยทำมาจากอะไร
เฉาก๊วยทำมาจากอะไร

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ