ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอนวิทยาการคำนวณ ตามแนวคิด Unplugged Coding ด้วยกระบวนการปฏิบัติและกระบวนการแก้ปัญหา เพื่อพัฒนาทักษะการแก้ปัญหาการเขียนโปรแกรมเบื้องต้น สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5

ชื่อวิจัย : การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอนวิทยาการคำนวณ ตามแนวคิด Unplugged Coding ด้วยกระบวนการปฏิบัติและกระบวนการแก้ปัญหา เพื่อพัฒนาทักษะการแก้ปัญหาการเขียนโปรแกรมเบื้องต้น สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5

ชื่อผู้วิจัย : นางสาวดวงฤดี ยืนนาน

สาขา : วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ( เทคโนโลยี )

ปีที่วิจัย : 2566-2567

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอนวิทยาการคำนวณตามแนวคิด Unplugged Coding ด้วยกระบวนการปฏิบัติร่วมกับกระบวนการแก้ปัญหา เพื่อพัฒนาทักษะการเขียนโปรแกรมเบื้องต้น 2) เพื่อพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอนวิทยาการคำนวณตามแนวคิด Unplugged Coding ด้วยกระบวนการปฏิบัติและกระบวนการแก้ปัญหา เพื่อพัฒนาทักษะการเขียนโปรแกรมเบื้องต้น 3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนการสอนวิทยาการคำนวณตามแนวคิด Unplugged Coding ด้วยกระบวนการปฏิบัติร่วมกับกระบวนการแก้ปัญหา เพื่อพัฒนาทักษะการเขียนโปรแกรมเบื้องต้น 4) เพื่อประเมินรูปแบบการจัดการเรียนการสอนวิทยาการคำนวณตามแนวคิด Unplugged Coding ด้วยกระบวนการปฏิบัติร่วมกับกระบวนการแก้ปัญหา เพื่อพัฒนาทักษะการเขียนโปรแกรมเบื้องต้น วิธีดำเนินการวิจัยใช้รูปแบบการวิจัยและพัฒนา (R&D) มี 4 ขั้นตอน คือ ขั้นตอนที่ 1 การศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้รายวิชาวิทยาการคำนวณ ขั้นตอนที่ 2 การสร้างและพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้รายวิชาวิทยาการคำนวณ ขั้นตอนที่ 3 การทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้รายวิชาวิทยาการคำนวณ และขั้นตอนที่ 4 การประเมินรูปแบบการจัดการเรียนรู้รายวิชาวิทยาการคำนวณ กลุ่มตัวอย่างได้แก่ นักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนวัดประเดิม อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราฎร์ธานี สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุราษฎร์ธานี เขต 1 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2568 จำนวน 16 คนได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แบบสอบถาม 2) แบบสัมภาษณ์ 3) คู่มือการใช้รูปแบบ ฯ 4) แผนการจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบฯ 5) แบบประเมินทักษะการเขียนโปรแกรม 6) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และ7) แบบสอบถามความพึงพอใจ สถิติที่ใช้ใน การ วิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ยส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าที (t - test) และการวิเคราะห์เนื้อหา

ผลการวิจัยพบว่า

1. ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการรูปแบบการจัดการเรียนการสอนวิทยาการคำนวณตามแนวคิด Unplugged Coding ด้วยกระบวนการปฏิบัติร่วมกับกระบวนการแก้ปัญหา เพื่อพัฒนาทักษะการเขียนโปรแกรมเบื้องต้น พบว่า 1) ข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับสภาพปัจจุบันของการจัดการเรียนการสอน เพื่อพัฒนาทักษะการแก้ปัญหา ตามความคิดเห็นของครู มีระดับการปฏิบัติอยู่ในระดับ มาก 2) ข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับความต้องการนักเรียนพบว่านักเรียนมีความต้องการให้มีการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอนวิทยาการคำนวณตามแนวคิด Unplugged Coding ด้วยกระบวนการปฏิบัติร่วมกับกระบวนการแก้ปัญหา เพื่อพัฒนาทักษะการเขียนโปรแกรมเบื้องต้น ในระดับ มากที่สุด

2. ผลการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอนวิทยาการคำนวณตามแนวคิด Unplugged Coding ด้วยกระบวนการปฏิบัติร่วมกับกระบวนการแก้ปัญหา เพื่อพัฒนาทักษะการเขียนโปรแกรมเบื้องต้น มีองค์ประกอบของรูปแบบ 6 องค์ประกอบ คือ 1) หลักการ 2 ) จุดประสงค์ 3) เนื้อหา 4 ) กระบวนการและขั้นตอน 5) การวัดและประเมินผล และ 6) ระบบสังคม โดยกระบวนการและขั้นตอน มีวิธีดำเนินการ 3 ขั้นหลัก และ 4 ขั้นตอนย่อย ดังนี้ ขั้นที่ 1 ขั้นนำ การเตรียมความพร้อม ขั้นที่ 2 ขั้นสอนและฝึกทักษะ ซึ่งประกอบด้วย 4 ขั้นตอนย่อย ได้แก่ คือ ขั้นที่ 1 ขั้นอ่านวิเคราะห์และกำหนดรายละเอียดของปัญหา ขั้นที่ 2 ขั้นวางแผนการแก้ปัญหา ขั้นที่ 3 ขั้นดำเนินการตามแผน ขั้นที่ 4 ขั้นตรวจสอบและปรับปรุง 3. ขั้นสรุปและวัดผล ผลการประเมินคุณภาพความเหมาะสมของรูปแบบโดยผู้ทรงคุณวุฒิ อยู่ในระดับมากที่สุด และการหาประสิทธิภาพของแผนการจัดการเรียนรู้ที่พัฒนาขึ้นตามรูปแบบ พบว่า มีค่าประสิทธิภาพ (E1/E2) เท่ากับ 81.93/80.56 ถือว่าเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ 80/80

3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้รายวิชาวิทยาการคำนวณ เพื่อพัฒนาทักษะการแก้ปัญหา พบว่า

3.1 ประสิทธิภาพของแผนการจัดการเรียนรู้ที่พัฒนาขึ้นตามรูปแบบการจัดการเรียนการสอนวิทยาการคำนวณตามแนวคิด Unplugged Coding ด้วยกระบวนการปฏิบัติร่วมกับกระบวนการแก้ปัญหา เพื่อพัฒนาทักษะการเขียนโปรแกรมเบื้องต้น มีประสิทธิภาพ เท่ากับ 85.24/84.11 ถือว่าเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ 80/80

3.2 นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่ได้รับการเรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนการสอนวิทยาการคำนวณตามแนวคิด Unplugged Coding ด้วยกระบวนการปฏิบัติร่วมกับกระบวนการแก้ปัญหา เพื่อพัฒนาทักษะการเขียนโปรแกรมเบื้องต้น มีคะแนนการแก้ปัญหาหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ.05

3.3 นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่ได้รับการเรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนการสอนวิทยาการคำนวณตามแนวคิด Unplugged Coding ด้วยกระบวนการปฏิบัติร่วมกับกระบวนการแก้ปัญหา เพื่อพัฒนาทักษะการเขียนโปรแกรมเบื้องต้นมีคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

4. ผลการประเมินรูปแบบการจัดการเรียนการสอนวิทยาการคำนวณตามแนวคิด Unplugged Coding ด้วยกระบวนการปฏิบัติร่วมกับกระบวนการแก้ปัญหา เพื่อพัฒนาทักษะการเขียนโปรแกรมเบื้องต้น พบว่า

4.1 ผลการจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบการจัดการเรียนการสอนวิทยาการคำนวณตามแนวคิด Unplugged Coding ด้วยกระบวนการปฏิบัติร่วมกับกระบวนการแก้ปัญหา เพื่อพัฒนาทักษะการเขียนโปรแกรมเบื้องต้น นักเรียนมีคะแนนทักษะการแก้ปัญหา ในปีการศึกษา 2567 คิดเป็นร้อยละ 82.17 สูงกว่าปีการศึกษา 2566 คิดเป็นร้อยละ 80.17 คิดเป็นความต่างร้อยละ 2.00 และคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียน ในปีการศึกษา 2566 คิดเป็นร้อยละ 83.11 สูงกว่าปีการศึกษา 2565 คิดเป็นร้อยละ79.56 คิดเป็นความต่างร้อยละ 3.55

4.2 นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนการสอนวิทยาการคำนวณตามแนวคิด Unplugged Coding ด้วยกระบวนการปฏิบัติร่วมกับกระบวนการแก้ปัญหา เพื่อพัฒนาทักษะการเขียนโปรแกรมเบื้องต้น อยู่ในระดับพึงพอใจมากที่สุด ( X = 4.60, S.D = 0.48)

โพสต์โดย kru_doung : [5 ส.ค. 2568 (16:43 น.)]
อ่าน [57382] ไอพี : 171.97.230.113
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 7,755 ครั้ง
เด็กไทยเรียนฟรี เมื่อไหร่?เป็นจริง
เด็กไทยเรียนฟรี เมื่อไหร่?เป็นจริง

เปิดอ่าน 70,557 ครั้ง
รูปแบบการรายงานผลการวิจัยแบบเป็นทางการ
รูปแบบการรายงานผลการวิจัยแบบเป็นทางการ

เปิดอ่าน 22,804 ครั้ง
โรคเหน็บชา สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 9
โรคเหน็บชา สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 9

เปิดอ่าน 16,455 ครั้ง
กินผักผลไม้เหลืองๆ ป้องกันโรคมะเร็งได้
กินผักผลไม้เหลืองๆ ป้องกันโรคมะเร็งได้

เปิดอ่าน 40,385 ครั้ง
ชื่นชม เด็กสระแก้ว สร้างชื่อเสียง คว้ารางวัลชนะเลิศคัดลายมือระดับประเทศ
ชื่นชม เด็กสระแก้ว สร้างชื่อเสียง คว้ารางวัลชนะเลิศคัดลายมือระดับประเทศ

เปิดอ่าน 14,824 ครั้ง
สัญญาณบอกอาการ 15 โรคฮิต เช็กดูสักนิด ก่อนจิตตก
สัญญาณบอกอาการ 15 โรคฮิต เช็กดูสักนิด ก่อนจิตตก

เปิดอ่าน 18,616 ครั้ง
วันครู "ครูไทย" การ์ตูนคิวคน โดย อรุณ วัชรสวัสดิ์
วันครู "ครูไทย" การ์ตูนคิวคน โดย อรุณ วัชรสวัสดิ์

เปิดอ่าน 19,621 ครั้ง
กระเจี๊ยบเขียว
กระเจี๊ยบเขียว

เปิดอ่าน 250,586 ครั้ง
เรื่องที่ควรรู้ ก่อนคิดจะเลี้ยง "ไซบีเรียน ฮัสกี้"
เรื่องที่ควรรู้ ก่อนคิดจะเลี้ยง "ไซบีเรียน ฮัสกี้"

เปิดอ่าน 19,268 ครั้ง
สุดทึ่ง นักโบราณคดีอึ้ง รูปปั้นนักรบเฝ้าสุสานจีน 7 พันตัว ถูกปั้น"ตามใบหน้าจริงแต่ละคน
สุดทึ่ง นักโบราณคดีอึ้ง รูปปั้นนักรบเฝ้าสุสานจีน 7 พันตัว ถูกปั้น"ตามใบหน้าจริงแต่ละคน

เปิดอ่าน 9,597 ครั้ง
การศึกษาไทยด้อยคุณภาพ....แล้วจะปฏิรูปอย่างไร?
การศึกษาไทยด้อยคุณภาพ....แล้วจะปฏิรูปอย่างไร?

เปิดอ่าน 11,076 ครั้ง
ใช้ฟุตบอลเป็นยา กระตุ้นฟื้นความทรงจำคนไข้สมองเสื่อม
ใช้ฟุตบอลเป็นยา กระตุ้นฟื้นความทรงจำคนไข้สมองเสื่อม

เปิดอ่าน 11,604 ครั้ง
คลิปชายอ้างเป็น"นายสิบ"เมากร่าง ขับรถกินเลน ปชช.คู่กรณีไม่พอ ยังด่าหยาบ-ทำร้ายร่างกาย
คลิปชายอ้างเป็น"นายสิบ"เมากร่าง ขับรถกินเลน ปชช.คู่กรณีไม่พอ ยังด่าหยาบ-ทำร้ายร่างกาย

เปิดอ่าน 9,121 ครั้ง
กรมอนามัย แนะ 10 วิธี ช่วยผู้สูงอายุนอนหลับดี เสริมสร้างสุขภาพที่ดี
กรมอนามัย แนะ 10 วิธี ช่วยผู้สูงอายุนอนหลับดี เสริมสร้างสุขภาพที่ดี

เปิดอ่าน 12,891 ครั้ง
ปลาชะลอสมองเสื่อม
ปลาชะลอสมองเสื่อม

เปิดอ่าน 334,919 ครั้ง
มารยาทในการพูด
มารยาทในการพูด
เปิดอ่าน 9,573 ครั้ง
แนวทางการจัดทำข้อมูล DMC ปีการศึกษา 2563
แนวทางการจัดทำข้อมูล DMC ปีการศึกษา 2563
เปิดอ่าน 12,813 ครั้ง
ขนุนอินโดนีเซีย
ขนุนอินโดนีเซีย
เปิดอ่าน 18,122 ครั้ง
หลัก4อ. ป้องกันตัวเองให้ห่างไกลไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009
หลัก4อ. ป้องกันตัวเองให้ห่างไกลไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009
เปิดอ่าน 39,311 ครั้ง
เจ๋งอะ! มาดูวิธีวาดภาพสามมิติแบบง่ายๆ กัน
เจ๋งอะ! มาดูวิธีวาดภาพสามมิติแบบง่ายๆ กัน

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ