การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อศึกษาการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ของครูเพื่อส่งเสริมประสิทธิผลการจัดการศึกษาโรงเรียนชุมชนบ้านปากชม โดยมีวัตถุประสงค์เฉพาะดังนี้ 1)เพื่อศึกษาสภาพ ปัจจัยและแนวทางที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ของครูเพื่อส่งเสริมประสิทธิผลการจัดการศึกษาโรงเรียนชุมชนบ้านปากชม 2)เพื่อสร้างและตรวจสอบรูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ของครูเพื่อส่งเสริมประสิทธิผลการจัดการศึกษาโรงเรียนชุมชนบ้านปากชม 3)เพื่อทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ของครูเพื่อส่งเสริมประสิทธิผลการจัดการศึกษาโรงเรียนชุมชนบ้านปากชม 4)เพื่อประเมินรูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ของครูเพื่อส่งเสริมประสิทธิผลการจัดการศึกษาโรงเรียนชุมชนบ้านปากชม การดำเนินการวิจัยแบ่งออกเป็น 4 ขั้นตอน ดังนี้ ขั้นตอนที่ 1 การศึกษาสภาพ ปัจจัย และแนวทางที่เกี่ยวข้องกับการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ของครูเพื่อส่งเสริมประสิทธิผลการจัดการศึกษาโรงเรียนชุมชนบ้านปากชมขั้นตอนที่ 2 การสร้างและตรวจสอบรูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ของครูเพื่อส่งเสริมประสิทธิผลการจัดการศึกษาโรงเรียนชุมชนบ้านปากชม ขั้นตอนที่ 3 การทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ของครูเพื่อส่งเสริมประสิทธิผลการจัดการศึกษาโรงเรียนชุมชนบ้านปากชม ขั้นตอนที่ 4 การประเมินรูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ของครูเพื่อส่งเสริมประสิทธิผลการจัดการศึกษาโรงเรียนชุมชนบ้านปากชม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อ มูลได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ยและค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัยพบว่า
1. ผลการศึกษาสภาพ ปัจจัย และแนวทางที่เกี่ยวข้องกับการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ของครูเพื่อส่งเสริมประสิทธิผลการจัดการศึกษาโรงเรียนชุมชนบ้านปากชม
1.1 ผลการศึกษาสภาพ ปัจจัย ที่เกี่ยวข้องกับการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ของครูเพื่อส่งเสริมประสิทธิผลการจัดการศึกษาโรงเรียนชุมชนบ้านปากชม
1) ผลการศึกษาสภาพที่เกี่ยวข้องกับการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ของครูเพื่อส่งเสริมประสิทธิผลการจัดการศึกษาโรงเรียนชุมชนบ้านปากชม ในภาพรวม มีการปฏิบัติอยู่ในระดับน้อย เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ทุกด้านอยู่ในระดับน้อย เมื่อเรียงตามลำดับค่าเฉลี่ยจากมาก ไปหาน้อย ได้แก่ ด้านการเรียนรู้จากการลงมือปฏิบัติจริง ด้านผู้เรียนมีส่วนร่วมในกระบวนการเรียนรู้ ด้านพัฒนาทักษะการคิดระดับสูง ด้านวิธีการเรียนรู้ที่หลากหลายและน่าสนใจ ด้านการเรียนรู้ด้วยตนเองและสร้างองค์ความรู้เอง และ ด้านการมีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนและครู
2) ผลการศึกษาปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ของครูเพื่อส่งเสริมประสิทธิผลการจัดการศึกษาโรงเรียนชุมชนบ้านปากชม โดยภาพรวม มีค่าเฉลี่ยอยู่นระดับน้อย เมื่อเรียงตามลำดับค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย ได้แก่ ด้านครูผู้สอน รองลงมาได้แก่ ด้านผู้บริหาร รองลงมาได้แก่ ด้านวัสดุอุปกรณ์ และด้านนักเรียน
1.2 ผลการศึกษาแนวทางการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ของครูเพื่อส่งเสริมประสิทธิผลการจัดการศึกษาโรงเรียนชุมชนบ้านปากชม 1) ด้านผู้เรียนมีส่วนร่วมในกระบวนการเรียนรู้ ครูควรใช้คำถามหลากหลายและบรรยากาศเป็นมิตร พร้อมกิจกรรมกลุ่มย่อยให้ผู้เรียนกล้าแสดงความคิดเห็น ตัวอย่างกิจกรรม เช่น Brainstorming, Kahoot/Quizizz, ThinkPairShare เพื่อกระตุ้นการมีส่วนร่วม 2) ด้านพัฒนาทักษะการคิดระดับสูง ควรใช้กรณีศึกษาและสถานการณ์จำลองเพื่อฝึกคิดวิเคราะห์และสะท้อนคิดหลังทำกิจกรรม ออกแบบโครงงานจากปัญหาจริงในชุมชนให้ผู้เรียนวางแผน รวบรวมข้อมูล และแก้ปัญหา 3) ด้านวิธีการเรียนรู้ที่หลากหลายและน่าสนใจ ควรบูรณาการกับวิถีชีวิตท้องถิ่นและใช้แหล่งเรียนรู้ชุมชนเป็นฐาน ใช้สื่อดิจิทัลผสมสื่อพื้นบ้าน เช่น วิดีโอ อินโฟกราฟิก เกม และสิ่งของจริงจากชุมชน 4) ด้านการมีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนและครู ควรมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีช่วยสร้างบรรยากาศปลอดภัยและพัฒนา Soft Skills ของผู้เรียนใช้กิจกรรมกลุ่มขนาดเล็ก เช่น เกมจำลองสถานการณ์ อภิปรายกลุ่ม และเวียนฐาน 5) ด้านการเรียนรู้จากการลงมือปฏิบัติจริง ควรออกแบบกิจกรรมที่มีขั้นตอนชัดเจน เช่น ทดลองวิทยาศาสตร์ ลงพื้นที่ หรือสร้างชิ้นงาน ใช้ Reflection หลังปฏิบัติ เช่น บันทึกสิ่งที่เรียนรู้ นำเสนอ และ Peer Review และ6) ด้านการเรียนรู้ด้วยตนเองและสร้างองค์ความรู้เอง ควรให้ผู้เรียนกำหนดเป้าหมาย แผนเรียนรู้ และใช้แหล่งข้อมูลค้นคว้าด้วยตนเอง จัดกิจกรรมให้สืบค้น ทดลอง และสังเคราะห์เป็นองค์ความรู้หรือผลงานจริง ด้านข้อเสนอแนะเพิ่มเติม ควรบูรณาการความรู้กับชีวิตจริง ใช้ทรัพยากรท้องถิ่น ลดพึ่งพาสื่อราคาแพง ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของผู้ปกครอง/ชุมชน และสร้างระบบ PLC ให้ครูพัฒนาร่วมกัน
2. ผลการสร้างและตรวจสอบรูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ของครูเพื่อส่งเสริมประสิทธิผลการจัดการศึกษาโรงเรียนชุมชนบ้านปากชม
ผลการศึกษาองค์ประกอบของรูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ของครูเพื่อส่งเสริมประสิทธิผลการจัดการศึกษาโรงเรียนชุมชนบ้านปากชม พบว่าองค์ประกอบของรูปแบบการพัฒนาการจัดการเรียนรู้เชิงรุก(Active Learning) ของครูเพื่อส่งเสริมประสิทธิผลของการจัดการศึกษา โรงเรียนชุมชนบ้านปากชม ประกอบด้วย 6 องค์ประกอบหลัก องค์ประกอบย่อย 32 องค์ประกอบ ได้แก่ องค์ประกอบที่ 1 ผู้เรียนมีส่วนร่วมในกระบวนการเรียนรู้ มี 5 องค์ประกอบย่อย องค์ประกอบที่ 2 พัฒนาทักษะการคิดระดับสูง มี 6 องค์ประกอบย่อย องค์ประกอบที่ 3 วิธีการเรียนรู้ที่หลากหลายและน่าสนใจ มี 4 องค์ประกอบย่อย องค์ประกอบที่ 4 การมีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนและครู มี 6 องค์ประกอบย่อย องค์ประกอบที่ 5 การเรียนรู้จากการลงมือปฏิบัติจริง มี 5 องค์ประกอบย่อย องค์ประกอบที่ 6 การจัดการเรียนรู้ด้วยตนเองและสร้างองค์ความรู้เอง มี 6 องค์ประกอบย่อย
3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ของครูเพื่อส่งเสริมประสิทธิผลการจัดการศึกษาโรงเรียนชุมชนบ้านปากชม
3.1 ผลการทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ของครูเพื่อส่งเสริมประสิทธิผลการจัดการศึกษาโรงเรียนชุมชนบ้านปากชม กับผู้บริหารสถานศึกษาและครูผู้สอน โดยภาพรวม พบว่า โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ทุกด้านอยู่ในระดับมากที่สุดทุกด้าน ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุด 3 ลำดับแรก ได้แก่ ด้านการมีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนและครู ด้านผู้เรียนมีส่วนร่วมในกระบวนการเรียนรู้ ด้านพัฒนาทักษะการคิดระดับสูง ด้านวิธีการเรียนรู้ที่หลากหลายและน่าสนใจ และ ด้านการเรียนรู้ด้วยตนเองและสร้างองค์ความรู้เอง
3.2 ผลการหาคุณภาพผู้เรียนหลังจากการทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ของครูเพื่อส่งเสริมประสิทธิผลการจัดการศึกษาโรงเรียนชุมชนบ้านปากชม โดยรวมและรายด้าน พบว่าคุณภาพผู้เรียนก่อนการใช้รูปแบบฯ โดยรวมอยู่ ในระดับปานกลางและหลังใช้รูปแบบฯ โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุดซึ่งนักเรียนมีพฤติกรรมที่สูงขึ้นกว่าก่อนเรียนทุกด้าน
3.3 ผลการประเมินความพึงพอใจเกี่ยวกับคุณภาพผู้เรียนหลังจากทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ของครูเพื่อส่งเสริมประสิทธิผลการจัดการศึกษาโรงเรียนชุมชนบ้านปากชม พบว่า ทั้งผู้บริหาร ครูผู้สอน และผู้ปกครองมีความพึงพอใจโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด
4. ผลการประเมินรูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ของครูเพื่อส่งเสริมประสิทธิผลการจัดการศึกษาโรงเรียนชุมชนบ้านปากชม
4.1 ผลการประเมินรูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ของครูเพื่อส่งเสริมประสิทธิผลการจัดการศึกษาโรงเรียนชุมชนบ้านปากชม โดยการสนทนากลุ่ม พบว่า เสียงส่วนใหญ่มีมติเป็นเอกฉันท์ว่า รูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ของครูเพื่อส่งเสริมประสิทธิผลการจัดการศึกษาโรงเรียนชุมชนบ้านปากชม มีความเหมาะสม ความเป็นไปได้ และความเป็นประโยชน์ทุกองค์ประกอบ
4.2 ผลการประเมินรูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ของครูเพื่อส่งเสริมประสิทธิผลการจัดการศึกษาโรงเรียนชุมชนบ้านปากชม โดยใช้แบบสอบถาม พบว่า โดยรวมและรายด้าน อยู่ในระดับมากที่สุดทุกด้าน