ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

นวัตกรรมการจัดการเรียนรู้เชิงรุกโดยใช้กระบวนการ เพื่อนคู่คิดและเกมเป็นฐาน เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจคำศัพท์เฉพาะทาง วิชาวิทยาการคำนวณด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI)

ความสำคัญของนวัตกรรม/วิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศ

ในยุคดิจิทัลซึ่งองค์ความรู้และเทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทักษะการคิดเชิงคำนวณ (Computational Thinking) นับเป็นทักษะสำคัญแห่งศตวรรษที่ 21 ที่ผู้เรียนจำเป็นต้องได้รับการพัฒนา โดยเฉพาะในรายวิชาวิทยาการคำนวณ ซึ่งมุ่งเน้นการสร้างความสามารถในการวิเคราะห์ แยกย่อยปัญหา และออกแบบวิธีการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ อย่างไรก็ตาม จากการเก็บข้อมูลนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4–6 โรงเรียนบ้านลานแหลม ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2567 จำนวน 20 คน (คิดเป็นร้อยละ 54.05 จากผลการสำรวจด้วยแบบสอบถาม) พบว่านักเรียนส่วนใหญ่มีความเข้าใจต่อคำศัพท์เฉพาะทางด้านคอมพิวเตอร์อยู่ในระดับต่ำที่สุด เช่น “username,” “password,” “search,” “keyboard” ตลอดจนคำศัพท์ทับศัพท์ที่จำเป็นต้องใช้ในการปฏิบัติจริง

ปัญหาการไม่เข้าใจคำศัพท์เฉพาะดังกล่าวส่งผลกระทบต่อกระบวนการเรียนการสอนอย่างมีนัยสำคัญ ตัวอย่างเช่น เมื่อครูใช้คำสั่งให้นักเรียน “เปิดงานเก่าจากโฟลเดอร์ของตนเอง” หรือ “บันทึกไฟล์ลงในด็อกคิวเมนต์” รวมถึงการ “insert ภาพจากไดรฟ์ดาวน์โหลดเข้าสู่ PowerPoint” พบว่านักเรียนราวร้อยละ 20 ไม่สามารถปฏิบัติตามได้ เนื่องจากไม่เข้าใจความหมายของคำศัพท์ ส่งผลให้การเรียนรู้ของทั้งชั้นเรียนล่าช้า ครูจำเป็นต้องให้ความช่วยเหลือแบบรายบุคคล ส่งผลให้เวลาเรียนไม่เพียงพอ และบรรลุวัตถุประสงค์การสอนได้ไม่เต็มที่

อนึ่ง คำศัพท์ด้านคอมพิวเตอร์จำนวนมากเป็นคำทับศัพท์ที่แม้แปลความหมายเป็นภาษาไทยก็ยังคงต้องใช้คำเดิมในการสื่อสาร ดังนั้น การสร้างความเข้าใจและการจดจำคำศัพท์เฉพาะทางเหล่านี้จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง ไม่เพียงเพื่อการเรียนรู้รายวิชาวิทยาการคำนวณเท่านั้น แต่ยังเป็นฐานสำคัญต่อการพัฒนาทักษะดิจิทัลขั้นสูงในอนาคต

ในปี พ.ศ. 2567 ที่ผ่านมา ข้าพเจ้าได้ดำเนินการจัดทำแนวปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice) ด้านการสอนวิชาวิทยาการคำนวณ และได้นำแนวปฏิบัติที่ได้รับการพัฒนาจากปีที่ผ่านมา มาปรับปรุงพัฒนาต่อยอดอย่างต่อเนื่องตามกระบวนการ PDCA (Plan-Do-Check-Act) โดยมีเป้าหมายเพื่อ

ตอบโจทย์กลุ่มผู้เรียนในบริบทของโรงเรียนบ้านลานแหลมให้ได้มากที่สุด ทั้งนี้ ข้าพเจ้าได้ศึกษาค้นคว้างานวิจัยด้านการศึกษา เพื่อนำองค์ความรู้ใหม่ ๆ มาประยุกต์ใช้ในการออกแบบการเรียนรู้ และพบว่างานวิจัยจำนวนมากสนับสนุนแนวคิดการใช้เกม การทำงานแบบเพื่อนคู่คิด (Think-Pair-Share) และการใช้เทคโนโลยีอย่างมีเป้าหมายในการเรียนรู้ของนักเรียน (Tapingkae et al., 2020[1]; Sakorn et al., 2025[2]; Sukkamart et al., 2025[3]; Gasonpan & Temdee, 2010[4]; Saraiwang & Worawong, 2023[5]; Wanglang et al., 2024[6])

ด้วยเหตุนี้ ผู้สอนจึงพัฒนานวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ โดยใช้แนวคิด “Active Learning” ผสานกับ 3 กลยุทธ์หลัก ดังนี้

1. การเรียนรู้แบบเพื่อนคู่คิด (Think-Pair-Share)

2. การเรียนรู้โดยใช้เกมเป็นฐาน (Game-Based Learning)

3. การใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อพัฒนาสื่อการสอนที่ตอบสนองต่อความแตกต่างระหว่างบุคคล

หัวใจสำคัญของนวัตกรรมนี้ คือการออกแบบกระบวนการเรียนรู้ที่ให้ผู้เรียนเป็น “เจ้าของความรู้” โดยมีบทบาทในการ “สร้างความเข้าใจ” ผ่านการคิด วิเคราะห์ แลกเปลี่ยน และเล่นอย่างมีเป้าหมาย โดยผสานทั้ง 3 กลยุทธ์หลักดังนี้

Think-Pair-Share (TPS) เป็นกระบวนการเรียนรู้ที่ช่วยให้นักเรียนฝึกคิด วิเคราะห์ และแลกเปลี่ยนอย่างเป็นระบบ ส่งเสริมทักษะการฟัง พูด และคิดอย่างมีเหตุผล โดยเฉพาะเมื่อนำมา

ใช้ร่วมกับคำศัพท์เฉพาะทางด้านเทคโนโลยีและคอมพิวเตอร์ ทำให้นักเรียนเข้าใจและกล้าใช้คำศัพท์มากขึ้นในสถานการณ์จริง (Sukkamart et al., 2025) [3] ทั้งนี้จากการศึกษาค้นคว้างานวิจัย

การใช้ Think-Pair-Share (TPS) ผู้สอนได้เล็งเห็นว่า เป็นกลยุทธ์ที่ตอบโจทย์เด็กประถมได้ดี เพราะไม่กดดันเหมือนการตอบคำถามหน้าชั้นเรียนโดยลำพัง ผู้เรียนได้มีเวลาคิดคนเดียวก่อน จากนั้น

จึงจับคู่คุยกับเพื่อน ซึ่งช่วยให้เกิดความมั่นใจและได้แลกเปลี่ยนแนวคิดในระดับที่เข้าใจง่าย เมื่อ

เข้าสู่ช่วง Share ต่อหน้าชั้นเรียน นักเรียนก็จะสามารถนำเสนอความเข้าใจของตนเองในแบบที่

เป็นธรรมชาติ ซึ่งช่วยส่งเสริมความมั่นใจในการใช้ภาษาวิชาการและคำศัพท์เฉพาะในวิชา

วิทยาการคำนวณ

ขณะเดียวกัน Game-Based Learning (GBL) มีบทบาทสำคัญในการสร้างแรงจูงใจภายใน ช่วยให้นักเรียนสนุกกับการเรียนรู้เนื้อหาที่ยาก โดยเฉพาะการเรียนรู้คำศัพท์เฉพาะในรูปแบบเกม เช่น เกมจับคู่ เกมสะกดคำ หรือเกมมิฟิเคชั่น สามารถช่วยให้นักเรียนจดจำคำศัพท์ได้แม่นยำ และยังส่งเสริมการคิดอย่างสร้างสรรค์ (Tapingkae et al., 2020[1]; Gasonpan & Temdee, 2010[4]; Saraiwang & Worawong, 2023[5]) ที่สำคัญการเรียนรู้โดยใช้เกมเป็นฐาน (Game-Based Learning) ยังช่วยเติมพลังและบรรยากาศของความสนุกในการเรียนรู้ เด็กประถมมักตอบสนองได้ดีต่อกิจกรรมที่มีการแข่งขันเบา ๆ มีเป้าหมายที่ชัดเจน และได้รับรางวัลหรือคำชมในทันที เกมที่ออกแบบให้นักเรียนได้ “ทบทวน” หรือ “ใช้คำศัพท์” เฉพาะทางด้านวิชาวิทยาการคำนวณ จึงถือเป็นเครื่องมือที่มีศักยภาพในการส่งเสริมการเรียนรู้ได้อย่างเหมาะสมและไม่ใช่สิ่งที่เกินจริงแต่อย่างใด

อีกหนึ่งจุดเด่นของนวัตกรรมนี้คือ การใช้ AI เพื่อพัฒนาและปรับแต่งสื่อการเรียนรู้ ไม่ว่าจะเป็น flashcard อินโฟกราฟิก chatbot อธิบายคำศัพท์ quiz ประเมินผล หรือแบบฝึกหัดอัตโนมัติ

ซึ่งสามารถปรับเนื้อหาให้เหมาะกับผู้เรียนแต่ละคนได้อย่างแม่นยำ (Sakorn et al., 2025) [2]

โดย AI ถูกนำมาใช้เพื่อ “ช่วยครู” ไม่ใช่ “แทนครู” ให้ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยออกแบบกิจกรรมที่

เหมาะกับระดับความเข้าใจของผู้เรียน และตอบสนองความแตกต่างระหว่างบุคคล เช่น การใช้ AI แปลงคำศัพท์ยากให้ง่ายขึ้นสำหรับนักเรียน หรือสร้างเกมสั้น ๆ เพื่อทบทวนเนื้อหาหลังเรียน

อีกทั้งการใช้ AI ยังช่วยให้ครูสามารถประเมินและปรับการเรียนรู้ได้แบบ real-time ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางการจัดการเรียนรู้แบบผสมผสานและใช้ปัญหาเป็นฐาน (Wanglang et al., 2024) [6]

การประสานการเรียนรู้ทั้งสามนี้เข้าด้วยกันจึงถือเป็นแนวปฏิบัติที่เป็นเลิศ เพราะสอดคล้องกับงานวิจัยด้านการสอนยุคใหม่ ที่พบว่าการใช้เกม การทำงานกลุ่ม และสื่อดิจิทัลสามารถส่งเสริมความเข้าใจและแรงจูงใจในการเรียนรู้ของนักเรียนได้เป็นอย่างดี (Tapingkae et al., 2020 [1]; Sakorn et al., 2025 [2]; Wanglang et al., 2024 [6])

กล่าวโดยสรุป นวัตกรรมนี้มุ่งแก้ปัญหาในระดับพื้นฐานของวิชาวิทยาการคำนวณ

ด้วยการบูรณาการแนวคิดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนมีส่วนร่วมอย่างกระตือรือร้น การเรียนรู้แบบเพื่อนคู่คิด โดยใช้เทคโนโลยีและสื่อสร้างสรรค์ที่พัฒนาด้วย AI สนับสนุนให้เกิดการเรียนรู้ที่มีความหมาย สนุก มีส่วนร่วม และตอบโจทย์การเรียนรู้ของเด็กในยุคใหม่ได้อย่างแท้จริง ถือเป็นแนวปฏิบัติที่น่าสนใจ และสามารถนำไปปรับใช้ในชั้นเรียนระดับประถมศึกษาของไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพ

จุดประสงค์และเป้าหมาย ของการดำเนินงาน

1. เพื่อพัฒนาผลการเรียนรายวิชาวิทยาการคำนวณของนักเรียนโรงเรียนบ้านลานแหลม

(สรนุวัตรราษฎร์อุทิศ) ชั้นประถมศึกษาปีที่1-6 ประจำปีการศึกษา 2567 ให้มีค่าเฉลี่ย

มากกว่า 70% หรือมากกว่าค่ามาตรฐานผลการเรียนของโรงเรียนบ้านลานแหลม

(สรนุวัตรราษฎร์อุทิศ) 

โพสต์โดย มดแดง : [31 ส.ค. 2568 (20:41 น.)]
อ่าน [57334] ไอพี : 1.10.203.166
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 68,522 ครั้ง
เคล็ดลับ10 ข้อในการจำศัพท์ภาษาอังกฤษ
เคล็ดลับ10 ข้อในการจำศัพท์ภาษาอังกฤษ

เปิดอ่าน 20,153 ครั้ง
เกร็ดความรู้ เกี่ยวกับน้ำตาลในผัก
เกร็ดความรู้ เกี่ยวกับน้ำตาลในผัก

เปิดอ่าน 12,944 ครั้ง
การจัดทำสัญญาอนุญาตให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาไปศึกษาต่อภายในประเทศ
การจัดทำสัญญาอนุญาตให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาไปศึกษาต่อภายในประเทศ

เปิดอ่าน 32,091 ครั้ง
การคูณด้วยไม้ตะเกียบแบบบูรณาการ (ชมคลิป)
การคูณด้วยไม้ตะเกียบแบบบูรณาการ (ชมคลิป)

เปิดอ่าน 16,611 ครั้ง
อวสาน Hotmail ไมโครซอฟท์เปิดตัว Outlook.com แล้ว
อวสาน Hotmail ไมโครซอฟท์เปิดตัว Outlook.com แล้ว

เปิดอ่าน 9,093 ครั้ง
จิตวิทยาระบุ มีความรู้ดีก็ยังหนีไม่พ้นโดนตุ๋นจนได้
จิตวิทยาระบุ มีความรู้ดีก็ยังหนีไม่พ้นโดนตุ๋นจนได้

เปิดอ่าน 17,440 ครั้ง
เจอดาว "โลกหมายเลข 2" นาซ่าชี้คล้ายโลกเรามากๆ
เจอดาว "โลกหมายเลข 2" นาซ่าชี้คล้ายโลกเรามากๆ

เปิดอ่าน 13,503 ครั้ง
"ไดเอ็ตแบบไม่โยโย่" แนะกฎเหล็กลดน้ำหนัก
"ไดเอ็ตแบบไม่โยโย่" แนะกฎเหล็กลดน้ำหนัก

เปิดอ่าน 19,263 ครั้ง
อนาคต 10 อย่างที่กำลังจะหายไป
อนาคต 10 อย่างที่กำลังจะหายไป

เปิดอ่าน 12,468 ครั้ง
วิธีไหว้แก้ชงต่อเทพเจ้า ให้ถูกต้อง-ถูกองค์
วิธีไหว้แก้ชงต่อเทพเจ้า ให้ถูกต้อง-ถูกองค์

เปิดอ่าน 2,006 ครั้ง
BLOCKCHAIN คืออะไร ?
BLOCKCHAIN คืออะไร ?

เปิดอ่าน 12,041 ครั้ง
กินแคลเซียมป้องกันโรคกระดูกผุ กลับไปเสี่ยงให้เกิดหัวใจวายขึ้น
กินแคลเซียมป้องกันโรคกระดูกผุ กลับไปเสี่ยงให้เกิดหัวใจวายขึ้น

เปิดอ่าน 74,332 ครั้ง
โดเรมี : ตัวละครจากการ์ตูนโดราเอมอน
โดเรมี : ตัวละครจากการ์ตูนโดราเอมอน

เปิดอ่าน 11,968 ครั้ง
เคล็ดลับดี ๆ ที่อยากส่งต่อ
เคล็ดลับดี ๆ ที่อยากส่งต่อ

เปิดอ่าน 56,693 ครั้ง
ไอเดียการจัดตกแต่งบ้านต้อนรับปีใหม่
ไอเดียการจัดตกแต่งบ้านต้อนรับปีใหม่

เปิดอ่าน 14,306 ครั้ง
ย่านางแดง พืชน่าสนใจ มีสรรพคุณอย่างไรบ้าง
ย่านางแดง พืชน่าสนใจ มีสรรพคุณอย่างไรบ้าง
เปิดอ่าน 10,429 ครั้ง
มติ ครม. เห็นชอบลงทะเบียนซิมเติมเงิน-ฟรี Wi-Fi เป็นวาระแห่งชาติ
มติ ครม. เห็นชอบลงทะเบียนซิมเติมเงิน-ฟรี Wi-Fi เป็นวาระแห่งชาติ
เปิดอ่าน 51,392 ครั้ง
‘คุณค่าของครู’ ในโลกที่เกิดการเปลี่ยนแปลง
‘คุณค่าของครู’ ในโลกที่เกิดการเปลี่ยนแปลง
เปิดอ่าน 150,339 ครั้ง
เผยแพร่หลักสูตรสถานศึกษา(ฉบับปรับปรุง2560) ในรูปแบบไฟล์เวิร์ด โดยโรงเรียนบ้านฝาผนัง สพป.นครราชสีมา เขต 7
เผยแพร่หลักสูตรสถานศึกษา(ฉบับปรับปรุง2560) ในรูปแบบไฟล์เวิร์ด โดยโรงเรียนบ้านฝาผนัง สพป.นครราชสีมา เขต 7
เปิดอ่าน 21,605 ครั้ง
การแพ้ยา Drug Hypersensitivity
การแพ้ยา Drug Hypersensitivity

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ