ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมข่าวการศึกษา  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

อนาคตโรงเรียนขนาดเล็กของเมืองไทย การแก้ปัญหาจะต้องไม่มีรูปแบบเดียว


ข่าวการศึกษา 14 พ.ค. 2556 เวลา 09:03 น. เปิดอ่าน : 11,659 ครั้ง
อนาคตโรงเรียนขนาดเล็กของเมืองไทย การแก้ปัญหาจะต้องไม่มีรูปแบบเดียว

Advertisement

ดร.พิษณุ ตุลสุข
หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ

...ไม่มีผู้ปกครองคนใดที่ไม่ต้องการให้ลูกได้เรียนในโรงเรียนที่มีคุณภาพ!

หากท่านได้เดินทางไปในชนบทหรือต่างจังหวัดมักจะพบเห็นรถรับส่งนักเรียนวิ่งขนเด็กจากตำบลหมู่บ้านเข้ามาเรียนในเมืองเป็นจำนวนมาก บางรายอาจจะต้องเดินทางถึง 30-40 กม. เพื่อมาเรียนโรงเรียนอนุบาลประจำจังหวัด หรือโรงเรียนเอกชน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โรงเรียนเอกชนหลายแห่งจะมีรถไปรับนักเรียนถึงหน้าบ้าน มีครูพี่เลี้ยงนั่งรถดูแลมาด้วย ภาพเช่นนี้เป็นปกติในทุกจังหวัดทุกเช้า เด็กก็จะนั่งหลับอ่อนเพลีย เพราะการตื่นแต่เช้าและต้องเดินทางไกล แต่พ่อแม่หรือผู้ปกครองยินดีเพราะลดภาระการรับส่งลูกไปโรงเรียนและเชื่อมั่นว่าลูกได้ไปเรียนในโรงเรียนที่มีคุณภาพ

ดังนั้นหากผู้ปกครองมีกำลังทางเศรษฐกิจพอที่จะส่งลูกไปเรียนในโรงเรียนที่มีคุณภาพได้ก็จะส่งไปแน่นอน รถขนนักเรียนก็จะวิ่งผ่านหน้าโรงเรียนในหมู่บ้านในชนบทสู่เมืองใหญ่ ลูกของคนมีฐานะดีในเมืองใหญ่ก็จะถูกส่งไปเช่าหอพัก บ้านเช่า ในจังหวัดที่มีโรงเรียนดัง ๆ คุณภาพดี ลูกของคนร่ำรวยในจังหวัดก็จะถูกส่งไปเรียนยังเมืองหลวงหรือโรงเรียนนานาชาติ หรือคนในเมืองหลวงก็ส่งลูกไปเรียนต่างประเทศเพราะข้อสรุปก็คือ ทุกคนรักลูกอยากให้ลูกเรียนในโรงเรียนดีมีคุณภาพ มีสังคมที่ดี มีอนาคตดี มีใครไม่รักลูกบ้าง

แต่ก็ยังมีอีกหลายครอบครัวที่พ่อแม่ติดขัดปัญหาด้านการเงิน หรือฐานะยากจนจึงไม่มีปัญญาส่งลูกไปเรียนที่ไหน จำใจให้ลูกเรียนอยู่ในโรงเรียนใกล้บ้านในหมู่บ้าน ดังที่เห็นเป็น "โรงเรียนขนาดเล็ก" ที่มีอยู่ถึง 14,816 โรงเรียนของ สพฐ. ในปัจจุบัน

จากสาเหตุดังกล่าวจึงเกิดโรงเรียนขนาดเล็กเพิ่มขึ้นทุกปี โดยที่หากจะจำกัดคำว่า "โรงเรียนขนาดเล็ก" หมายถึง โรงเรียนที่มีนักเรียนจำนวนต่ำกว่า 120 คนลงมาเป็นโรงเรียนขนาดเล็กจะพบข้อมูลดังนี้ ปีการศึกษา 2546 มีจำนวนโรงเรียนขนาดเล็ก 10,877 โรง, ปีการศึกษา 2550 เพิ่มเป็น 13,518 โรง, ปีการศึกษา 2554 เพิ่มเป็น 14,669 โรง ปีการศึกษา 2555 เพิ่มเป็น 14,816 โรง และในปีการศึกษา 2556 ยังไม่มีการสำรวจแต่คาดว่าจำนวนจะต้องเพิ่มขึ้นแน่นอน และในจำนวนนี้ย่อมมีโรงเรียนที่มีนักเรียนต่ำกว่า 60 คนลงมาอยู่ไม่น้อยกว่า 5,962 โรงเรียน เช่นเดียวกัน

ปัญหาของโรงเรียนขนาดเล็กคืออะไร ? ปัญหาสำคัญอันดับแรกคือ คุณภาพของนักเรียน จากการวิเคราะห์ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนหรือรางวัลจากการแข่งขันทักษะทางวิชาการต่าง ๆ จะพบว่า โรงเรียนขนาดเล็ก คุณภาพต่ำกว่าโรงเรียนขนาดกลาง โรงเรียนขนาดกลาง คุณภาพต่ำกว่า โรงเรียนขนาดใหญ่ และหากนำผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของโรงเรียนขนาดเล็กตัดออกจากค่าเฉลี่ยรวมของ สพฐ.ในระดับประเทศ คิดเทียบค่าเฉลี่ยรวมจากโรงเรียนขนาดกลางและขนาดใหญ่จะทำให้ค่าเฉลี่ยรวมของ สพฐ. สูงขึ้นอย่างก้าวกระโดด จึงเป็นข้อสรุปว่า คุณภาพนักเรียนในโรงเรียนขนาดเล็กโดยภาพรวมต่ำจริง แล้วทำไมต้องให้เด็กไทยเรียนในโรงเรียนที่ไม่มีคุณภาพ

ปัญหาลำดับที่สองโรงเรียนขนาดเล็กขาดแคลนทรัพยากร เพราะการจัดสรรงบประมาณของ สพฐ. ยืนอยู่บนบรรทัดฐานของค่าใช้จ่ายรายหัว แม้จะบวกเพิ่มพิเศษอย่างไรก็ได้ไม่เท่าโรงเรียนที่มีจำนวนนักเรียนมากอยู่ดี การลงทุนด้านค่าก่อสร้างอาคาร ค่าครุภัณฑ์ วัสดุสื่อต่าง ๆ ก็มีข้อจำกัด เพราะ สพฐ.เป็นพ่อแม่ที่มีลูกมาก มีโรงเรียนในสังกัดถึง 31,116 โรง แม้จะมีงบประมาณรวมกันแล้วจะมากที่สุดนับเป็น 3 แสนล้านบาท ก็ตาม

ทั้งนี้ต้องไม่ลืมข้อเท็จจริงบางประการว่าในประเทศนี้ โรงเรียนขนาดเล็กบางแห่งยังมีคุณภาพที่ดี ได้รับรางวัลโรงเรียนรางวัลพระราชทาน 2-3 ครั้ง เป็นเกียรติประวัติ เพราะผู้อำนวยการและครูเอาใจใส่จริงจังบวกกับผู้นำชุมชนและผู้ปกครองในท้องถิ่นเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาศักยภาพของโรงเรียน ทุกคน

มีความสุขอยู่กับโรงเรียนที่เป็นศูนย์รวมในการพัฒนาของหมู่บ้านและชุมชน และในขณะเดียวกันยังมีโรงเรียนขนาดเล็กที่จำเป็นต้องคงอยู่ อาทิ โรงเรียนเกาะโหลน เกาะแก่งอีกหลายเกาะ โรงเรียนบนยอดดอยและป่าเขา โรงเรียนในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ไม่สงบและปลอดภัย ที่ถึงอย่างไรโรงเรียนเหล่านี้จะต้องคงอยู่เพื่อให้เด็กไทยที่เกิดในถิ่นฐานเหล่านี้ได้สิทธิและโอกาสในการก้าวถึงการศึกษาขั้นพื้นฐานอย่างมีคุณภาพและทั่วถึงก็ต้องได้รับการแก้ปัญหาและดูแลอย่างมีคุณภาพด้วย แม้ว่าจะเป็นการลงทุนต่อหน่วย (จำนวนเด็กนักเรียน) สูงกว่าพื้นที่ปกติก็ตาม

ทุกปัญหาต้องมีทางออก ปัญหาของโรงเรียนขนาดเล็ก จะต้องได้รับการแก้ไขแน่นอน ทั้งในเรื่องของคุณภาพและเชิงประสิทธิภาพของการบริหารจัดการ และความคุ้มค่าของการใช้ทรัพยากร ซึ่งที่ผ่านมาก็มีการดำเนินการอย่างไม่หยุดหย่อน จนโรงเรียน ของ สปช. (สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติเดิม) ประมาณ 35,000 โรง จึงเหลือเพียงโรงเรียนซึ่งนับรวมโรงเรียนสังกัดกรมสามัญศึกษาเดิมประมาณ 31,116 โรงแล้วก็ตาม แสดงให้เห็นถึงความคงอยู่และเลิกล้มไปตามสภาพของความจำเป็นและการจำยอม

แต่การยุบเลิกย่อมไม่ใช่ทางออกทางเดียว! เมื่อครั้งผู้เขียนอยู่ในตำแหน่งรองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน จึงผลักดันโครงการวิจัยเพื่อกำหนดอนาคตโรงเรียนขนาดเล็กของประเทศไทยไว้โดยมีหัวเรื่องวิจัย 16 เรื่อง (ตามข้อมูลล้อมกรอบ) ใช้นักวิจัย ที่ส่วนใหญ่เป็นข้าราชการสังกัด สพฐ. และผู้ทรงคุณวุฒิจากสถาบันอุดมศึกษาที่จบการศึกษาระดับปริญญาเอก จำนวน 100 กว่าคน มาร่วมเป็นทีมวิจัย 16 ทีม ซึ่งหัวเรื่องการวิจัยล้วนแล้วแต่จะสามารถตอบปัญหาเรื่องโรงเรียนขนาดเล็กที่ถกเถียงกันในเวทีสื่อสาธารณะในปัจจุบันได้อย่างครอบคลุมและครบถ้วน เป็นการแก้ปัญหาอย่างมีอนาคต มองอนาคตระยะยาวและรองรับด้วยระเบียบวิธีวิจัยที่เป็นกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
หลักการวิจัยทั้ง 16 เรื่อง จะอยู่ภายใต้หลักการสำคัญ 3 ประการคือ

1. คุณภาพของนักเรียนในโรงเรียนขนาดเล็ก
2. สิทธิและโอกาสในการได้รับการศึกษาขั้นพื้นฐานของประชาชนคนไทยทุกคนตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด และ
3. ประสิทธิภาพการบริหารจัดการของภาครัฐ

ทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับพลังและการขับเคลื่อนของนักวิจัยทั้ง 16 ทีม ซึ่งขณะนี้น่าจะดำเนินการไปได้ใกล้จะเสร็จแล้ว และจะเป็นคำตอบอันสำคัญต่อรัฐบาล และประชาชนของประเทศไทยทั้งผู้ยากไร้ขาดโอกาส และผู้ที่กำลังวุ่นอยู่กับปัญหาและแสวงหาคำตอบว่าอนาคตของโรงเรียนขนาดเล็กของประเทศไทยควรจะเป็นอย่างไร แต่คำตอบสุดท้ายจะต้องยืนอยู่บนหลักการว่า 'การแก้ปัญหาโรงเรียนขนาดเล็กของประเทศไทยจะต้องไม่มีรูปแบบเดียวที่ใช้แก้ปัญหาได้ ทุกโรงเรียนทั่วประเทศจะต้องขึ้นอยู่กับบริบท และสภาพการณ์ของแต่ละโรงเรียน แต่ละชุมชนเป็นสำคัญ".

16 หัวข้อวิจัยฯ

ขณะนี้น่าจะอยู่ในระหว่างการดำเนินการและบางเรื่องดำเนินการวิจัยเสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงนำเสนอเพื่อให้เป็นแนวคิดและการมองปัญหาทั้งระบบ อาทิ

1. เรื่องผลคุณภาพนักเรียนใน รร.ขนาดเล็ก
2. เรื่องการศึกษาผลการประเมินคุณภาพภายนอก
3. เรื่องการบริหารจัดการ
4. เรื่องปัจจัยที่ทำให้ รร.ขนาดเล็กอยู่ได้อย่างมีคุณภาพ
5. เรื่องรูปแบบการบริหารจัดการศึกษา
6. เรื่องการศึกษาความคุ้มค่า เชิงการลงทุน
7. เรื่องการศึกษาผลกระทบด้านสิทธิและโอกาสทางการศึกษา จากการยุบรวม รร.ขนาดเล็ก
8. เรื่องความพึงพอใจต่อการบริหารจัดการควบรวม รร.ขนาดเล็ก
9. เรื่องปัจจัยสนับสนุนและปัจจัยที่เป็นอุปสรรคต่อการรวมหรือเลิกล้มรร.ขนาดเล็ก
10. เรื่องการบริหารงานบุคคล เพื่อรองรับการบริหารจัดการ รร.ขนาดเล็กในอนาคต
11. เรื่องรูปแบบการบริหารจัดการและการมีส่วนร่วมของ รร.ขนาดเล็กที่มีประสิทธิภาพ
12. เรื่องการจัดการศึกษารร.ขนาดเล็ก โดยอาศัยองค์กรเอกชนเป็นแนวคิดใหม่
13. เรื่องการบริหารทรัพย์สิน รร.ขนาดเล็ก กรณีที่ยุบรวม หรือเลิกล้มเป็นการเตรียมหาทางออกไว้ก่อน
14. เรื่องรูปแบบการใช้แท็บแล็ต เพื่อยกระดับคุณภาพนักเรียนใน รร.ขนาดเล็ก
15. เรื่องการพัฒนาการจัดการศึกษาแบบคละชั้นใน รร.ขนาดเล็ก และ
16. เรื่องสามทศวรรษ รร.ขนาดเล็กของประเทศไทย เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพที่บ่งบอกถึงความพยายามในการแก้ปัญหาที่ผ่านมากว่า 30 ปีเป็นการศึกษาประวัติศาสตร์เพื่อเป็นเอกสารหลักฐานและสามารถนำมาวิเคราะห์เพื่อพยากรณ์และกำหนดนโยบายอนาคตได้อย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพ.


ที่มา--เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 15 พ.ค. 2556 (กรอบบ่าย)--


อนาคตโรงเรียนขนาดเล็กของเมืองไทย การแก้ปัญหาจะต้องไม่มีรูปแบบเดียวอนาคตโรงเรียนขนาดเล็กของเมืองไทยการแก้ปัญหาจะต้องไม่มีรูปแบบเดียว

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

:: เรื่องปักหมุด ::

ก.ค.ศ. อนุมัติให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีและเลื่อนเป็นวิทยฐานะเชี่ยวชาญ จำนวน 19 ราย เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2567

ก.ค.ศ. อนุมัติให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีและเลื่อนเป็นวิทยฐานะเชี่ยวชาญ จำนวน 19 ราย เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2567

เปิดอ่าน 5,842 ☕ 26 เม.ย. 2567

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
ก.ค.ศ. อนุมัติให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีและเลื่อนเป็นวิทยฐานะเชี่ยวชาญ จำนวน 19 ราย เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2567
ก.ค.ศ. อนุมัติให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีและเลื่อนเป็นวิทยฐานะเชี่ยวชาญ จำนวน 19 ราย เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2567
เปิดอ่าน 5,842 ☕ 26 เม.ย. 2567

รายละเอียดการสอบแข่งขันฯ ตำแหน่งครูผู้ช่วย สังกัด สพฐ. ปี พ.ศ. 2567
รายละเอียดการสอบแข่งขันฯ ตำแหน่งครูผู้ช่วย สังกัด สพฐ. ปี พ.ศ. 2567
เปิดอ่าน 743 ☕ 26 เม.ย. 2567

สพฐ.แจ้งการสอบแข่งขันฯ ตำแหน่งครูผู้ช่วย สังกัด สพฐ. ปี พ.ศ. 2567 สมัครสอบทางออนไลน์เพียงรูปแบบเดียว
สพฐ.แจ้งการสอบแข่งขันฯ ตำแหน่งครูผู้ช่วย สังกัด สพฐ. ปี พ.ศ. 2567 สมัครสอบทางออนไลน์เพียงรูปแบบเดียว
เปิดอ่าน 1,346 ☕ 25 เม.ย. 2567

ประกาศผลการพิจารณาคัดเลือกโครงงานคุณธรรมเฉลิมพระเกียรติ "เยาวชนไทย ทำดี ถวายในหลวง" ปีที่ 18 ปีการศึกษา 2566 (ระดับประเทศ)
ประกาศผลการพิจารณาคัดเลือกโครงงานคุณธรรมเฉลิมพระเกียรติ "เยาวชนไทย ทำดี ถวายในหลวง" ปีที่ 18 ปีการศึกษา 2566 (ระดับประเทศ)
เปิดอ่าน 724 ☕ 25 เม.ย. 2567

การปรับหลักเกณฑ์การเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรม การจัดงาน และการจัดประชุมราชการ
การปรับหลักเกณฑ์การเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรม การจัดงาน และการจัดประชุมราชการ
เปิดอ่าน 1,737 ☕ 25 เม.ย. 2567

แนวทางการใช้จ่ายเงินนอกงบประมาณ ประเภทเงินเพื่อประโยชน์การศึกษา โครงการ "สุขาดี มีความสุข"
แนวทางการใช้จ่ายเงินนอกงบประมาณ ประเภทเงินเพื่อประโยชน์การศึกษา โครงการ "สุขาดี มีความสุข"
เปิดอ่าน 1,135 ☕ 25 เม.ย. 2567

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

กรมอนามัยแนะนำเด็กไทย ดื่มนมจืด 2 แก้ว ทุกวัน เพิ่มความสูงได้
กรมอนามัยแนะนำเด็กไทย ดื่มนมจืด 2 แก้ว ทุกวัน เพิ่มความสูงได้
เปิดอ่าน 3,646 ครั้ง

วิธีเช็คไฟฟ้าแบบง่าย ๆ
วิธีเช็คไฟฟ้าแบบง่าย ๆ
เปิดอ่าน 16,391 ครั้ง

พยางค์ และ คำ
พยางค์ และ คำ
เปิดอ่าน 82,256 ครั้ง

พบดาวฤกษ์ดวงใหม่ สว่างกว่าดวงอาทิตย์ 10 ล้านเท่า
พบดาวฤกษ์ดวงใหม่ สว่างกว่าดวงอาทิตย์ 10 ล้านเท่า
เปิดอ่าน 20,390 ครั้ง

ตามไปดูการศึกษานอกหลักสูตร : ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ คำตอบสุดท้ายจะออกมาอย่างไร
ตามไปดูการศึกษานอกหลักสูตร : ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ คำตอบสุดท้ายจะออกมาอย่างไร
เปิดอ่าน 10,987 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ