วัตถุประสงค์ของการศึกษา 1) เพื่อพัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 2) เพื่อหาดัชนีประสิทธิผลของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนและหลังเรียนวิชาคณิตศาสตร์ 4) เพื่อศึกษาเจตคติของนักเรียนต่อวิชาคณิตศาสตร์ ประชากรในการศึกษาครั้งนี้เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มตัวอย่างคือนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/4 จำนวน 35 คน โรงเรียนขนาดมอญพิทยาคม ซึ่งได้มาโดยวิธีการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล แบ่งออกเป็น 4 ส่วน 1) แผนการจัดการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ จำนวน 14 แผน 2) แบบฝึกทักษะเรื่องพหุนามและเศษส่วนพหุนาม 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ 4) แบบวัดเจตคติของนักเรียน วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน หาค่าร้อยละของคะแนน ระดับเจตคติและทดสอบเพื่อเปรียบเทียบค่าความแตกต่างค่าคะแนนเฉลี่ย โดยใช้ t-test เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ผลการศึกษาพบว่า
1. แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์โดยใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบ TGT ร่วมกับแบบฝึกทักษะ เรื่องพหุนามและเศษส่วนพหุนาม วิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม3 ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนขนาดมอญพิทยาคม มีประสิทธิภาพของการจัดการจัดเรียนรู้เท่ากับ 86.57/80.00 ซึ่งเท่ากับเกณฑ์ที่กำหนดไว้ตามเกณฑ์ 80/80
2. มีค่าดัชนีประสิทธิผลเท่ากับ 0.6916 แสดงว่าดัชนีประสิทธิผลของแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ทำให้นักเรียนมีความก้าวหน้าทางการเรียนคิดเป็นร้อยละ 69.16
3. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์โดยใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบ TGT ร่วมกับแบบฝึกทักษะ เรื่องพหุนามและเศษส่วนพหุนาม มีความแตกต่างระหว่างเฉลี่ยคะแนนทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05
4. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีระดับเจตคติของนักเรียนที่มีต่อวิชาคณิตศาสตร์ โดยรวมมีความเจตคติของนักเรียนอยู่ในระดับมาก