ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนาศักยภาพครูด้านการทำวิจัยในชั้นเรียน โรงเรียนเทศบาลลำน้ำพอง กองการศึกษา เทศบาลตำบลลำน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น

ชื่อเรื่อง การพัฒนาศักยภาพครูด้านการทำวิจัยในชั้นเรียน โรงเรียนเทศบาลลำน้ำพอง

กองการศึกษา เทศบาลตำบลลำน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น

ผู้วิจัย นางสาวรัตนสุดา แก้วกันยา ตำแหน่ง รองผู้อำนวยการสถานศึกษา

วิทยฐานะ รองผู้อำนวยการชำนาญการ

โรงเรียนเทศบาลลำน้ำพอง กองการศึกษา เทศบาลตำบลลำน้ำพอง

อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น

ปีที่วิจัย 2561

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาศักยภาพครูด้านการทำวิจัยในชั้นเรียน

โรงเรียนเทศบาลลำน้ำพอง กองการศึกษา เทศบาลตำบลลำน้ำพอง อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น

ให้มีความรู้ความเข้าใจสามารถเขียนเค้าโครงการวิจัยและทำวิจัยในชั้นเรียนกลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ ครูโรงเรียนเทศบาลลำน้ำพอง ปีการศึกษา 2561 จำนวน 8 คน เครื่องมือเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่แบบทดสอบมี 1 ฉบับใช้ก่อน - หลังการประชุมเชิงปฏิบัติการ แบบสัมภาษณ์ มี 2 ฉบับประกอบด้วย แบบสัมภาษณ์ 1) การประชุมเชิงปฏิบัติการ 2) แบบสัมภาษณ์การนิเทศ แบบสังเกตมี 2 ฉบับ 1) แบบสังเกตการประชุมเชิงปฏิบัติการ 2) แบบสังเกต การนิเทศ แบบประเมินเค้าโครงวิจัย มี 1 ฉบับ แบบประเมินรายงานการวิจัย มี 1 ฉบับ แบบประเมินความพึงพอใจของผู้ร่วมวิจัยและชุดพัฒนาการเรียนรู้ เรื่องการวิจัยในชั้นเรียนเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ ประกอบด้วยสาระสำคัญเกี่ยวกับการวิจัย ในชั้นเรียน มีทั้งหมด 9 หน่วยการเรียนรู้

ผลการวิจัย พบว่า

การพัฒนาศักยภาพครูด้านการทำวิจัยในชั้นเรียน โรงเรียนเทศบาลลำน้ำพอง กองการศึกษา เทศบาลตำบลลำน้ำพอง อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น มีผลสรุปการวิจัยดังนี้

1. ผลการพัฒนาในวงจรที่ 1

การดำเนินการพัฒนาในวงจรที่ 1 มีเป้าหมายเพื่อการพัฒนาบุคลากรครูให้มีความรู้ความเข้าใจ และความสามารถในการทำวิจัยในชั้นเรียนโดยใช้กรอบการพัฒนา 4 ขั้นตอน คือ การกำหนดหัวข้อการวิจัย การเขียนเค้าโครงการวิจัย การดำเนินการวิจัย และการเขียนรายงานการวิจัย ในชั้นเรียน โดยใช้กลยุทธ์ 2 กลยุทธ์ คือ การประชุมเชิงปฏิบัติการ การทำวิจัยในชั้นเรียน และการนิเทศภายใน มีการสะท้อนผล ดังนี้

1. การดำเนินการการประชุมเชิงปฏิบัติการ และการนิเทศภายใน

1.1 การกำหนดหัวข้อการวิจัย กลุ่มผู้ร่วมวิจัยในช่วงแรกที่ยังไม่ได้ผ่านการศึกษา เอกสารการวิจัยในชั้นเรียน การประชุมเชิงปฏิบัติการ และการนิเทศภายใน ไม่มีความรู้ความเข้าใจและความสามารถที่จะกำหนดหัวข้อการวิจัยได้ แต่หลังจากได้ผ่านการศึกษาเอกสารการวิจัยใน ชั้นเรียน การประชุมปฏิบัติการและได้ฝึกตามกิจกรรม และนิเทศติดตามให้คำแนะนำช่วยเหลือแล้ว ทุกคนมีความรู้ความเข้าใจ และความสามารถในการกำหนดหัวข้อการวิจัยชัดเจนขึ้นมีความมั่นใจ ในการทำวิจัยในชั้นเรียนต่อไป

1.2 การเขียนเค้าโครงการวิจัย กลุ่มผู้ร่วมวิจัยในช่วงแรกที่ยังไม่ได้ผ่านการศึกษาเอกสารการวิจัย การประชุมเชิงปฏิบัติการ และการนิเทศภายใน ไม่สามารถที่จะเขียน เค้าโครงการวิจัยได้ แต่หลังจากที่ได้ผ่านการศึกษาเอกสาร การประชุมเชิงปฏิบัติการตามกิจกรรมและการนิเทศติดตามให้คำแนะนำช่วยเหลือแล้ว ทุกคนมีความรู้ความเข้าใจ และความสามารถในการเขียนเค้าโครงการวิจัยชัดเจนขึ้น และในส่วนที่ยังไม่ชัดเจน ผู้ร่วมวิจัยยังมีความต้องการที่จะพัฒนา ในวงจรที่ 2 ต่อไป

1.3 การดำเนินการทำวิจัย กลุ่มผู้ร่วมวิจัยในช่วงแรกที่ยังไม่ได้ผ่านการศึกษาเอกสารการวิจัยทั้ง 9 เล่ม การประชุมเชิงปฏิบัติการ และการนิเทศภายใน ไม่สามารถที่จะเนินการทำวิจัยได้ แต่หลังจากที่ได้ผ่านการศึกษาเอกสาร การประชุมเชิงปฏิบัติการตามกิจกรรม และการนิเทศติดตามให้คำแนะนำช่วยเหลือแล้ว ทุกคนมีความรู้ความเข้าใจและความสามารถ ดำเนินการทำวิจัยชัดเจนขึ้นในส่วนที่ยังไม่ชัดเจน และผู้วิจัยยังต้องการที่จะพัฒนาในวงจรที่ 2 ต่อไป

1.4 การเขียนรายงานการวิจัย กลุ่มผู้ร่วมวิจัยในช่วงแรกที่ยังไม่ได้ผ่านการศึกษา

เอกสารการวิจัย การประชุมเชิงปฏิบัติการ และการนิเทศภายใน ไม่สามารถเขียนรายงานการวิจัยได้ แต่หลังจากได้ผ่านการศึกษาเอกสารการวิจัยในชั้นเรียน การประชุมเชิงปฏิบัติการตามกิจกรรม และการนิเทศติดตามให้คำแนะนำช่วยเหลือแล้ว ทุกคนมีความรู้ความเข้าใจและความสามารถในการเขียนรายงานการวิจัยชัดเจนขึ้น ในส่วนที่ยังไม่ชัดเจนผู้ร่วมวิจัยยังต้องการที่จะพัฒนาในวงจรที่ 2 ต่อไป

2. การทดสอบก่อนการประชุมและหลังการประชุมเชิงปฏิบัติการการทำวิจัยในชั้นเรียนการทดสอบผู้เข้ารับการประชุมก่อนการประชุมได้คะแนนเฉลี่ยร้อยละ 17.12 และ 13.00 ตามลำดับ คะแนนเฉลี่ยความก้าวหน้าร้อยละ 4.12 และมีค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) หลังประชุม สูงกว่าก่อนประชุม คือ 0.75 และ 1.35 ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการการทำวิจัยในชั้นเรียน มีผลต่อการพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ความเข้าใจในการทำวิจัยในชั้นเรียนก้าวหน้ามากขึ้น และเมื่อทราบผลทำให้ผู้ร่วมวิจัยมีความมั่นใจตนเองในการทำวิจัยมากขึ้น

2. ผลการพัฒนาในวงจรที่ 2

การดำเนินการพัฒนาในวงจรที่ 2 มีเป้าหมายเพื่อพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ความเข้าใจและความสามารถในการทำวิจัยในชั้นเรียน ตามกรอบการพัฒนา 3 ด้าน คือ การเขียน เค้าโครงการวิจัย การดำเนินการวิจัย และการเขียนรายงานการวิจัย โดยใช้กลยุทธ์การนิเทศภายในจำนวน 2 กิจกรรม คือ การนิเทศภายในโดยกิจกรรมการประชุมกลุ่ม และการนิเทศภายในโดยกิจกรรมพี่เลี้ยง มีการสะท้อนผล ดังนี้

1. การเขียนเค้าโครงการวิจัย หลังจากที่กลุ่มผู้ร่วมวิจัยได้ผ่านการนิเทศภายในโดยกิจกรรมการประชุมกลุ่มตามแผน และการนิเทศภายในโดยกิจกรรมพี่เลี้ยง เพื่อติดตามให้คำแนะนำช่วยเหลือเป็นกลุ่ม และรายบุคคล ในวงจรที่ 2 แล้ว ทุกคนมีความรู้ความเข้าใจและความสามารถในการเขียนเค้าโครงการวิจัยชัดเจนขึ้น

2. การดำเนินการวิจัย หลังจากที่กลุ่มผู้ร่วมวิจัยได้ผ่านการนิเทศภายในโดยกิจกรรม การประชุมกลุ่มตามแผน และการนิเทศภายในโดยกิจกรรมพี่เลี้ยงเพื่อติดตามให้คำแนะนำช่วยเหลือเป็นกลุ่ม และรายบุคคล ในวงจรที่ 2 แล้ว ทุกคนมีความรู้ความเข้าใจและความสามารถในการดำเนินการวิจัย ชัดเจนในส่วนที่ยังไม่ชัดเจนในวงจรที่ 1 ขึ้นกว่าเดิม

3. การเขียนรายงานวิจัย หลังจากที่กลุ่มผู้ร่วมวิจัยได้ผ่านการนิเทศภายในโดยกิจกรรมการประชุมกลุ่มตามแผน และการนิเทศภายในโดยกิจกรรมพี่เลี้ยงเพื่อติดตามให้คำแนะนำช่วยเหลือเป็นรายบุคคลในวงจรที่ 2 แล้ว ทุกคนมีความรู้ความเข้าใจ และความสามารถในการเขียนรายงานการวิจัยเพิ่มขึ้น แต่ยังไม่ มั่นใจว่าจะทำได้ดีมากน้อยเพียงใดคือ การเขียนรายงานส่วนเนื้อหา ด้านการสรุปผล อภิปรายผลและข้อเสนอแนะ

จากผลการสะท้อนการดำเนินการเพื่อพัฒนาบุคลากรด้านการทำวิจัยในชั้นเรียน

โดยได้ดำเนินการครบ 2 วงจร มีข้อค้นพบโดยรวม พบว่า กลุ่มผู้ร่วมวิจัยมีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องของความรู้ความเข้าใจ และความสามารถเพิ่มขึ้นจากเดิมที่ยังไม่ได้รับการพัฒนา เนื่องจากการศึกษาเอกสารการวิจัย การประชุมเชิงปฏิบัติการการทำวิจัยในชั้นเรียนและการนิเทศภายใน สามารถช่วยเหลือผู้ร่วมวิจัยให้มีความรู้ความเข้าใจ และความสามารถทำวิจัยในชั้นเรียนได้ตามกรอบการศึกษาค้นคว้าทุกด้าน แต่อย่างไรก็ตามควรมีการส่งเสริมและพัฒนาให้บุคลากรได้มีการทำวิจัย ในชั้นเรียนอยู่เสมอ โดยโรงเรียนให้การสนับสนุนบุคลากรได้มีโอกาสในการพัฒนาความรู้ ความเข้าใจ และความสามารถในการทำวิจัยในชั้นเรียนอย่างต่อเนื่อง

โพสต์โดย ศิริ : [9 มี.ค. 2563 เวลา 18:37 น.]
อ่าน [3404] ไอพี : 49.228.178.30
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 19,262 ครั้ง
คำพ่อสอน เรื่อง "การทำงาน" ให้ประสบความสำเร็จ
คำพ่อสอน เรื่อง "การทำงาน" ให้ประสบความสำเร็จ

เปิดอ่าน 6,430 ครั้ง
คู่มือการสอนอ่านเขียนโดยการแจกลูกสะกดคำ
คู่มือการสอนอ่านเขียนโดยการแจกลูกสะกดคำ

เปิดอ่าน 477 ครั้ง
5 ไอเดียเก็บรักษาปากกาสำหรับนักสะสม ให้สภาพสมบูรณ์ สวยใหม่อยู่เสมอ
5 ไอเดียเก็บรักษาปากกาสำหรับนักสะสม ให้สภาพสมบูรณ์ สวยใหม่อยู่เสมอ

เปิดอ่าน 12,840 ครั้ง
LCD (Liquid Crystal Display)
LCD (Liquid Crystal Display)

เปิดอ่าน 28,329 ครั้ง
มาค้นหาไฟล์ใหญ่ๆในฮาร์ดดิสก์กันเถอะ
มาค้นหาไฟล์ใหญ่ๆในฮาร์ดดิสก์กันเถอะ

เปิดอ่าน 16,691 ครั้ง
วิธีลดต้นขาง่าย ๆ สำหรับคุณสาว ๆ ต้นขาใหญ่
วิธีลดต้นขาง่าย ๆ สำหรับคุณสาว ๆ ต้นขาใหญ่

เปิดอ่าน 65,472 ครั้ง
จำนวนข้าราชการครูจำแนกตามระดับวิทยฐานะ
จำนวนข้าราชการครูจำแนกตามระดับวิทยฐานะ

เปิดอ่าน 29,130 ครั้ง
ดูคลิปนี้จบแล้วคุณจะเข้าใจ  "ครูผู้สอนด้วยหัวใจ (From The Heart)" : หนังครู 7- Eleven
ดูคลิปนี้จบแล้วคุณจะเข้าใจ "ครูผู้สอนด้วยหัวใจ (From The Heart)" : หนังครู 7- Eleven

เปิดอ่าน 19,090 ครั้ง
มโนทัศน์ของเทคโนโลยีการศึกษา
มโนทัศน์ของเทคโนโลยีการศึกษา

เปิดอ่าน 15,086 ครั้ง
ชาวโลกแห่ดูคลิป สิ่งเล็กๆ ในสังคมที่เรียกว่า “น้ำใจ“ ยอดคนดูเกือบ3ล้านครั้งแล้ว
ชาวโลกแห่ดูคลิป สิ่งเล็กๆ ในสังคมที่เรียกว่า “น้ำใจ“ ยอดคนดูเกือบ3ล้านครั้งแล้ว

เปิดอ่าน 11,411 ครั้ง
ฟังหรือยัง เพลง "จากนี้ไปจนนิพพาน"
ฟังหรือยัง เพลง "จากนี้ไปจนนิพพาน"

เปิดอ่าน 7,940 ครั้ง
อย. ยัน ไม่มีน้ำว่านหางจระเข้รักษาอีโบลาได้
อย. ยัน ไม่มีน้ำว่านหางจระเข้รักษาอีโบลาได้

เปิดอ่าน 10,289 ครั้ง
วิธีแต่งหน้าใส ๆ สวยสบายผิวหน้า
วิธีแต่งหน้าใส ๆ สวยสบายผิวหน้า

เปิดอ่าน 5,579 ครั้ง
รู้จัก The Big Five Domains เพื่อรู้จักวัยเรียนให้ดียิ่งขึ้น
รู้จัก The Big Five Domains เพื่อรู้จักวัยเรียนให้ดียิ่งขึ้น

เปิดอ่าน 12,199 ครั้ง
สมรรถนะที่จำเป็นสำหรับตำแหน่งข้าราชการพลเรือนสามัญ
สมรรถนะที่จำเป็นสำหรับตำแหน่งข้าราชการพลเรือนสามัญ

เปิดอ่าน 10,362 ครั้ง
อาหารก่อมะเร็ง
อาหารก่อมะเร็ง
เปิดอ่าน 43,115 ครั้ง
เปิดคู่มือ สามี-ภรรยา แยกยื่นภาษี หักค่าลดหย่อนได้เท่าไหร่บ้าง
เปิดคู่มือ สามี-ภรรยา แยกยื่นภาษี หักค่าลดหย่อนได้เท่าไหร่บ้าง
เปิดอ่าน 16,692 ครั้ง
ชาวเน็ตร่วมพิสูจน์! คลิปพญานาคโผล่เล่นน้ำสกลนคร...จริงหรือ?
ชาวเน็ตร่วมพิสูจน์! คลิปพญานาคโผล่เล่นน้ำสกลนคร...จริงหรือ?
เปิดอ่าน 20,295 ครั้ง
นโยบายสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 - 2565
นโยบายสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 - 2565
เปิดอ่าน 47,202 ครั้ง
7 สัญลักษณ์ในขวดพลาสติก มีความหมายอย่างไร อันไหนรีไซเคิลได้ ที่นี่มีคำตอบ
7 สัญลักษณ์ในขวดพลาสติก มีความหมายอย่างไร อันไหนรีไซเคิลได้ ที่นี่มีคำตอบ

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ