ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการบริหารสถานศึกษาโดยใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อส่งเสริมนักเรียนให้มีทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 กรณีศึกษา : โรงเรียนพื้นที่เกาะ (อำเภอเกาะยาว) จังหวัดพังงา

ชื่อเรื่อง : การพัฒนารูปแบบการบริหารสถานศึกษาโดยใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

เพื่อส่งเสริมนักเรียนให้มีทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21

กรณีศึกษา : โรงเรียนพื้นที่เกาะ (อำเภอเกาะยาว) จังหวัดพังงา

ผู้วิจัย : อัจฉรา สอนสั่ง

ปีการศึกษา : 2565

บทคัดย่อ

การพัฒนารูปแบบการบริหารสถานศึกษาโดยใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อส่งเสริมนักเรียนให้มีทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 กรณีศึกษา : โรงเรียนพื้นที่เกาะ (อำเภอเกาะยาว) จังหวัดพังงา มีวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1) เพื่อศึกษาสภาพปัญหาและความต้องการในการพัฒนารูปแบบการบริหารสถานศึกษาโดยใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อส่งเสริมนักเรียนให้มีทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 2) เพื่อสร้างและพัฒนารูปแบบการบริหารสถานศึกษาโดยใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อส่งเสริมนักเรียนให้มีทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการบริหารสถานศึกษาโดยใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อส่งเสริมนักเรียนให้มีทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 และ 4) เพื่อประเมินและปรับปรุงรับรองรูปแบบการบริหารสถานศึกษาโดยใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อส่งเสริมนักเรียนให้มีทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 การวิจัย ครั้งนี้แบ่งออกเป็น 4 ระยะดังนี้ ระยะที่ 1 การวิจัย (Research : R1) การศึกษาสภาพปัญหาและความต้องการในการพัฒนารูปแบบการบริหารสถานศึกษาโดยใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อส่งเสริมนักเรียนให้มีทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 เครื่องมือได้แก่ แบบสอบถามการวิจัย (ฉบับที่ 1) แบบสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้างเพื่อการวิจัย (ฉบับที่ 2) และแบบบันทึกการสนทนากลุ่มย่อย (Focus Group Discussion : FGD) (ฉบับที่ 3) ผู้ให้ข้อมูลคือ ผู้บริหารสถานศึกษา จำนวน 15 คน ครูผู้สอน จำนวน 30 คน และผู้ปกครองนักเรียน จำนวน 30 คน ระยะที่ 2 การพัฒนา (Development : D1) การออกแบบและพัฒนารูปแบบการบริหารสถานศึกษาโดยใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อส่งเสริมนักเรียนให้มีทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 เครื่องมือได้แก่ แบบสอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับความเหมาะสม ความเป็นไปได้ การใช้ประโยชน์ (ฉบับที่ 4) แบบประเมินความสอดคล้อง (IOC) (ฉบับที่ 5) และแบบประเมินคู่มือ (ฉบับที่ 6) ผู้ให้ข้อมูลคือ ผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 5 คน และผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 17 คน ระยะที่ 3 การวิจัย (Research : R2) การทดลองใช้รูปแบบการบริหารสถานศึกษาโดยใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อส่งเสริมนักเรียนให้มีทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 เครื่องมือได้แก่ แบบประเมินการปฏิบัติงานตามหน้าที่ของบุคลากร (ฉบับที่ 7) และแบบประเมินทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของนักเรียน (ฉบับที่ 8) กลุ่มตัวอย่างคือ ครูผู้สอน จำนวน 8 คน และนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 93 คน และระยะที่ 4 การพัฒนา (Development : D2) การประเมินและปรับปรุงรับรองรูปแบบการบริหารสถานศึกษาโดยใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อส่งเสริมนักเรียนให้มีทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 เครื่องมือได้แก่ แบบประเมินปรับปรุงแก้ไของค์ประกอบของรูปแบบ (ฉบับที่ 9) ผู้ให้ข้อมูลคือ ผู้บริหารสถานศึกษา จำนวน 1 คน และครูผู้สอน จำนวน 8 คน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่า

1. ผลการศึกษาสภาพปัญหาและความต้องการในการพัฒนารูปแบบการบริหารสถานศึกษาโดยใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อส่งเสริมนักเรียนให้มีทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 พบว่า โดยรวมมีสภาพปัญหาอยู่ในระดับปานกลาง (x̄= 2.52, S.D. = 1.09) และมีความต้องการอยู่ในระดับมาก (x̄= 3.86, S.D. = 1.14) และมีแนวทางการพัฒนารูปแบบการบริหารสถานศึกษาให้สอดคล้องกับยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงในโลกปัจจุบันที่การศึกษาต้องมีการปฏิรูประบบการบริหารจัดการให้มีความเหมาะสมกับพื้นที่และบริบทของนักเรียนที่นักเรียนอาศัยอยู่ โดยการสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้างและการสนทนากลุ่มย่อย (Focus Group Discussion : FGD) ของผู้บริหารสถานศึกษา ครูผู้สอนและผู้ปกครอง และได้ศึกษาเกี่ยวกับหลักการ แนวคิด ทฤษฎีและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับ การพัฒนารูปแบบการบริหารสถานศึกษา การพัฒนาองค์กร หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21

2. ผลการออกแบบและพัฒนารูปแบบการบริหารสถานศึกษาโดยใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อส่งเสริมนักเรียนให้มีทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 มีชื่อว่า “Area-Based Model” เป็นกระบวนการดำเนินงานในการบริหารสถานศึกษาที่สร้างและพัฒนาขึ้นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ ในการบริหารสถานศึกษา ประกอบด้วย 6 องค์ประกอบหลัก ได้แก่ 1) หลักการ 2) วัตถุประสงค์ 3) เป้าหมาย 4) กระบวนการบริหารสถานศึกษา (PSRAPST Stages) มี 7 ขั้นตอน ดังนี้ ขั้นที่ 1 : การวางแผนการเปลี่ยนแปลงโดยใช้พื้นที่เกาะเป็นฐานการพัฒนา (Planed Change Area-Based Development Stage : P) ขั้นที่ 2 : การกำหนดกลยุทธ์การบริหารการเปลี่ยนแปลง (Strategic Administration of Changing Stage : S) ขั้นที่ 3 : การปรับโครงสร้างการบริหารจัดการศึกษา (Restructure Administration Stage : R) ขั้นที่ 4 : การปฏิบัติการตามกลยุทธ์ (Action Implementation Stage : A) ขั้นที่ 5 : การพัฒนาบุคคลากร (People Change Stage : P) ขั้นที่ 6 : การติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงาน (Supervision and Evaluation Stage : S) ขั้นที่ 7 : การสร้างภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงร่วมกัน (Transection Leadership Stage : T) 5) การประเมินผล และ 6) ปัจจัยที่เอื้อสู่ความสำเร็จ มีความเหมาะสมกับการบริหารสถานศึกษาในโรงเรียนพื้นที่เกาะ มีความเป็นไปได้สามารถนำไปปฏิบัติได้จริง เป็นประโยชน์ต่อสถานศึกษา ผู้บริหาร ครู และนักเรียน

3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการบริหารสถานศึกษาโดยใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อส่งเสริมนักเรียนให้มีทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 พบว่า หลังจากการนำรูปแบบการบริหารสถานศึกษา มีชื่อว่า “Area-Based Model” ครูผู้สอนมีการปฏิบัติในระดับมากที่สุด (x̄= 4.58, S.D. = 0.55) และนักเรียนมีทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 โดยนักเรียนปฏิบัติ/แสดงพฤติกรรมนั้นทุกครั้ง หรือ 100% (x̄= 2.51, S.D. = 0.50)

4. ผลการประเมินและปรับปรุงรับรองรูปแบบการบริหารสถานศึกษาโดยใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อส่งเสริมนักเรียนให้มีทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 พบว่า องค์ประกอบของรูปแบบการบริหารสถานศึกษา มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด (x̄= 4.68, S.D. = 0.52) และมีการนำไปใช้ได้จริงอยู่ในระดับมากที่สุด (x̄= 4.57, S.D. = 0.60) ผู้บริหารสถานศึกษาและครูผู้สอนมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด (x̄= 4.56, S.D. = 0.68)

โพสต์โดย kratai : [7 พ.ค. 2567 (16:28 น.)]
อ่าน [652] ไอพี : 118.172.171.17
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 15,525 ครั้ง
ฟื้นฟูตัวเอง 15 วัน เปลี่ยน...ให้สวย
ฟื้นฟูตัวเอง 15 วัน เปลี่ยน...ให้สวย

เปิดอ่าน 15,938 ครั้ง
แตงกวามีดีกว่าที่คุณคิด
แตงกวามีดีกว่าที่คุณคิด

เปิดอ่าน 32,295 ครั้ง
ปวดหัว แก้ด้วยวารีบำบัด
ปวดหัว แก้ด้วยวารีบำบัด

เปิดอ่าน 69,180 ครั้ง
รูปแบบการรายงานผลการวิจัยแบบเป็นทางการ
รูปแบบการรายงานผลการวิจัยแบบเป็นทางการ

เปิดอ่าน 14,994 ครั้ง
กินวิตามินอย่างไรให้ได้ประโยชน์
กินวิตามินอย่างไรให้ได้ประโยชน์

เปิดอ่าน 17,460 ครั้ง
ภัยร้ายความเค็มสะสมจากพริกน้ำปลา
ภัยร้ายความเค็มสะสมจากพริกน้ำปลา

เปิดอ่าน 23,856 ครั้ง
"ชงโค"..ไม้ประดับที่มีสรรพคุณรักษาโรค
"ชงโค"..ไม้ประดับที่มีสรรพคุณรักษาโรค

เปิดอ่าน 999 ครั้ง
"สมาคมธนาคารไทย" แนะ 6 วิธีป้องกันแอปดูดเงิน
"สมาคมธนาคารไทย" แนะ 6 วิธีป้องกันแอปดูดเงิน

เปิดอ่าน 68,853 ครั้ง
รายชื่อและที่อยู่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา 175 เขต
รายชื่อและที่อยู่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา 175 เขต

เปิดอ่าน 24,362 ครั้ง
สวนแนวตั้งสุดฮิปสไตล์คนรักสับปะรดสี
สวนแนวตั้งสุดฮิปสไตล์คนรักสับปะรดสี

เปิดอ่าน 21,976 ครั้ง
นายการุณ สกุลประดิษฐ์ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
นายการุณ สกุลประดิษฐ์ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน

เปิดอ่าน 9,587 ครั้ง
สวยสู้ฤดูหนาว ด้วยสารพัดอาหารผิวจากธรรมชาติ
สวยสู้ฤดูหนาว ด้วยสารพัดอาหารผิวจากธรรมชาติ

เปิดอ่าน 24,497 ครั้ง
ความรู้ทั่วไป "8 วิธี ขับเกียร์ออโต้ ประหยัดน้ำมัน"
ความรู้ทั่วไป "8 วิธี ขับเกียร์ออโต้ ประหยัดน้ำมัน"

เปิดอ่าน 16,992 ครั้ง
ผลวิจัย "ซุปไก่สกัด" มีผลดีต่อสมองและร่างกาย
ผลวิจัย "ซุปไก่สกัด" มีผลดีต่อสมองและร่างกาย

เปิดอ่าน 59,855 ครั้ง
พระพุทธรูปในศิลปะไทยสมัยต่าง ๆ
พระพุทธรูปในศิลปะไทยสมัยต่าง ๆ

เปิดอ่าน 12,166 ครั้ง
บุหรี่มวน (Cigarette) ผลกระทบต่อสุขภาพ
บุหรี่มวน (Cigarette) ผลกระทบต่อสุขภาพ
เปิดอ่าน 15,496 ครั้ง
แนวปฏิบัติการเสนอหนังสือราชการของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
แนวปฏิบัติการเสนอหนังสือราชการของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
เปิดอ่าน 41,893 ครั้ง
"หัวใจเต้นผิดจังหวะ" แค่ตื่นเต้นหรือป่วย
"หัวใจเต้นผิดจังหวะ" แค่ตื่นเต้นหรือป่วย
เปิดอ่าน 13,255 ครั้ง
"ถั่ว" ยาต้านมะเร็งตับอ่อน
"ถั่ว" ยาต้านมะเร็งตับอ่อน
เปิดอ่าน 37,720 ครั้ง
มุมกล้องกับช่องว่าง
มุมกล้องกับช่องว่าง

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ