ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
ชื่อเรื่อง การพัฒนาทักษะการเรียนภาษาอังกฤษโดยใช้สื่อผสมการ์ตูนแอนิเมชั่นของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปี

บทคัดย่อ

การพัฒนาทักษะการเรียนภาษาอังกฤษโดยใช้สื่อผสมการ์ตูนแอนิเมชั่นของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาล 2 บ้านสะเดา การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) สำรวจข้อมูลพื้นฐานเพื่อสร้างสื่อผสมการ์ตูนแอนิเมชั่น ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาล 2 บ้านสะเดา 2) พัฒนาหาประสิทธิภาพพัฒนาทักษะการเรียนภาษาอังกฤษโดยใช้สื่อผสมการ์ตูน แอนิเมชั่นของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาล 2 บ้านสะเดา ให้มีประสิทธิภาพ 3) การทดลองใช้สื่อผสมการ์ตูนแอนิเมชั่นเพื่อพัฒนาทักษะการเรียนภาษาอังกฤษ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาล 2 บ้านสะเดา 4) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียน และหลังเรียนเพื่อพัฒนาทักษะการเรียนภาษาอังกฤษโดยการใช้สื่อผสมการ์ตูนแอนิเมชั่น ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาล 2 บ้านสะเดา และ 5) เพื่อประเมินความพึงพอใจการใช้สื่อผสมการ์ตูนแอนิเมชั่นเพื่อพัฒนาทักษะการเรียนภาษาอังกฤษ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาล 2 บ้านสะเดา วิธีดำเนินการวิจัยครั้งนี้ผู้วิจัยได้ดำเนินการตามกระบวนการวิจัย กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ได้กลุ่มตัวอย่างมาจากการเลือกตัวอย่างแบบเจาะจง (Purposive Sampling Selection) คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2558 โรงเรียนเทศบาล 2 บ้านสะเดา จำนวน 1 ห้อง นักเรียนจำนวนทั้งสิ้น 36 คน สำหรับเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย สื่อผสมการ์ตูนแอนิเมชั่น แผนการจัดการเรียน แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และแบบสอบถามความพึงพอใจ เก็บข้อมูลด้วยการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยค่าสถิติ คือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่า t-test และ การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพด้วยวิธีการวิเคราะห์เนื้อหา

ผลการวิจัย พบว่า

1. ข้อมูลเบื้องต้นจากการจัดการเรียนรู้ระดับประถมศึกษา ประกอบด้วย

1.1 ข้อมูลทุติยภูมิ การจัดการเรียนรู้ของนักเรียนชั้นประถมศึกษา มุ่งให้นักเรียนมีพัฒนาการด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม และสติปัญญาที่เหมาะสมกับวัย มุ่งให้นักเรียนเกิดสมรรถนะ 1) ความสามารถในการสื่อสาร 2) ความสามารถในการคิด เป็นความสามารถในการคิดวิเคราะห์ 3) ความสามารถในการแก้ปัญหา เป็นความสามารถในการแก้ปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ 4) ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิตเป็นความสามารถในการนำกระบวนการ ต่าง ๆ ไปใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวัน และ 5) ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี โดยช่วงเวลาสำคัญที่สุดของการเรียนรู้ของมนุษย์ คือ ช่วงวัยเด็ก เพราะสามารถพัฒนาสมองได้ถึง 80% ของผู้ใหญ่ ข้อมูลต่าง ๆ ที่ผ่านเข้ามาจะไปกระตุ้นสมองของเด็ก ทำให้เชื่อมโยงกันเป็นเครือข่ายเส้นใยสมองและเกิดจุดเชื่อมต่อมากมาย ส่งผลให้เด็กเข้าใจและเกิดการเรียนรู้ในเรื่องต่าง ๆ สมองของเด็กพัฒนาจากการทำงานของกล้ามเนื้อมัดเล็ก ทักษะความคล่องตัวของกล้ามเนื้อมัดเล็กจะพัฒนาภายในช่วงเวลา 10 ปีแรก ดังนั้น ถ้าหากเด็กได้ฝึกฝนการใช้มือ การใช้กล้ามเนื้อมัดเล็กของมือ จะทำให้สมองสร้างเครือข่ายเส้นใยสมอง จุดเชื่อมต่อ และสร้างไขมันล้อมรอบเส้นใยสมองและเซลล์สมองที่ทำหน้าที่ควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อมัดเล็กได้มาก ทำให้เกิดทักษะการใช้กล้ามเนื้อมัดเล็ก

1.2 ข้อมูลปฐมภูมิ การจัดการเรียนรู้ให้กับนักเรียนชั้นประถมศึกษา เพื่อการพัฒนาทักษะการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ มีความจำเป็นและสามารถเชื่อมโยงการเรียนรู้กับความจริงในชีวิตประจำวันเของเด็กซึ่งต้องมีความสอดคล้องกับพัฒนาการทุก ๆ ด้านของนักเรียนประถมศึกษา รวมทั้งการเคลื่อนไหวร่างกายอันส่งผลโดยตรงต่อการจัดการเรียนรู้ให้แก่นักเรียน ดังนั้น ผู้วิจัยจึงเห็นความสำคัญในการพัฒนาทักษะการเรียนภาษาอังกฤษ โดยใช้สื่อผสมแอนิเมชั่นต้องอาศัยข้อมูลจาก ผู้มีหน้าที่ในการจัดการเรียนรู้ที่มีความสำคัญในการใช้เป็นข้อมูลในการสร้างสื่อนวัตกรรมการเรียนการสอนที่สอดคล้องกับหลักสูตรประถมศึกษา แผนการจัดการเรียนรู้ รวมถึงการวัดและประเมินผลที่มีความสอดคล้องกับการจัดการเรียนรู้เพื่อประโยชน์ในการนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน และเป็นฐานความรู้เพื่อศึกษาต่อในระดับสูง การพัฒนาการทางสติปัญญาของเด็กเป็นขั้น ๆ ตามลำดับอายุ คือ เด็กมีความสามารถในขั้นปฏิบัติการคิดแบบรูปธรรม (Concrete Operational Stage) ซึ่งอยู่ในช่วงอายุ 7-11 ปี ในช่วงอายุดังกล่าวนี้เด็กมีความสามารถในการใช้เหตุผลกับสิ่งที่เห็นได้ เช่น การจัดแบ่งกลุ่ม แบ่งพวก ฯลฯ และมองเห็นความสัมพันธ์ของสิ่งต่าง ๆ ได้ดีขึ้น ในขั้นนี้ทำให้มองเห็น ได้ว่า เด็กสามารถมีความคิดในการตัดสินใจได้อย่างมีเหตุผลกับสิ่งที่เห็นได้เป็นรูปธรรม สามารถคิดได้ว่าการกระทำใดบ้างจะเป็นไปได้และผลออกมาอย่างไร โดยไม่ต้องลองผิดลองถูก สามารถบอกจำนวนและมีความสามารถด้านการคำนวณเพื่อการแก้ไขปัญหาได้ เปรียบเทียบสิ่งที่เป็นรูปธรรมได้ เด็กวัยนี้มีความสามารถใหม่ ๆ เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะความสำคัญของวิชาภาษาต่างประเทศซึ่งในปัจจุบันสถาบันการศึกษาให้ความสำคัญ และการหาวิธีการจัดการเรียนรู้ที่มีคุณภาพเพื่อให้ได้ผู้เรียนที่มีคุณภาพ การจัดสัดส่วนเวลาของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ผู้เรียนเป็นผู้รับความรู้ให้น้อยลง และเพิ่มเวลาของกิจกรรมการเรียนรู้ที่ผู้เรียนเป็นผู้ลงมือปฏิบัติจริง และสร้างความรู้ด้วยตนเองมากขึ้น เพื่อให้ผู้เรียนได้รับการพัฒนาตามความสนใจ ความถนัดและความต้องการได้เพิ่มพูนทักษะการคิดวิเคราะห์ ทักษะชีวิต ความมีน้ำใจ การทำงานเป็นทีม และมีความสุข ในการเรียนรู้ ในสังคมโลกศตวรรษที่ 21 ภาษาสากลที่นักเรียนทุกคนต้องเรียนรู้ คือ ภาษาอังกฤษเป็นภาษาสากลของโลกที่มีการใช้กันอย่างแพร่หลายและเป็นที่รู้จัก มีความจำเป็นในการนำไปใช้เพื่อการดำรงชีวิต โดยเฉพาะปัจจุบันการศึกษาของไทยให้ความสำคัญและเน้นย้ำการใช้ภาษาอย่างมีคุณภาพ สามารถนำไปใช้ในการประกอบอาชีพด้วยยุคที่มีเทคโนโลยีที่มีความก้าวหน้า การทำงาน การสื่อสารด้วยภาษาสากลผ่านสื่อออนไลน์ การสื่อสารโดยตรง ต้องอาศัยความรู้ความสามารถในการนำไปใช้ซึ่งต้องมีความสอดคล้องกับวิถีชีวิตตั้งแต่วัยเด็กเล็ก การจัดการเรียนรู้ให้นักเรียนประถมศึกษาเพื่อให้เกิดทักษะการเรียน และก่อให้เกิด การพัฒนาภาษาอังกฤษ โดยให้ความสำคัญกับสื่อที่ใช้ในการเรียนการสอนเพื่อการพัฒนา จากการศึกษาพบว่า สื่อการเรียนการสอนมีความจำเป็นและมีความสำคัญต่อการจัดการเรียนรู้ให้นักเรียน อันเป็นรากฐานการเรียนรู้เพื่อการเกิดประสบการณ์ที่มาจากการใช้ประสาทสัมผัสทั้ง 5 ซึ่งมีความสำคัญต่อพัฒนาทักษะทางด้านภาษาที่มีประสิทธิภาพและสอดคล้องบรรลุวัตถุประสงค์ การจัดการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 โดยเฉพาะการใช้สื่อการเรียนการสอนที่มาจากการวิจัยและพัฒนานี้สามารถสร้างได้ตรงตามวัตถุประสงค์การนำไปใช้เพื่อการพัฒนานักเรียน และสามารถที่นำไป ประยุกต์ใช้เพื่อการพัฒนานักเรียนในพื้นที่บริบทที่มีความแตกต่าง สื่อผสมการ์ตูนแอนิเมชั่นสามารถช่วยสร้างความเร้าใจ ดึงดูดความสนใจในการทำให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ด้วยภาพเคลื่อนไหว เสียง สีความสวยงามในการทำให้ผู้เรียนเกิดจินตนาการ มีความคิดสร้างสรรค์โลดแล่นประหนึ่งว่าตัวเองเป็น ตัวละครหนึ่งในสื่อผสมการ์ตูนแอนิเมชั่น ดังนั้น ผู้สอนต้องจัดการเรียนรู้ที่มีเหมาะสมกับช่วงวัย โดยการใช้สื่อการเรียนการสอนที่เหมาะสม และเกิดประสิทธิภาพในการนำสื่อผสมการ์ตูนแอนิเมชั่น ไปใช้ และต้องใช้เวลาในการพัฒนาสื่อไปเรื่อย ๆ เพราะวันเวลาผ่านไปความทันสมัยก็ตามมาอย่างรวดเร็ว จึงต้องพัฒนาไปอีกระดับหนึ่ง แต่อย่างไรก็ตามคุณครูต้องอาศัยการสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ของเด็ก ๆ เพื่อการพัฒนาการเรียนรู้ให้เกิดขึ้นได้จริงกับเด็ก ๆ ไปพร้อมกับการพัฒนาสื่อการเรียนการสอนแบบสื่อผสมที่มีความหลากหลาย เพื่อนักเรียนไม่เกิดความจำเจ เบื่อหน่าย

2. ค่าประสิทธิภาพพัฒนาการใช้สื่อผสมการ์ตูนแอนิเมชั่น เพื่อพัฒนาทักษะการเรียนภาษาอังกฤษ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 3 รอบ มีค่าประสิทธิภาพเท่ากับร้อยละ 36.00/40.00, 47.67/48.33 และ 80.27/81.17 ตามลำดับ

3. เพื่อการพัฒนาทักษะการเรียนภาษาอังกฤษ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาล 2 บ้านสะเดา มีค่าประสิทธิภาพตามเกณฑ์เท่ากับร้อยละ 85.39/90.42 ซึ่งมีค่าสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้

4. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการเรียนภาษาอังกฤษ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โดยการใช้สื่อผสมการ์ตูนแอนิเมชั่น หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

5. จากการพัฒนาการนำสื่อผสมการ์ตูนแอนิเมชั่น เพื่อใช้พัฒนาทักษะการเรียนภาษาอังกฤษ จนกระทั่งมีประสิทธิภาพสามารถนำไปใช้ได้จริง สื่อผสมการ์ตูนแอนิเมชั่นมีความน่าสนใจ เนื่องจากมีภาพเคลื่อนไหว มีการพูดคุย ชวนสนทนา สามารถดึงดูดนักเรียนให้เกิดความสนใจ ใส่ใจต่อการเรียนที่มีประสิทธิภาพสามารถทำให้ผู้เรียนเกิดพัฒนาการเรียนรู้ทางด้านภาษาอังกฤษได้อย่างง่าย ๆ และสื่อความหมายการนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน

โพสต์โดย แหวน : [29 ก.ค. 2559 เวลา 07:47 น.]
อ่าน [3014] ไอพี : 183.89.203.240
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 15,078 ครั้ง
ไหว้ "ตรุษจีน" อย่างถูกต้อง รวม "เคล็ด-ของ" ทำพิธีไหว้เจ้า!!
ไหว้ "ตรุษจีน" อย่างถูกต้อง รวม "เคล็ด-ของ" ทำพิธีไหว้เจ้า!!

เปิดอ่าน 30,554 ครั้ง
เรื่องของคาราโอเกะ
เรื่องของคาราโอเกะ

เปิดอ่าน 9,408 ครั้ง
เที่ยวมหกรรมนวดนานาชาติ ในงานแฟร์สุขภาพ
เที่ยวมหกรรมนวดนานาชาติ ในงานแฟร์สุขภาพ

เปิดอ่าน 21,281 ครั้ง
ทายนิสัยจากการอาบน้ำ
ทายนิสัยจากการอาบน้ำ

เปิดอ่าน 13,976 ครั้ง
ประกาศแล้ว..ผลประกวดคำขวัญกรุงเทพ​ฯ
ประกาศแล้ว..ผลประกวดคำขวัญกรุงเทพ​ฯ

เปิดอ่าน 32,880 ครั้ง
วิวัฒนาการความคิดทางการศึกษา
วิวัฒนาการความคิดทางการศึกษา

เปิดอ่าน 15,551 ครั้ง
ตอบข้อข้องใจ...สมาชิก ช.พ.ค. เรื่อง จำนวนสมาชิก ช.พ.ค. ทั้งหมด ใครถึงแก่กรรม/ใครสมัครใหม่
ตอบข้อข้องใจ...สมาชิก ช.พ.ค. เรื่อง จำนวนสมาชิก ช.พ.ค. ทั้งหมด ใครถึงแก่กรรม/ใครสมัครใหม่

เปิดอ่าน 11,846 ครั้ง
12 เดือน 7 ดาว 9 ตะวัน
12 เดือน 7 ดาว 9 ตะวัน

เปิดอ่าน 44,485 ครั้ง
ประกาศ สพฐ.หลักเกณฑ์ อัตรา และวิธีการนำเงินรายได้สถานศึกษาไปจ่ายเป็นค่าใช้จ่ายในสถานศึกษา
ประกาศ สพฐ.หลักเกณฑ์ อัตรา และวิธีการนำเงินรายได้สถานศึกษาไปจ่ายเป็นค่าใช้จ่ายในสถานศึกษา

เปิดอ่าน 8,280 ครั้ง
Smart Thailand
Smart Thailand

เปิดอ่าน 9,393 ครั้ง
งานแฟร์ เพื่อนพึ่ง(ภา) 2552 ช็อปของขวัญปีใหม่สไตล์วัง
งานแฟร์ เพื่อนพึ่ง(ภา) 2552 ช็อปของขวัญปีใหม่สไตล์วัง

เปิดอ่าน 41,102 ครั้ง
กฎสามส่วน (Rule of Third)
กฎสามส่วน (Rule of Third)

เปิดอ่าน 40,086 ครั้ง
กินไข่สุก ๆ ดิบ ๆ มีโทษ
กินไข่สุก ๆ ดิบ ๆ มีโทษ

เปิดอ่าน 154,115 ครั้ง
ดนตรีไทย
ดนตรีไทย

เปิดอ่าน 14,421 ครั้ง
น้ำผึ้ง ชะลอริ้วรอย
น้ำผึ้ง ชะลอริ้วรอย

เปิดอ่าน 13,281 ครั้ง
"ผลสอบ" วัดความสามารถ การทำงานได้จริงหรือ ?
"ผลสอบ" วัดความสามารถ การทำงานได้จริงหรือ ?
เปิดอ่าน 4,569 ครั้ง
ประวัติความน่าจะเป็น
ประวัติความน่าจะเป็น
เปิดอ่าน 14,448 ครั้ง
เหรียญงานพระราชสงครามยุโรป
เหรียญงานพระราชสงครามยุโรป
เปิดอ่าน 9,984 ครั้ง
ล้มต้นไม้มือเปล่า ผู้ชายคนนี้ ขวานไม่ต้อง
ล้มต้นไม้มือเปล่า ผู้ชายคนนี้ ขวานไม่ต้อง
เปิดอ่าน 20,614 ครั้ง
ระบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ (ฉบับที่ 6) พ.ศ.2545
ระบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ (ฉบับที่ 6) พ.ศ.2545

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
Koi360
คลินิกเสริมความงาม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 081-3431047

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ