การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสภาพและปัญหาของการบริหารงานวิชาการแบบมีส่วนร่วม เพื่อพัฒนาศักยภาพผู้เรียนสู่ความเป็นเลิศ ของโรงเรียนเทศบาลวัดไทยชุมพล (ดำรงประชาสรรค์)และเพื่อพัฒนารูปแบบการบริหารงานวิชาการแบบมีส่วนร่วม เพื่อพัฒนาศักยภาพผู้เรียนสู่ความเป็นเลิศ ของโรงเรียนเทศบาลวัดไทยชุมพล (ดำรงประชาสรรค์) โดยใช้วิธีการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) ใช้กลุ่มตัวอย่างในการวิจัย รวมทั้งสิ้น 468 คน ประกอบด้วย ผู้บริหารสถานศึกษา 3 คนครู 77 คน คณะกรรมการสถานศึกษา 13 คน ผู้ปกครอง 60 คน ชุมชน 12 คน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 3 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง นักเรียน 300 คน ได้มาด้วยการสุ่มโดยใช้ตารางสุ่มเครจซี่และมอร์แกน(Krejcie&Morgan) ผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 5 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง ในการประเมินความเหมาะสมและความเป็นไปได้ของรูปแบบ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบบันทึกประเด็นศึกษาเกี่ยวกับบริบทของโรงเรียนแบบสอบถามประเภทสำรวจรายการ (checklist) เป็นแบบมาตรประมาณค่า 5 ระดับ วิเคราะห์ค่าเฉลี่ย, ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และยกร่างรูปแบบฯ โดยผู้วิจัย ประเมินความเหมาะสมของรูปแบบฯ โดยผู้ทรงคุณวุฒิ ทดลองใช้รูปแบบฯ ทำการประเมินประสิทธิภาพของรูปแบบฯ ความพึงพอใจเกี่ยวกับรูปแบบฯโดยผู้เกี่ยวข้องและผู้ที่ได้รับผลกระทบ และนำเสนอรูปแบบฯ ฉบับสมบูรณ์

ผลการวิจัยพบว่า

1. สภาพการบริหารงานวิชาการแบบมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาศักยภาพผู้เรียนสู่ความเป็นเลิศในภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง ( "Χ" ̅" = 3.22" ) เป็นไปในทิศทางเดียวกันทุกด้าน คือ ส่วนใหญ่ผู้บริหารเปิดโอกาสให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเข้ามามีส่วนร่วมในทุกขั้นตอนอยู่ในระดับมากทั้งด้านการพัฒนาหลักสูตรและกระบวนการเรียนรู้การพัฒนาแหล่งเรียนรู้และภูมิปัญญาท้องถิ่นการวัดและประเมินผลการวิจัยเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา การแนะแนวการศึกษา การนิเทศการศึกษาการพัฒนาสื่อวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา และการบริหารงานห้องสมุด แต่ครู คณะกรรมการสถานศึกษา นักเรียน ผู้ปกครองชุมชน และองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น แสดงการมีส่วนร่วม อยู่ในระดับน้อย ทุกขั้นตอน

ในด้านปัญหาของการบริหารงานวิชาการแบบมีส่วนร่วม เพื่อพัฒนาศักยภาพผู้เรียนสู่ความเป็นเลิศของโรงเรียนเทศบาลวัดไทยชุมพล (ดำรงประชาสรรค์) ในภาพรวม พบว่ามีปัญหาอยู่ในระดับมาก ( "Χ" ̅" = 4.06" ) เรียงลำดับ ดังนี้ ด้านปกครอง/ชุมชน/องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นโดยรวมมีปัญหาอยู่ในระดับมากที่สุด ( "Χ" ̅" = 4.51" ) ซึ่งข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ขาดความรู้ความเข้าใจเรื่องการบริหารแบบมี ส่วนร่วมมีปัญหาอยู่ในระดับมากที่สุด ( "Χ" ̅" = 4.68" ) ด้านสถานศึกษา โดยรวมมีปัญหาอยู่ในระดับมาก ( "Χ" ̅" = 4.33" ) ซึ่งข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ยังไม่มีรูปแบบการบริหารงานวิชาการแบบมีส่วนร่วมมีปัญหาอยู่ในระดับมาก ( "Χ" ̅" = 4.34" ) ด้านคณะกรรมการสถานศึกษา โดยรวมมีปัญหาอยู่ในระดับมาก ( "Χ" ̅" = 4.20" ) ซึ่งข้อที่ค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ไม่สามารถมาเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการสถานศึกษาได้ทุกครั้งมีปัญหาอยู่ในระดับมาก ( "Χ" ̅" = 4.39" ) ด้านครู โดยรวมมีปัญหาอยู่ในระดับมาก ( "Χ" ̅" = 4.01" ) ซึ่งข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ขาดความมั่นใจในการแสดงความคิดเห็นและไม่กล้าตัดสินใจ มีปัญหาอยู่ในระดับมาก ( "Χ" ̅" = 4.11" ) ด้านผู้บริหารสถานศึกษา โดยรวมมีปัญหาอยู่ในระดับปานกลาง ( "Χ" ̅" = 2.98" ) ซึ่งข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ไม่สามารถเปลี่ยนพฤติกรรมครูจากการเป็นผู้ปฏิบัติมาเป็นการร่วมตัดสินใจได้ มีปัญหาอยู่ในระดับมาก ( "Χ" ̅" = 3.62" )

2. รูปแบบการบริหารงานวิชาการแบบมีส่วนร่วม เพื่อพัฒนาศักยภาพผู้เรียนสู่ความเป็นเลิศของโรงเรียนเทศบาลวัดไทยชุมพล (ดำรงประชาสรรค์) สังกัดเทศบาลเมืองสุโขทัยธานี เป็นแบบที่มีประสิทธิภาพมีประโยชน์ในการบริหารงานวิชาการและทางการศึกษา มีความเหมาะสม และมี ความเป็นไปได้ในทางปฏิบัติ และผู้เกี่ยวข้องมีความพึงพอใจ อยู่ในระดับมาก โดยองค์ประกอบของรูปแบบมีองค์ประกอบ 5 ส่วน คือ ส่วนที่ 1 ชื่อของรูปแบบ ส่วนที่ 2 หลักการ แนวคิด และวัตถุประสงค์ของรูปแบบ ส่วนที่ 3 กระบวนการบริหารงานวิชาการแบบมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาศักยภาพผู้เรียนสู่ความเป็นเลิศ ส่วนที่ 4 ภาพความสำเร็จของการ พัฒนาศักยภาพผู้เรียนสู่ความเป็นเลิศ และส่วนที่ 5 เงื่อนไขความสำเร็จของรูปแบบ

เว็บน่าสนใจ