ชื่อผลงาน การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ เรื่อง ทศนิยม และเศษส่วน โดยใช้แบบฝึกทักษะประกอบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือสำหรับนักเรียน ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนสะเดา ขรรค์ชัยกัมพลานนท์อนุสรณ์ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา
ชื่อผู้ศึกษา นางเสาวนีย์ สีทอง
สถานศึกษา โรงเรียนสะเดา ขรรค์ชัยกัมพลานนท์อนุสรณ์ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา
ปีที่ทำผลงาน ปีการศึกษา 2558
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพแบบฝึกทักษะประกอบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เรื่อง ทศนิยมและเศษส่วนตามเกณฑ์มาตรฐาน 75/75 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ เรื่อง ทศนิยมและเศษส่วนของนักเรียนที่เรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะประกอบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือก่อนเรียนและหลังเรียน 3) เพื่อประเมินความพึงพอใจของนักเรียนต่อการใช้แบบฝึกทักษะประกอบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือของผู้เรียน กลุ่มประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 243 คน ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2558 โรงเรียนสะเดา "ขรรค์ชัยกัมพลานนท์อนุสรณ์" อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 16 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/3 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2558 โรงเรียนสะเดา "ขรรค์ชัยกัมพลานนท์อนุสรณ์" อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 16 จำนวน 38 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย แบบฝึกทักษะประกอบ การจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังเรียน แบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ วิเคราะห์ข้อมูลโดยการค่าเฉลี่ย (x̄ ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) วิเคราะห์ความแตกต่างโดยใช้การทดสอบค่าที (t-test) แบบ t-dependent และหาค่าประสิทธิภาพ จากสูตร E1/ E2
ผลการวิจัย
1. แบบฝึกทักษะประกอบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เรื่อง ทศนิยมและเศษส่วน จำนวน 7 ชุด มีค่าประสิทธิภาพเท่ากับ 89.85/86 ซึ่งสูงกว่า เกณฑ์มาตรฐาน 75/75
2. นักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้โดยการใช้แบบฝึกทักษะประกอบการจัดการเรียนรู้ แบบร่วมมือ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีคะแนนเฉลี่ยก่อนเรียนเท่ากับ 20.55 หลังเรียน มีค่าเท่ากับ 26.03 แสดงว่าผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. นักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้โดยการใช้แบบฝึกทักษะประกอบการจัดการเรียนรู้ แบบร่วมมือ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีความพึงพอใจในระดับมากที่สุด โดยมีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 4.61 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 0.67 สรุปได้ว่า ประกอบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ทำให้นักเรียนมีความพึงพอใจ จึงมีความเหมาะสมที่จะนำไปใช้ในการจัดการเรียนรู้