ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการจัดการความรู้เพื่อการบริหารงานวิชาการด้วยกระบวนการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วมโ

ชื่อผลงาน การพัฒนารูปแบบการจัดการความรู้เพื่อการบริหารงาน วิชาการด้วยกระบวนการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วมโรงเรียนเมืองสมเด็จ

อำเภอสมเด็จ จังหวัดกาฬสินธุ์

ผู้วิจัย นายสุรพงษ์ ภูแสงศรี

ชื่อหน่วยงาน โรงเรียนเมืองสมเด็จ อำเภอสมเด็จ จังหวักกาฬสินธุ์

ปีที่พิมพ์ 2559

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อการพัฒนารูปแบบการจัดการความรู้เพื่อการบริหารงานวิชาการด้วยกระบวนกรวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม โรงเรียนเมืองสมเด็จ อำเภอสมเด็จ จังหวัดกาฬสินธุ์ โดยใช้แนวคิดของเคมมิสและแม็กแทกการ์ท ผู้ให้ข้อมูลหลัก ได้แก่ หัวหน้ากลุ่มงานวิชาการ 1 คนทีมครูจัดการความรู้งานวิชาการ จำนวน 8 คน ได้มาโดยการเจาะจง (Purposive Sampling) กลุ่มผู้ให้ข้อมูลเพิ่มเติม ได้แก่ กรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนเมืองสมเด็จ อำเภอสมเด็จ จังหวัดกาฬสินธุ์ จำนวน 5 คน ซึ่งได้มาโดยการเจาะจง (Purposive Sampling) การเก็บรวบรวมข้อมูลใช้วิธีการ การวิเคราะห์เอกสารการสังเกตและสัมภาษณ์เชิงลึก การสังเกตแบบมีส่วนรวม และวิเคราะห์ข้อมูล โดยใช้วิธีวิเคราะห์เชิงปรากฎการณ์วิทยา

ผลการวิจัย พบว่า การพัฒนารูปแบบการจัดการความรู้เพื่อการบริหารงานวิชาการด้วยกระบวนการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม โรงเรียนเมืองสมเด็จ อำเภอสมเด็จ จังหวัดกาฬสินธุ์ ประกอบด้วย 2 องค์ประกอบหลัก คือ

1) ด้านการบริหารงานวิชาการ ได้แก่ การพัฒนากระบวนการความรู้ ประกอบด้วย กิจกรรมการจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ กระบวนการเรียนรู้และการนิเทศการสอน

2) กระบวนการจัดการความรู้ประกอบด้วย การระบุความรู้ การพัฒนาความรู้ การสร้างความรู้ การจัดความรู้ให้เป็นระบบ การเข้าถึงความรู้ การแบ่งปันความรู้ และการเรียนรู้ ประสิทธิผลจากการนำรูปแบบการจัดการความรู้เพื่อการบริหารงานวิชาการด้วยกระบวนการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม โรงเรียนเมืองสมเด็จ อำเภอสมเด็จ จงหวัดกาฬสินธุ์ ไปใช้ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในเชิงบริหาร คือ การบริหารแบบมีส่วนร่วมของหัวหน้ากลุ่มงานวิชาการและทีมครูจัดการความรู้งานวิชาการในทุกขั้นตอน มีการสนับสนุนการแบ่งปันแลกเปลี่ยนความรู้ การใช้เทคโนโลยีในการจัดการเรียนการสอน ครูนำการจัดการความรู้ไปพัฒนากระบวนการเรียนรู้ นักเรียนเกิดทักษะการวิเคราะห์ สังเคราะห์ และการแลกเปลี่ยนความรู้ในการทำงาน

TITLE A DEVELOPMENT OF THE KNOWLEDGE MANAGEMENT MODEL FOR

ACADWEMIC ADMINSTRATION IN MAUNGSOMDET ASAN SCHOOL

BY PARTICIPATORY ACTION RESEARCH

AUTHOR MR. SURAPONG PHUSANGSRI

EDUCATIONAL INSTITUTE MAUNGSOMDET SCHOOL, AMPHOE SOMDET,

CHANG WATKALASIN

DATE 2016

ABSTRACT

The purpose of this studs was to develop a knowledge managent model for academic administration in Maungsomdet school using participatory action research process as proposed by Maungsomdet and McTaggart. The major iformants of this study consisted of one administrator, eight teachers, and five basic education committee who were randomly selected according to the set criteria form Maungsomdet school. Data were collected by document analysis, in-depth interview and participatory observation. The phenomenological analysis was used to analyze the collecteh data.

The results of the study were as follows:

A Knowledge management model for academic administration in Maungsomdet school consisted of the main components:

(1) Academic administration, involved developing lerning processes which include leaening management planning, learning processes management, and teaching supervision;

(2) Knowledge management process involved knowledge identification, knowledge development, knowledge creation, knowledge organization, knowledge accessibility, knowledge sharing and learning. The implementation of knowledge management model for academic administration using participatory action research process in Maungsomdet school resulted changes in school administration. Specifically, it encouraged not only a participative administration style of administration but also teamwork among academic KM teahers in every step as well as administrators’ support of knowledge-sharing and technology using in teaching and, leaning processes. Teachers also adopted knowledge management process to improve their teaching-learning process. For student, knowledge management process enabled them to analyze, synthesize, and share their knowledge in working.

ชื่อเรื่อง รายงานการสร้างเสริมวินัยนักเรียนด้วยการวิจัยเชิงปฏิบัติการ

โรงเรียนเมืองสมเด็จ อำเภอสมเด็จ จังหวัดกาฬสินธุ์

ผู้เสนอผลงาน นายสุรพงษ์ ภูแสงศรี

ปีการศึกษา 2559

บทคัดย่อ

การมีวินัยด้านความประพฤติและด้านการแต่งกายเป็นการสร้างเสริมคุณลักษณะอันคือประสงค์ให้เกิดแก่ผู้เรียน และเป็นหลักสำคัญของการสร้างเสริมวินัยในตนเองให้เกิดขึ้นกับนักเรียน ส่งผลให้นักเรียน

มีการพัฒนาบุคลิกภาพ คุณธรรม จริยธรรม และสามารถดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข ส่งผลให้เกิดความสงบสุขทั้งตนเองโดยรวม การศึกษาครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อพัฒนาการดำเนินงานสร้างเสริมวินัยนักเรียนด้วยการวิจัยเชิงปฎิบัติการโรงเรียนเมืองสมเด็จ อำเภอสมเด็จ จังหวัดกาฬสินธุ์ 2 ด้าน คือ ด้านความประพฤติ

และด้านการแต่งกาย วิธีการศึกษาใช้หลักการวิจัยเชิงปฏิบัติการ กลุ่มผู้ร่วมศึกษาครั้งนี้ ได้แก่ ผู้ศึกษาค้นคว้าและครูที่ปรึกษา จำนวน 12 คนโดยความสมัครใจ เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้า มี 6 ชนิด ได้แก่

แบบสังเกต แบบสัมภาษณ์ แบบสอบถาม แบบรายงานการปฏิบัติหน้าที่ แบบบันทึกการประชุม และสมุดนิเทศภายใน การวิเคราะห์ประมวลผล การจัดกระทำและตรวจสอบข้อมูลใช้เทคนิคแบบสามเศร้า (Triangulation technique) นำเสนอในรูปของความเรียงเกี่ยวกับการพัฒนาการจัดกิจกรรมการสร้างเสริมวินัยนักเรียน

ผลการศึกษาค้นคว้าปรากฏดังนี้

1. ก่อนการพัฒนา นักเรียนขาดวินัยด้านความประพฤติ ได้แก่ การไม่เคารพครู ผู้ปกครอง

เล่นการพนัน ทำลายทรัพย์สมบัติของโรงเรียน เสพสิ่งเสพติดคิดเป็นร้อยละ35.21 นักเรียนแต่งกายไม่เป็นไปตามระเบียบที่โรงเรียนกำหนด ได้แก่ สวมเครื่องแบบไม่ถูกต้อง ใส่เครื่องประดับ ทรงผมไม่ถูกต้องแต่งหน้าใส่น้ำหอมมาโรงเรียนคิดเป็นร้อยละ 28.38 ส่งผลให้เกิดปัญหาในการจัดการเรียนการสอนการปกครองนักเรียน

การพัฒนานักเรียนให้มีคุณธรรม จริยธรรม การให้ความร่วมมือระหว่างโรงเรียนกับชุมชนเกิดภาพลักษณ์ที่ไม่ดีต่อโรงเรียน บรรยากาศไม่เอื้ออำนวยต่อการพัฒนาคุณภาพการศึกษา

2. การดำเนินการพัฒนา กลยุทธ์ที่ใช้ในการพัฒนาคือ การประชุมแบบมีส่วนร่วมกิจกรรมสร้างเสริมวินัยนักเรียนและการนิเทศภายใน ซึ่งกิจกรรมสร้างเสริมนักเรียน ได้แก่ กิจกรรมเยี่ยมบ้าน กิจกรรมส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรม กิจกรรมยกย่องชุดชูเกียรตินักเรียน กิจกรรมการอบรมหน้าเสาธง และกิจกรรมโฮมรูม เพื่อให้นักเรียนได้ทราบถึงระเบียบวินัยด้านความประพฤติและด้านการแต่งกายให้นักเรียนมีแนวปฏิบัติที่ชัดเจน มีการกำกับติดตามผลอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ ส่งผลให้นักเรียนมีวินัยในตนเองในด้านความประพฤติที่ดีงาม รวมถึงด้านการแต่งกายที่ถูกต้องตามระเบียบ ข้อกำหนดของโรงเรียน

3. ผลการพัฒนา ด้านความประพฤติ นักเรียนมีวินัยด้านความประพฤติดีขึ้น รู้จักรู้จักเคารพครูผู้ปกครอง ไม่เล่นการพนัน ไม่ทำลายทรัพย์สมบัติของโรงเรียน ไม่เสพสิ่งเสพติด ยังเหลือนักเรียนที่ต้องได้รับการสร้างเสริมวินัยด้านนี้เพียงร้อยละ 6.50 และด้านการแต่งกายนักเรียนมีวินัยด้านการแต่งกายถูกต้องตามเป็นไปตามระเบียบตามที่โรงเรียนกำหนดเพิ่มขึ้นเช่นกัน สวมเครื่องแบบถูกต้อง ไม่ใส่เครื่องประดับ ทรงผมถูกต้อง

ไม่แต่งหน้า ไม่ใส่น้ำหอม โดยจะมีนักเรียนที่ต้องได้รับการสร้างเสริมวินัย ด้านนี้เพียงร้อยละ 3.59 เท่านั้น ทั้งนี้อาจจะเป็นเพราะว่ากิจกรรมต่างๆ ที่ผู้ร่วมศึกษาและกลุ่มผู้ร่วมศึกษาจัดขึ้นล้วนแล้วแต่เป็นกิจกรรมที่สร้างแรงจูงใจให้เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและกระตุ้นให้นักเรียนเกิดเจตคติที่ดี มีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง

ในด้านการมีวินัยด้านความประพฤติ และด้านการแต่งกาย เป็นการปลูกจิตสำนึกให้นักเรียนได้เห็นถึงประโยชน์ของการประพฤติที่ดีและการตกแต่งที่ดีด้วย

โพสต์โดย สุรพงษ์ : [15 ม.ค. 2560 เวลา 09:01 น.]
อ่าน [3831] ไอพี : 1.1.205.49
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 15,883 ครั้ง
SEO กับ SEM คืออะไร...ต่างกันแค่ไหน?
SEO กับ SEM คืออะไร...ต่างกันแค่ไหน?

เปิดอ่าน 2,169 ครั้ง
สุขอนามัยที่ดีในการนอนหลับ 10 ประการ
สุขอนามัยที่ดีในการนอนหลับ 10 ประการ

เปิดอ่าน 18,300 ครั้ง
5 สุดยอดผักผลไม้ กินแล้วไม่แก่!
5 สุดยอดผักผลไม้ กินแล้วไม่แก่!

เปิดอ่าน 24,746 ครั้ง
6 หนทางสู่ความร่ำรวยตั้งแต่อายุยังน้อย
6 หนทางสู่ความร่ำรวยตั้งแต่อายุยังน้อย

เปิดอ่าน 35,890 ครั้ง
การใช้ตราสัญลักษณ์สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
การใช้ตราสัญลักษณ์สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน

เปิดอ่าน 28,406 ครั้ง
บทบาทของสื่อมัลติมีเดีย
บทบาทของสื่อมัลติมีเดีย

เปิดอ่าน 16,756 ครั้ง
สุดยอดโปรแกรมตรวจสอบสเปคคอมพิวเตอร์ ปี 2012
สุดยอดโปรแกรมตรวจสอบสเปคคอมพิวเตอร์ ปี 2012

เปิดอ่าน 14,990 ครั้ง
อะไรคือ "คุณภาพแท้" ของการศึกษา
อะไรคือ "คุณภาพแท้" ของการศึกษา

เปิดอ่าน 17,086 ครั้ง
ทําไมลูกไม่หายไอสักที ?
ทําไมลูกไม่หายไอสักที ?

เปิดอ่าน 7,758 ครั้ง
รมต.สาธารณสุข แนะเลี้ยงลูกเทพให้พอดี ถ้าคิดว่าตอบโต้ได้ควรปรึกษาแพทย์
รมต.สาธารณสุข แนะเลี้ยงลูกเทพให้พอดี ถ้าคิดว่าตอบโต้ได้ควรปรึกษาแพทย์

เปิดอ่าน 40,477 ครั้ง
นวดศีรษะและต้นคอก่อให้เกิดอันตรายจริงหรือ?
นวดศีรษะและต้นคอก่อให้เกิดอันตรายจริงหรือ?

เปิดอ่าน 15,566 ครั้ง
ซักซ้อมความเข้าใจเรื่องอำนาจการอนุมัติสั่งซื้อสั่งจ้างตามระเบียบฯว่าด้วยการพัสดุ 2535 และที่แก้ไขฯ
ซักซ้อมความเข้าใจเรื่องอำนาจการอนุมัติสั่งซื้อสั่งจ้างตามระเบียบฯว่าด้วยการพัสดุ 2535 และที่แก้ไขฯ

เปิดอ่าน 28,116 ครั้ง
9 อาการป่วยเพราะน้ำ(ในตัว) ขึ้น-ลง
9 อาการป่วยเพราะน้ำ(ในตัว) ขึ้น-ลง

เปิดอ่าน 12,762 ครั้ง
"เด็กรุ่นใหม่" ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด?
"เด็กรุ่นใหม่" ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด?

เปิดอ่าน 11,938 ครั้ง
การศึกษาไทยหลายเรื่องคงต้องพึ่ง ม. 44 จริงๆ
การศึกษาไทยหลายเรื่องคงต้องพึ่ง ม. 44 จริงๆ

เปิดอ่าน 56,978 ครั้ง
ทำไมเครื่องบินกระดาษจึงบินได้
ทำไมเครื่องบินกระดาษจึงบินได้
เปิดอ่าน 3,589 ครั้ง
ปลูก กล้วยน้ำว้านวลจันทร์ สายพันธุ์ดี สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ
ปลูก กล้วยน้ำว้านวลจันทร์ สายพันธุ์ดี สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ
เปิดอ่าน 51,924 ครั้ง
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 13 การเตะโทษ
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 13 การเตะโทษ
เปิดอ่าน 10,539 ครั้ง
หนุ่มๆ ควรเลือกใส่สีเสื้อ สีไหนดี?
หนุ่มๆ ควรเลือกใส่สีเสื้อ สีไหนดี?
เปิดอ่าน 11,544 ครั้ง
Google จัดอันดับคำค้นฮิตปี 52
Google จัดอันดับคำค้นฮิตปี 52

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ