ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
บทคัดย่อ ชื่องานวิจัยการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีการสร้างความรู้เพื่อส่งเสริมความสามารถใ

ชื่องานวิจัย การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีการสร้างความรู้

เพื่อส่งเสริมความสามารถในการอ่านจับใจความและ

การคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3

ชื่อผู้วิจัย นางสาวนิชาภา พราวศรี ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะครูชำนาญการพิเศษ

โรงเรียนบ้านสิริขุนหาญ อำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ

องค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น

ปีที่วิจัย 2558

บทคัดย่อ

การวิจัยการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีการสร้างความรู้ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการอ่านจับใจความและการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานสภาพปัญหาและความต้องการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ในกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 2)เพื่อออกแบบและพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีการสร้างความรู้เพื่อส่งเสริมความสามารถด้านการอ่านจับใจความและการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 3)เพื่อทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีการสร้างความรู้เพื่อส่งเสริมความสามารถด้านการอ่านจับใจความและการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 4)เพื่อประเมินผลและปรับปรุงแก้ไขรูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีการสร้างความรู้ 4.1)เพื่อส่งเสริมความสามารถด้านการอ่านจับใจความและการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 4.2)เปรียบเทียบความสามารถด้านการอ่านจับใจความ ก่อนและหลังของการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีการสร้างความรู้เพื่อส่งเสริมความสามารถด้านการอ่านจับใจความและการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 4.3)ศึกษาความสามารถในการคิดวิเคราะห์หลังการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีการสร้างความรู้ เพื่อส่งเสริมความสามารถด้านการอ่านจับใจความและการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 4.4)ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีการสร้างความรู้เพื่อส่งเสริมความสามารถในด้านการอ่านจับใจความและการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 5)เพื่อขยายผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีการสร้างความรู้เพื่อส่งเสริมความสามารถในด้านการอ่านจับใจความและการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3

กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/1 โรงเรียนบ้านสิริขุนหาญ อำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2558 จำนวน 37 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยในการสุ่ม (Sampling Unit)

กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการขยายผลการวิจัยนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/2 โรงเรียนบ้านสิริขุนหาญ อำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2558 ซึ่งไม่ใช่กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการทดลอง

จำนวน 36 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีการสร้างความรู้ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการอ่านจับใจความและการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 แผนการจัดการเรียนรู้ แบบทดสอบวัดความสามารถในด้านการอ่านจับใจความ แบบทดสอบวัดความสามารถในด้านการคิดวิเคราะห์ และแบบสอบถามความพึงพอใจ การวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ( ) ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) สถิติ ทีแบบไม่อิสระ (t –test dependent) ทีแบบอิสระ (t –test independent และการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis)

ผลการวิจัย

1. รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีการสร้างความรู้ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการอ่านจับใจความและการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ประกอบด้วยองค์ประกอบ 3 องค์ประกอบ คือ หลักการและวัตถุประสงค์ กระบวนการเรียนรู้ และ ข้อเสนอแนะในการนำรูปแบบไปใช้ องค์ประกอบกระบวนการเรียนรู้ มี 5 ขั้น เตรียมความพร้อม (Preparation) ขั้นเรียนรู้สู่การคิด (Learn to Thinking) มี 4 ขั้นตอนย่อย 1) ตั้งคำถาม 2) ตอบคำถาม 3) เล่าตามสิ่งที่อ่าน 4) ทบทวนและสรุปใจความสำคัญของเรื่อง ขั้นสะท้อนความคิด (Reflection) ขั้นสร้างความรู้ (Construction) และ ขั้นประเมินผล (Evaluation) มีประสิทธิภาพ เท่ากับ 83.35/85.00 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80

2. ความสามารถด้านการอ่านจับใจความของนักเรียนหลังการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีการสร้างความรู้กลุ่มตัวอย่างสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิตที่ระดับ .01

3. ความสามารถด้านการคิดวิเคราะห์หลังการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีการสร้างความรู้ โดยภาพรวมมีระดับความสามารถด้านการคิดวิเคราะห์ ดีเยี่ยม

4. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบการจัดการ

เรียนรู้ตามทฤษฎีการสร้างความรู้ ในภาพรวมอยู่ระดับมากที่สุด ( = 4.83,S.D. = 0.38)

5. ผลการขยาย พบว่า หลังการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตาม

ทฤษฎีการสร้างความรู้ นักเรียนมีความสามารถด้านการอ่านจับใจความสูงว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิตที่ระดับ .01 มีความสามารถด้านการคิดวิเคราะห์โดยภาพรวมมีระดับความสามารถด้านการคิดวิเคราะห์ ดีเยี่ยม ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีการสร้างความรู้ ในภาพรวมอยู่ระดับมากที่สุด( = 4.81, S.D.= 0.39)

โพสต์โดย นิชาภา : [21 ก.พ. 2560 เวลา 05:16 น.]
อ่าน [2712] ไอพี : 118.175.236.129
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 7,884 ครั้ง
โรงเรียนยุคมิลเลนเนียล
โรงเรียนยุคมิลเลนเนียล

เปิดอ่าน 18,733 ครั้ง
ดูทีวีเวลานอน...ผู้ใหญ่เสี่ยงโรค-เด็กเสี่ยงโง่
ดูทีวีเวลานอน...ผู้ใหญ่เสี่ยงโรค-เด็กเสี่ยงโง่

เปิดอ่าน 7,533 ครั้ง
"ฟุตบอล"...สอนอะไร
"ฟุตบอล"...สอนอะไร

เปิดอ่าน 13,029 ครั้ง
ชี้เอเชียรู้จักเทคนิควาดภาพด้วยสีน้ำมันก่อนยุโรปหลายร้อยปี
ชี้เอเชียรู้จักเทคนิควาดภาพด้วยสีน้ำมันก่อนยุโรปหลายร้อยปี

เปิดอ่าน 16,443 ครั้ง
จำได้ไหม ย้อนวันวานของอาจารย์ "กาญจนา นาคสกุล" ราชบัณฑิต
จำได้ไหม ย้อนวันวานของอาจารย์ "กาญจนา นาคสกุล" ราชบัณฑิต

เปิดอ่าน 28,902 ครั้ง
ประวัติศาสนาพุทธ
ประวัติศาสนาพุทธ

เปิดอ่าน 28,253 ครั้ง
หลักสูตรการสอบภาค ข ครูผู้ช่วย สพฐ. ตามหนังสือ ว14/2558
หลักสูตรการสอบภาค ข ครูผู้ช่วย สพฐ. ตามหนังสือ ว14/2558

เปิดอ่าน 117,004 ครั้ง
การเรียนการสอนผ่านเว็บ (Web-Based Instruction)
การเรียนการสอนผ่านเว็บ (Web-Based Instruction)

เปิดอ่าน 3,217 ครั้ง
4 ประโยชน์ของอะโวคาโด กินอย่างไรให้ได้ประโยชน์มากที่สุด
4 ประโยชน์ของอะโวคาโด กินอย่างไรให้ได้ประโยชน์มากที่สุด

เปิดอ่าน 22,498 ครั้ง
คลิปดรัมเมเยอร์โรงเรียนชะอวดวิทยาคาร พลิ้วสุด ๆ ยอดวิวหลักแสนแล้ว
คลิปดรัมเมเยอร์โรงเรียนชะอวดวิทยาคาร พลิ้วสุด ๆ ยอดวิวหลักแสนแล้ว

เปิดอ่าน 9,554 ครั้ง
สุดระทึก ขับรถฝ่าไฟแดง หนีการจับกุมตำรวจ
สุดระทึก ขับรถฝ่าไฟแดง หนีการจับกุมตำรวจ

เปิดอ่าน 49,598 ครั้ง
ซอฟต์แวร์ Open Source คืออะไร?
ซอฟต์แวร์ Open Source คืออะไร?

เปิดอ่าน 14,190 ครั้ง
ความลับของการเลี้ยงลูก พ่อแม่ยุคนี้ ช่วยสละเวลาสัก 2 นาที อ่านหน่อยเถอะ
ความลับของการเลี้ยงลูก พ่อแม่ยุคนี้ ช่วยสละเวลาสัก 2 นาที อ่านหน่อยเถอะ

เปิดอ่าน 88,330 ครั้ง
20 เรื่องวิทยาศาสตร์น่ารู้
20 เรื่องวิทยาศาสตร์น่ารู้

เปิดอ่าน 11,794 ครั้ง
อยากเปรี้ยวอย่างมีคุณค่า ต้องถามหา "จุลินทรีย์"
อยากเปรี้ยวอย่างมีคุณค่า ต้องถามหา "จุลินทรีย์"

เปิดอ่าน 17,483 ครั้ง
10 เส้นทางสุดฮอตเที่ยวไทยปี"54 ที่มาแรง
10 เส้นทางสุดฮอตเที่ยวไทยปี"54 ที่มาแรง
เปิดอ่าน 39,718 ครั้ง
ทำไมต้องจ้างผู้เชี่ยวชาญตรวจรับบ้าน?
ทำไมต้องจ้างผู้เชี่ยวชาญตรวจรับบ้าน?
เปิดอ่าน 14,378 ครั้ง
เสียงประทัดส่งผลกระทบผู้ป่วย "โรคหัวใจ-ความดันโลหิต"
เสียงประทัดส่งผลกระทบผู้ป่วย "โรคหัวใจ-ความดันโลหิต"
เปิดอ่าน 4,026 ครั้ง
JobsDB แนะทริคสมัครงานสำหรับเด็กจบใหม่  ทำอย่างไรให้ HR สนใจเรียกสัมภาษณ์งาน
JobsDB แนะทริคสมัครงานสำหรับเด็กจบใหม่ ทำอย่างไรให้ HR สนใจเรียกสัมภาษณ์งาน
เปิดอ่าน 8,792 ครั้ง
ฮิตทะลุโลก เผยยอดผู้ใช้เฟซบุ๊คมีจำนวนกว่าครึงพันล้านคน ใหญ่เท่ากับปท.อันดับสามของโลก
ฮิตทะลุโลก เผยยอดผู้ใช้เฟซบุ๊คมีจำนวนกว่าครึงพันล้านคน ใหญ่เท่ากับปท.อันดับสามของโลก

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
Koi360
คลินิกเสริมความงาม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 081-3431047

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ